[How-To] 4 วิธีเลือกที่ชาร์จมือถือในรถให้หมดห่วงเรื่องความปลอดภัย

[How-To] 4 วิธีเลือกที่ชาร์จมือถือในรถให้หมดห่วงเรื่องความปลอดภัย

[How-To] 4 วิธีเลือกที่ชาร์จมือถือในรถให้หมดห่วงเรื่องความปลอดภัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

    จริง ๆ แล้วอุปกรณ์ Gadget สำหรับในรถยนต์แล้วล้วนแต่เป็นสิ่งที่ใกล้ตัว ทั้งสร้างความสะดวกได้มาก และอาจจะก่ออันตรายได้ถ้าเลือกไม่ดี วันนี้ Sanook! Hitech มีคำแนะนำดี ๆ สำหรับเลือกอุปกรณ์ชาร์จมือถือในรถมาฝากกัน เพื่อเป็นแนวทางที่ถูกต้องและช่วยป้องกันภัยร้ายแรงต่อรถของคุณ

ตรวจสอบอุปกรณ์ที่จะใช้งานกับที่ชาร์จ


     สิ่งแรกที่ต้องดูก่อน คือมือถือของคุณว่า สามารถรองรับไฟฟ้าเข้าสู่ตัวเครื่องได้ดีที่สุดที่เท่าไหร่ เพราะถ้าเกิดเลือกผิดจ่ายไฟฟ้ามากเกินไป จะทำให้อุปกรณ์นั้นเป็นอันตรายได้ เพราะไฟฟ้าจะเกิด เสี่ยงต่อเกิดความร้อนสะสมและระเบิดจนเกิดไฟไหม้ในที่สุด

ตรวจสอบกล่องอุปกรณ์ที่จะเลือกซื้อ


     ต้องมีรายละเอียดข้อมูลครบและชัดเจน เช่น รองรับการจ่ายไฟกี่ Amp โดยสังเกตจากหน้ากล่องจะมีเครื่องหมายบอกเช่น 1A จะสามารถชาร์จไฟกับมือถือรุ่นปกติได้ แต่จะใช้เวลานาน 2.1A ชาร์จไฟกับมือถือรุ่นใหม่ ๆ หรือ Tablet ส่วนใหญ่ได้

     ถ้าเลือกมากไปนั้นผลเสียคือ ความร้อนสูงและเป็นอันตราย ยกเว้นบางรุ่นที่มีระบบควบคุมการจ่ายไฟจะทำให้เกิดความปลอดภัยได้

     แต่ถ้าอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จได้มากกว่า 1 ช่องเสียบจะต้องรองรับไฟมากกว่า 2 แอมป์ ขึ้นไป ทั้งนี้ไม่ต้องห่วงว่าแบตเตอรี่รถจะหมดเร็วเมื่อชาร์จกับอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะไฟฟ้าที่จ่ายเข้าไปส่วนมากจะรองรับแค่ 12 โวลล์ เท่านั้น

ดูสเปคว่ารองรับไฟในรถของคุณได้หรือไม่


      วิธีตรวจสอบว่ารถคุณสามารถจ่ายไฟออกช่องได้ง่ายเพราะในป้ายจะบอกชัดเจนโดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ ๆ แต่ถ้ารถรุ่นเก่าที่ไม่มีฝาปิดบอกตัวเลขแบบภาพด้านบนสามารถเปิดคู่มือรถยนต์ประกอบกันไปด้วย ก็จะทำให้เราสามารถมั่นใจได้ว่า อุปกรณ์ดังกล่าวใช้งานกับรถเราได้แน่นอน

อย่าเห็นแก่ราคาที่ถูกเกินไป


     การซื้อของที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า อย่าเห็นแก่ราคาที่ถูกเกินไป เพราะบางสิ่งที่ถูกอาจจะไม่ได้รับการตรวจสอบมาตรฐานที่รถยนต์รองรับ หรือระบบความปลอดภัยข้างในไม่เพียงพอต่อการจ่ายไฟได้ ซึ่งอาจจะทำให้คุณอยู่ในภาวะที่อันตรายได้

     โดยราคาที่จัดว่าเป็นอุปกรณ์ที่เป็นมาตรฐานจะต้องมีอยู่ 500 บาทขึ้นไปถือว่ารับได้แล้ว

     เคล็ดลับเหล่านี้ ถ้าเลือกถูกต้อง จะทำให้อุปกรณ์ชาร์จไฟในรถสามารถใช้ได้ยาวนานกว่ารถคันที่เราซื้อ เพราะมันจะเหมาะสม แข็งแรงทนทาน และไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ตลอดอายุการใช้งานอีกด้วยครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook