แนะนำ 5 Gaming Mouse เพื่อการเล่นเกมระดับเทพสำหรับคอเกมตัวจริงต้องมีไว้ติดตัว
เกมมิ่งเกียร์ประเภทเม้าส์จัดเป็นอาวุธหลักสำคัญที่ช่วยเพิ่มอัตราการชนะ ของผู้เล่นมากทีเดียวโดยเฉพาะในวงการ eSports ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดหรือเกมเมอร์ที่จริงจังในเรื่องเล่นเกมก็ด้วย ฉะนั้นการเลือกเม้าส์เกมมิ่งดี ๆ สักตัวจึงเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรจึงเป็นโอกาสเหมาะที่ทาง PCGAMER ได้มีเม้าส์เกมมิ่งระดับเทพจำนวน 5 ตัวมาให้เพื่อน ๆ ได้พิจารณาในการเลือกซื้อกันครับ
สำหรับเม้าส์ทั้ง 5 ตัวนี้ก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปตามความชอบของผู้ใช้งานและเรามาดูกันครับว่าไอเท็มทั้ง 5 จะมีอะไรบ้าง
ถ้าพูดถึงเม้าส์เกมมิ่งก็คงต้องนึกถึง Razer เป็นอันดับแรก ๆ ล่ะครับซึ่ง DeathAdder Chroma ก็เป็นเม้าส์ทรงประสิทธิภาพด้วยเซ็นเซอร์ optical 10000 CPI ที่จะให้ความแม่นยำสูง มีปุ่มคลิกซ้าย-ขวาให้สัมผัสการกดคลิกที่นุ่มนวลไม่กระด้างพร้อมกับรูปทรง ที่ออกแบบได้กระชับมี Grip ด้านข้างสร้างความมั่นใจได้ว่าจะไม่หลุดมือไปไหน
นอกจากนี้ตัวเม้าส์ก็รองรับกับสภาพการเล่นเกมอย่างยาวนานโดยเฉพาะอุ้งมือ ของผู้เล่นที่เล่นเกมนาน ๆ มักจะชุ่มด้วยเหงื่อแต่ด้วยวัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูงและมีการเคลือบทำให้ไม่ เกิดอาการลื่นหรือหลุดมือจากเม้าส์ได้ง่าย ๆ ส่วนน้ำหนักก็ให้มาพอดี ๆ เพียง 105 กรัมสามารถเล่นเกมประเภท FPS ได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักที่มากไป
ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ Synapse ก็ใช้งานง่ายสามารถปรับแต่งตั้งค่าได้หลากหลายตอบโจทย์คอเกมทุกประเภทครับ จึงทำให้ DeathAdder Chroma จาก Razer ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกสูงจะเล่นเกมก็ดีหรือจะใช้มันในงานอื่น ๆ เช่นแต่งภาพในโปรแกรม Photoshop , ท่องอินเตอร์เน็ต เม้าส์จาก Razer ตัวนี้ก็ตอบสนองได้หมดครับ
Razer DeathAdder Chroma จะมีราคาอยู่ที่ 66.99 ยูโร หรือ 2,600 บาท (อิงจาก Amazon)
ข้อดี
- มีราคาคุ้มค่า
- ตัวเซ็นเซอร์ Optical ที่มีประสิทธิภาพสูง
- รูปทรงสวยงามเหมาะมือ
ข้อเสีย
- ตัว Driver software ต้องลงชื่อแบบ Online 1 ครั้งก่อนใช้งาน
ส่วน SteelSeries Sensei RAW ก็จะเป็นเม้าส์ที่มีประสิทธิภาพลดหลั่นลงมาจาก DeathAdder ลงมาแต่มันก็ทดแทนด้วยการใช้งานที่คล่องตัวขึ้นด้วยน้ำหนักที่เบาหวิวเพียง 90 กรัมมีการออกแบบที่คล้ายกับ DeathAdder ในส่วนของ Grip ที่จับจะค่อนข้างกระชับมือพอใช้ได้และช่วยปกป้องเรื่องเหงื่อบนฝ่ามือไม่ให้ เกิดอาการลื่น
จุดเด่นอื่น ๆ ของ Sensei RAW ก็จะมีในเรื่องของรูปทรงที่ไม่โค้งหรืองอด้านใดด้านหนึ่งฉะนั้นมันจึงเป็น เม้าส์ที่รองรับเกมเมอร์ถนัดซ้ายและถนัดขวาหรือจะถนัดทั้งสองข้างเม้าส์เกม มิ่งจาก SteelSeries รุ่นนี้ก็บ่ยั่น ส่วนประสิทธิภาพทางด้านเซ็นเซอร์ก็จะสามารถปรับค่า CPI ได้ตั้งแต่ 90-5700 CPI เลยทีเดียว
ถึงอย่างนั้นตัวเม้าส์ก็จะข้อเสียตรงที่การเคลื่อนไหวบางครั้งเราอาจจะ เผลอไปกดปุ่มกดผิดปุ่มได้ง่ายทั้งนี้ก็เป็นเพราะการออกแบบที่จับที่ไม่เด่น ไปด้านใดด้านหนึ่งแต่ว่าข้อดีอีกอย่างที่พอจะทดแทนกันได้คือราคาของมันที่ จัดว่าถูกมากเหมาะสำหรับผู้เล่นที่งบน้อยมากที่สุดครับ
SteelSeries Sensei RAW จะมีราคาอยู่ที่ $54.99 หรือ 1,940 บาท (อิงราคาจาก Amazon)
ข้อดี
- มีราคาถูก
- น้ำหนักเบา
- ใช้ได้ทั้งคนถนัดซ้ายหรือถนัดขวา
ข้อเสีย
- เผลอไปกดปุ่มกดผิดปุ่มได้ง่ายในขณะที่มีการเคลื่อนไหว
เป็นเม้าส์จาก Razer ที่เปิดตัวไปไม่นานนี้ที่สานต่อประสิทธิภาพของเม้าส์ตระกูล Naga Hex โดยใช้ชื่อต่อท้ายว่า V2 ซึ่งมีข้อแตกต่างจากรุ่นเดิมตรงที่ปุ่มกดด้านข้างจะเป็นทรงกลมถึง 7 ปุ่มด้วยกันโดยมีการออกแบบให้กดใช้ได้ง่ายขึ้นถนัดมือแต่ถ้าหากรวมจำนวนปุ่ม กดทั้งหมดแล้ว Razer Naga Hex V2 จะมีปุ่มกดทั้งหมดถึง 12 ปุ่มด้วยกัน
ปุ่มกดได้ออกแบบให้ดีขึ้นแล้วทางด้านวัสดุที่ใช้ก็มีการอัพเกรดให้ดีขึ้น เหมือนกันด้วยพลาสติกด้านและมีการเคลือบผิวช่วยปกป้องเหงื่อจากบริเวณฝ่ามือ ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายไม่อึดอัดเมื่อเล่นเกมนาน ๆ โดยเฉพาะเกม MOBA หรือ MMO เม้าส์ Razer Naga Hex V2 จะช่วยตอบโจทย์ได้มากที่สุดครับ
อย่างไรก็ตามข้อเสียของมันก็มีนิดหน่อยคือปุ่ม Scroll Wheel ที่ใช้งานแล้วรู้สึกไม่สมูธเท่าไหร่แต่ถ้าใครไม่ซีเครียดกับเรื่องเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นเม้าส์เกมมิ่งตัวเด็ดที่น่าจัดมาก ๆ ครับ
Razer Naga Hex V2 จะมีราคาอยู่ที่ $79.99 หรือ 2,822 บาท (อิงราคาจาก Amazon)
ข้อดี
- รูปทรงดีไซน์ดีกว่า Naga Hex เวอร์ชั่นก่อน
- มีปุ่มกดเสริมที่รองรับกับเกม MOBA และ MMO
ข้อเสีย
- Scroll Wheel ไม่ให้ความนุ่มนวล
จากเม้าส์ Razer มาฝั่งของ Logitech กันบ้างด้วย G900 Chaos Spectrum ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องน้ำหนักที่เบาเพียง 107 กรัมพร้อมกับเซ็นเซอร์ PMW-3366 ให้ตัวเลข CPI ที่ 12000 CPI ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพดีกว่าเม้าส์ Logitech ทั้งหมดในคลาสเดียวกันมีระบบกลไกในการกดคลิกที่จะให้ผู้ใช้มีความรู้สึก พิเศษมีเสียงคลิกที่แตกต่างจากเม้าส์ทั่ว ๆ ไป
ส่วนการดีไซน์ออกแบบภายนอกก็ดูทันสมัยล้ำอนาคตสุด ๆ แต่ก็ยังอยู่ในกรอบของ Logitech ด้วยการใช้โทนสีดำเข้มให้ความรู้สึกดุดันที่แค่ถือเฉย ๆ ก็ดูเท่แล้วแถมความเจ๋งอีกอย่างของ G900 Chaos Spectrum คือมันสามารถถอดเปลี่ยนปุ่มกดเสริมได้ครับสามารถออกแบบตำแหน่งการกดปุ่มและ การจับเม้าส์ได้ด้วยตนเอง
G900 Chaos Spectrum จะมีราคาอยู่ที่ $149.99 หรือ 5,292 บาท
ข้อดี
- มีเซ็นเซอร์ที่ดีที่สุดในคลาสของเม้าส์ Logitech
- มีน้ำหนักเบา
- มีระบบกลไกการกดคลิกที่จะให้เสียงที่แตกต่างและความรู้สึกในการกดที่พิเศษ
ข้อเสีย
- ราคาแพงมาก
สุดท้ายด้วยเม้าส์จาก Logitech อีกตัวสำหรับคนที่ชอบความแม่นยำของเซ็นเซอร์สูงและรู้ตัวว่าเป็นคนมือ ใหญ่ Logitech G502 Proteus Core สามารถสนองนี้ดให้ได้ครับด้วยจุดเด่นที่ขนาดรูปร่างของมันค่อนข้างใหญ่ โตกว่าเม้าส์ปกติมาพร้อมกับน้ำหนัก 121 กรัมแต่ประสิทธิภาพของมันก็หนักหน่วงพอ ๆ กันด้วยเซ็นเซอร์ Avago ที่มีค่า CPI สูงถึง 12,000 CPI และระยะ Lift-off ที่ 1mm
การที่ตัวเม้าส์ทีค่า CPI ที่ 12,000 CPI ก็ทำให้เพิ่มความแม่นยำและลื่นไหลก็เหมาะมากสำหรับเกมที่ต้องการความเคลื่อน ไหวสูงอย่างเกม FPS และแม้ว่ามันจะมีรูปร่างที่ใหญ่แต่มันก็ไม่ทำให้เทอะทะเลยครับด้วยการออกแบบ เป็นพิเศษจาก Logitech ที่รองรับกับคนมือใหญ่ได้ดีพร้อมกับแผ่นยางกันลื่นด้านข้างซ้ายมือที่ให้ ความรู้สึกกระชับสร้างความมั่นใจได้ดีในขณะที่เล่นเกม
ฉะนั้นแล้ว Logitech G502 Proteus Core จึงเหมาะกับผู้เล่นที่มีขนาดมือที่ใหญ่ชอบเม้าส์หนัก ๆ และต้องการความแม่นยำจากตัวเซ็นเซอร์สูงและที่สำคัญตัวเม้าส์จะมีลูกตุ้ม ถ่วงน้ำหนักให้ผู้ใช้ปรับเพิ่ม-ลดน้ำหนักได้ตามชอบอีกด้วยครับเรียกว่าใหญ่ และยืดหยุ่นจริง ๆ
Logitech G502 Proteus Core จะมีราคาอยู่ที่ $79.14 หรือ 2,792 บาท (อิงราคาจาก Amazon)
ข้อดี
- มีเซ็นเซอร์เม้าส์ที่ดีที่สุดแม่นยำที่สุดในตอนนี้
- เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มือใหญ่
- มีค่า CPI สูงถึง 12000 CPI
ข้อเสีย
- ปุ่มกดเสริมบางปุ่มกดยาก
- หนักเกินไปสำหรับคนที่ต้องการเม้าส์เล็ก ๆ
ที่มา: PCGAMER
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ