เปรียบเทียบ Galaxy A9 Pro กับ ASUS ZenFone 3 Ultra ยอดมือถือจอยักษ์แบตอึด ที่มาแรงที่สุด
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A9 Pro กับ ASUS ZenFone 3 Ultra ยอดมือถือจอยักษ์แบตอึด ที่มาแรงที่สุด ณ ชั่วโมงนี้! ต่างกันอย่างไร ราคาเท่าไหร่ เลือกรุ่นไหนดี เราสรุปมาให้ท่านแล้ว!
หลังจากปล่อยให้แฟนๆ ในประเทศไทยลุ้นกันเป็นเวลานานว่า Samsung Galaxy A9 Pro สมาร์ทโฟนตัวท็อปในตระกูล Galaxy A Series จะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยหรือไม่
ล่าสุดทาง Samsung (ประเทศไทย) ก็ได้ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า Samsung Galaxy A9 Pro จะวางจำหน่ายในประเทศไทย และเปิดราคาที่ 15,900 บาท เท่านั้น
โดยฟีเจอร์ที่เด่นที่สุดคงเป็นสิ่งใดไปไม่ได้นอกจาก แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000 mAh พร้อมจอที่ใหญ่ถึง 6 นิ้ว และคุณสมบัติเด่นอีกมากมาย จึงทำให้ Galaxy A9 Pro กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากทีเดียว
แม้ว่า Samsung Galaxy A9 Pro จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมจากผู้เข้าชมอย่างมาก แต่สมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่ผู้ใช้ก็ให้ความสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือ Asus ZenFone 3 Ultra สมาร์ทโฟนแบรนด์ดังสุดอึดที่มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4600 mAh พร้อมจอไซส์ยักษ์ถึง 6.8 นิ้ว และคุณสมบัติตัวเครื่องที่โดดเด่นครบครันทุกการใช้งาน
วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงนำสมาร์ทโฟนยอดฮิตทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบให้ เห็นกันว่า ทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างไร และมีความโดดเด่นด้านใดบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้ซื้ออีกทางหนึ่ง สามารถรับชมได้จากตารางด้านล่างนี้เลยครับ
จากตารางเปรียบเทียบข้างต้นจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy A9 Pro และ Asus ZenFone 3 Ultra แม้โดยพื้นฐานจะมีคุณสมบัติหลายๆ ด้านที่ใกล้เคียงกัน เช่น ใช้หน่วยประมวลตัวเดียวกัน, มีหน่วยความจำแรม (RAM) ที่เท่ากัน และมีความละเอียดของหน้าจอที่เท่ากัน แต่ก็มีความโดดเด่นหลายๆ อย่างที่ต่างกันออกไป โดย Samsung Galaxy A9 Pro จะโดดเด่นกว่าในเรื่องของ วัสดุตัวเครื่อง, เทคโนโลยีหน้าจอ, แบตเตอรี่, ขนาดรูรับแสง และมีราคาที่ถูกกว่า ซึ่งน่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือรูปลักษณ์สวยหรูดูดี คุณสมบัติครบครันทุกการใช้งาน มีแบตเตอรี่สุดอึดถึง 5000 mAh ที่ใช้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นก็ยังไม่หมด และมีราคาไม่สูงเกินไปนัก
ส่วน Asus ZenFone 3 Ultra จะเด่นในเรื่องของ ขนาดหน้าจอ, ขนาดของหน่วยความจำภายใน (ROM), กล้องดิจิทัลด้านหลัง, การถ่ายวิดีโอ และการใช้งาน USB Type-C ซึ่งน่าจะเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานด้านความบันเทิงเป็นหลัก เช่น การชมภาพยนตร์ หรือการถ่ายรูป เนื่องจากหน้าจอมีขนาดใหญ่ คมชัด จะเหมาะสมกับการใช้งานด้านความบันเทิงมากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักหนึ่งเครื่องต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้เป็น สำคัญ หากท่านคิดว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดก็ตามสามารถตอบโจทย์การใช้งานของตนเองได้อย่าง ครอบคลุม และตรงกับความต้องการมากที่สุด สมาร์ทโฟนรุ่นนั้นก็คุ้มค่าต่อการจับจองเป็นเจ้าของแล้วครับ
อีกทั้งการซื้อมาให้ถูกใจในครั้งเดียวย่อมดีกว่าการซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ และต้องไปขายเพื่อซื้อใหม่อีกเครื่องนะครับ สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ