9 สมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 8,500 บาท มาแรงที่สุดประจำเดือนกรกฎาคม

     ใกล้เข้าสู่ช่วงปลายเดือน กรกฎาคม เข้าไปทุกที หลายคนที่เลือกดูราคามือถือที่มีงบประมาณไม่เกิน 8,500 บาท มาอ่านบทความนี้เพราะทีมงาน Sanook! Hitech ได้รวบรวมมือถือที่ดีในกลุ่มราคานี้มาให้ดูเพื่อเป็นข้อมูลดี ๆ ในการช่วยหลายคนตัดสินใจครับ

    มาดูกันครับว่าตอนนี้นั้นมือถือที่สามารถตอบโจทร์ความต้องการของเราไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการออกแบบ, กล้องหน้า, กล้องหลัง และราคาที่เหมาะกับเงินในกระเป๋าเรามีรุ่นอะไรบ้าง ไปเริ่มกันเลย....

OPPO F1

    OPPO F1 เป็นมือถือที่เปิดตัวอย่างอลังการในตอนต้นปีที่ผ่านมากับการโชว์จุดเด่นในการถ่ายภาพ Selfie ที่ต้องยอมรับว่ารุ่นนี้ทำได้ดีมาก ด้วยกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซลและมี Flash จากหน้าจอ ในเรื่องอื่น ๆ ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน รวมถึงความเสถียรของเครื่องที่ไม่มีปัญหา และงานประกอบเครื่องดี แม้จะเหมือนกับรุ่น R Series ของค่ายตัวเองบ้างก็ตาม

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 5.0 นิ้ว : 294 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 405
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 (ARM Cortex-A53) ความเร็วในการประมวลผล 1.7 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.1 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels (F/2.4) พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels (F/2.0)

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

Lenovo K5 Note

     เพิ่งเปิดตัวไม่นานในประเทศไทย ซึ่งตัวนี้ออกมาสานต่อสเปคเครื่องที่จัดเต็ม และจอใหญ่ขึ้นกับระบบสแกนลายนิ้วมือที่ทำให้เครื่องดูฉลาดมากขึ้น พร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ถึง 3500 mAh และระบบเสียงที่ดีจนเรียกได้ว่าเป็นเครื่องที่สร้างความบันเทิงพกพาได้ กับราคาที่ 7,990 บาท ก็ไม่ได้แพงเกินเอื้อมเกินไป

คุณสมบัติเด่น

• หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด Full HD (1920x1080) : 401 PPI พร้อมกับ GPU : Mali-T860MP2
• ประมวลผลผ่าน CPU Mediatek MT6755 Helio P10 Octa Core 1.8GHz พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
• ความจำในตัวขนาด 32GB เพิ่มได้ด้วย Micro SD รองรับสูงสุด 256GB พร้อมกับ RAM 3GB
• รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 4G LTE Cat 4 150/50 Mbps / 3G HSDPA / 2G และ Bluetooth
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับ Auto Focus และ LED Flash

Huawei GR5

     สำหรับ Huawei GR5 ก็เป็นอีกรุ่นที่ให้ลองเล่นเยอะมาก โดยเฉพาะระบบสแกนลายนิ้วมือที่ทำได้ระดับมือถือเป็นหมื่น แถมยังได้บอดี้ที่เรียกว่าดูดีมีชาติตระกูล กับสเปคเครื่องครบเครื่องในราคา 7,990 บาท อาจจะต้องกลับมามองกันอีกครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ และมีโปรฯร่วมกับ Operator รายหนึ่งจะทำให้การครอบครองนั้นง่ายมากขึ้น

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
• ประมวลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz (ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.2 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และ RAM ขนาด 2 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat4, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

Samsung Galaxy J5 Version 2

      แน่นอนว่ากลุ่มนี้ Samsung ไม่พลาดที่จะมีมือถือมาให้เลือก โดยเฉพาะรุ่น Galaxy J5 Version 2 รุ่นล่าสุดนี้ที่นอกจากจะให้ความจำในตัว 16GB กับสเปคเครื่องบางอย่างใกล้เคียง Galaxy J7 Version 2 ที่แพงกว่าแล้ว แต่เมื่อหน้าจอขนาดลดลงมาเหลือ 5.2 นิ้วแต่ความละเอียดยังคงเท่ากันทำให้ Galaxy J5 Version 2 จอจะคมกว่า ในราคา 7,900 บาท ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกว่าเดิม แถมได้ขอบเครื่องเป็นโลหะอีกยิ่งน่าคบไปกันใหญ่

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 5.2 นิ้ว : 282 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 306
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 ความเร็วในการประมวลผล 1.2 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 (Marshmallow)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และ RAM ขนาด 2 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, Bluetooth หรือ ANT+
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

ASUS Zenfone Selfie

     เอาใจคนอยากได้มือถือ Selfie ขั้นเทพอีกรุ่น ในงบประมาณจำกัด คงจะต้องเป็น ASUS Zenfone Selfie ตัวนี้เพราะกล้องหน้ามีขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับ ระบบ Auto Focus และมี LED Flash ให้ มั่นใจว่าการถ่ายภาพ Selfie สว่างแน่นอน ส่วนกล้องหลังก็ยังไม่ได้แย่เพราะให้ขนาด 13 ล้านพิกเซลเท่านกัน สเปคที่เหลือนั้นเรียกว่าใช้งานได้สบายสำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเกมเยอะ ในราคาประมาณ 8,490 บาทเท่านั้น

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 403 ppi) พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 (ซีพียู Quad-Core ARMv8 Cortex A53 ความเร็ว 1.7 GHz และ Quad-Core ARMv8 Cortex-A53 ความเร็ว 1.0 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0 (Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB หรือ 32 GB และ RAM ขนาด 2 GB หรือ 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
• เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE Cat4, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels กับไฟแฟลชแบบ Dual-LED (Dual-Tone) ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

Vivo V3

     แม้ราคาหน้าร้านอาจจะยังสูงถึง 8,990 บาท แต่ก็จัดว่าเป็นมือถือที่ทำโปรโมชั่นแรงอีกตัวหนึ่งถ้าเลือกดี ๆ อาจจะราคาถึง 8 พันได้เลย กับความโดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพโดยรวมและความเสถียรของ Color OS 2.5 เวอร์ชั่นใหม่ที่เรียกผู้ใช้หันกลับมามองไม่ยากนัก และที่ผ่านมาในงาน Thailand Mobile Expo เป็นมือถือที่ทำโปรโมชั่นหนักอีกรุ่นหนึ่ง

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 5.0 นิ้ว : 294 ppi) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB (ใช้งานร่วมกับช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง)
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

HTC Desire 728 Dual SIM

     อีกมือถือที่ทำราคาไม่สูงแต่ก็ไม่เกินงบ 8,500 ต้องมี HTC Desire 728 Dual SIM ติดแน่นอน เพราะเครื่องรุ่นนี้นอกจากรูปร่างที่จับถนัดมือและมี ROM เสถียรและดีแบบฉบับของ HTC และสเปคที่ไว้ใจได้ทำได้ทุกอย่างยกเว้นซื้อกับข้าว ก็ยังคงทำให้มือถือรุ่นนี้น่าเล่นอย่างยิ่ง ในราคาเพียง 7,590 บาท แต่อยากได้ต้องสั่งออนไลน์เท่านั้น

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ Super LCD 2 Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 267 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720MP3
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Mediatek MT6753 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz (ซีพียู ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.3 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และ RAM ขนาด 2 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 2 TB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat4, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

ZTE Blade S7

     เป็นมือถืออีกรุ่นที่เปิดตัวในประเทศไทยก่อนเป็นที่แรก โดดเด่นเรื่องระบบสแกนลายนิ้วมือ บอดี้โลหะ สเปคที่เรียกว่ายอดเยี่ยมพอสมควร กับสีสันตัวเครื่องที่เรียกได้ว่าสีเขียวเปรี้ยวมาก แถมช่วงนี้ปรับลดราคาเหลือเพียง 7,990 บาท ไม่แปลกใจถ้าคุณชอบมือถือที่ดูดี กล้องใช้ได้และการทำงานดีไม่ควรพลาด

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ In-Cell IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.0 นิ้ว : 441 ppi) พร้อมระบบสแกนม่านตา (Iris Scanner) และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor)
• ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz (ซีพียู Cortex-A53 1.5 GHz และซีพียู Cortex-A53 1.0 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
• ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat4, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels และกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels (พร้อม LED Flash และระบบ Auto Focus)

ข้อมูลจาก Thaimobilecenter

Meizu MX5

     ทำตลาดมาจะครบปีในประเทศไทย ในที่สุดรุ่นนี้ก็ปรับลดราคาเหลือ 7,990 บาท ทำให้เข้าข่ายของมือถือในกลุ่มนี้ได้อย่างง่ายดาย ด้วยตัวเครื่องทำจากโลหะเกรดเดียวกับ iPhone พร้อมขุมพลังสุดแรงและการใช้งานอาจจะไปทาง iPhone มากกว่าหน่อย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมในจีนขายดี แต่สำหรับคนไทยอยากซื้อต้องดูทางออนไลน์เท่านั้น

คุณสมบัติเด่น

• จอแสดงผลแบบ AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม (mTouch Button) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
• ประมวลผลการทำงานด้วย Octa-Core ARM Cortex-A53 Processor (ชิปเซ็ต MediaTek Helio X10 MT6795) ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Flyme OS เวอร์ชัน 4.5 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS)
• หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, 32 GB หรือ 64 GB และ RAM ขนาด 3 GB
• เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE Cat4, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth หรือ Infrared Port
• กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 20.7 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลชในตัว (Dual-LED Flash : Dual-Tone : Dual-Color) และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติด้วยลำแสงเลเซอร์ (Laser Auto Focus : Laser-Aided Focusing)

สนับสนุนเนื้อหา: Thaimobilecenter