How to Pokemon Go : 10 เรื่องควรรู้ใน Pokemon Go เล่นอย่างไรให้เก่ง

ก่อนไปสู้กับผู้เล่นอื่น เรามาทำความเข้าใจกับ 10 เรื่องควรรู้ใน Pokemon GO (โปเกมอน โก) กันก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการเล่น และพัฒนาตัวละครของเราให้เก่งเทพไว ๆ ครับ

ภายในเกมนั้น จะมีระบบ ๆ หนึ่งที่เรียกว่า Pokemon Gym ซึ่งหากใครที่เป็นแฟนเกมนี้ ย่อมรู้ดีว่ามันคือ “ระบบต่อสู้” และสำหรับในเกม Pokemon GO (โปเกมอน โก) นั้น Pokemon Gym คือจุดที่ผู้เล่นสามารถนำโปเกม่อนตัวเองไปสู้กับผู้เล่นอื่นได้นั้นเอง แต่ก่อนจะไปสู้นั้น เราต้องรู้ระบบพื้นฐานของเกมนี้ให้ดีก่อน เพื่อที่จะได้รู้ช่องทางการพัฒนาตัวละของเรา ให้เก่งจนสามารถไปสู้กับผู้เล่นอื่นได้ ดังนั้นผมจะมาเผย 10 เรื่องควรรู้ ของเกม Pokemon Go นี้กันครับ

หน้าตาของ Pokemon Gym

เรื่มแรก สิ่งที่ควรก่อนเวลาเล่นเกมนี้คือ เก็บ Level หรือ LV. ของตัวละครเราให้ถึง LV.5 ให้ไวที่สุด เนื่องจากเป็นเงื่อนไขขั้นแรก ของการไปท้าผู้เล่นอื่นใน Pokemon Gym นั้นเอง โดยวิธีปั่น LV.  ก็ไม่ยาก จับโปเกม่อนให้ได้เยอะ ๆ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว

และหลังจากที่เรามี LV.5 แล้ว ต่อไปก็ต้องเลือกฝ่าย ซึ่งใน Pokemon Go จะมีฝ่ายให้เลือกด้วยกับ 3 ฝ่ายหรือ “กิลด์” ได้แก่ VALOR, INSTINCT และ MYSTIC โดยทั้ง 3 ฝ่ายนี้ ก็อิงมาจากโปเกม่อนในตำนานรูปร่างนก ที่แฟน ๆ รู้จักกันดีคือ ไฟเยอร์(VALOR), ธันเดอร์ (INSTINCT) และ ฟรีซเซอร์ (MYSTIC) นั้นเอง ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นแล้วครับว่าจะเลือกฝ่ายไหน แน่นอนว่าเลือกได้ครั้งเดียว

วิธีเลือกฝ่าย สามารถเลือกได้ตอนไปกดที่เสา Gym ครับ

โฉมหน้าผู้นำทั้งสาม

2.เพิ่มค่า CP ให้สูง ๆ

ข้อนี้จัดว่าสำคัญที่สุด ที่ผู้เล่นต้องรู้เป็นอย่างยิ่ง มันคือ “ค่าวัดพลัง” ของโปเกม่อนนั้นเอง ยิ่งเยอะก็ยิ่งเก่ง โดยการเพิ่มค่า CP นั้น มีอยู่สองปัจจัยคือ “เปลี่ยนร่าง” (ในโปเกม่อนบางตัวจะมีร่างพัฒนาอีกขึ้น ซึ่งบางตัวพัฒนาได้ 3 ขั้น บางตัวได้ 2 ขั้น บางตัวมีแค่ร่างเดียว แต่เก่งพอแล้ว) กับยัดไอเทม “STARDUST” และ “CANDY” เป็นต้น ไอเทมอย่างแรก จะได้ตอนจับโปเกม่อนตัวใดก็ได้ ส่วน Candy จะแบ่งตามโปเกม่อนที่เราที่จับได้ เช่น เราจับ Pidgey ได้ ก็จะได้ “Pidgey Candy” มา ซึ่งเอามาอัพได้เฉพาะตัว Pidgey (หรือในตระกูลเดียวกันทั้งร่าง 1 -3) เท่านั้น ดังนั้นหากอยากปั้นตัวไหนให้เก่ง ก็ควรไล่จับตัวซ้ำให้ได้เยอะ ๆ ครับ

3.ขาย Pokemon เอา Candy

อีกวิธีที่ช่วยให้ได้ Candy เยอะ ๆ คือ “ขาย” เรียกว่าขายก็กระไร เรียกว่า “ส่งคืนโปเกม่อนให้ศาสตราจารย์” ดีกว่า คือหากเรามีโปเกม่อนซ้ำหลาย ๆ ตัว เราสามารถส่งคืนเพื่อแลก Candy ของโปเกม่อนตัวนั้น ๆ ได้ วิธีคือ ไปที่คลังโปเกม่อนแล้วเลือกโปเกม่อนที่ต้องการขา- เอ้ยส่งคืน จากนั้นให้สังเกตที่ปุ่ม 3 ขีดมุมล่างขวามือ ให้กดเลือก มันจะมีตัวเลือก 2 ข้อ ให้เลือก “TRANSFER” จากนั้นให้กด “YES” เป็นอันเสร็จ

เพิ่มเติม

ทุกครั้งที่เราจับโปเกม่อนได้ เราจะได้ Candy ของโปเกม่อนตัวนั้นมา 3 เม็ด หากขายก็จะได้อีก 1 เม็ด รวมเป็น 4 เม็ด เท่ากับว่า จับตัวซ้ำได้หนึ่งครั้ง เท่ากับได้ Candy ทีเดียว 4 เม็ด

4.พัฒนา Pokemon

บางคนคงสังสัยว่า Candy เอาไว้ทำอะไร ข้อนี้คือคำตอบครับ มันเอาไว้สำหรับพัฒนาโปเกม่อนนั้นเอง ในโปเกม่อนที่พัฒนาร่างได้ แต่ล่ะตัวจะมีความต้องการ Candy แตกต่างกันไป ซึ่งยังเป็นตัวบ่งบอกด้วยว่า ยิ่งต้องการ Candy เยอะ ก็ยิ่งโหดมากเท่านั้น สมมุติเรามี “Pidgeotto” พร้อม Pidgey Candy ครบ 50 เม็ดแล้ว ก็สามารถพัฒนาให้มันกลายเป็น “Pidgeot” ร่างสุดยอดของ Pidgey ด้วยการกดปุ่ม “EVOLVE” ได้เลยครับ

5.จับโปเกม่อนอย่างไรให้อยู่หมัด

เทคนิคการจับโปเกม่อน ให้สังเกตที่วงกลม 3 สี (ในที่นี้คือวงกลมสีเขียว) ที่จะมีการหดขยายตลอดเวลา จังหวะโยนบอล หรือ “Pokeball” ขึ้นไป ให้พยายามปัดให้โดนในวงกลมสีเขียว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับมากขึ้น ทั้งนี้หากเราปัดบอลเข้าตอนวงกลมหดมาก ก็ยิ่งได้คะแนนพิเศษอย่าง Nice, Great หรือ Excellent ด้วย ส่งผลให้ได้ค่าประสบการณ์มากขึ้น รวมถึงโอกาสในการจับมากขึ้นอีกเช่นกัน แต่อย่าลืมดูท่าทีของโปเกม่อนด้วย เพราะบางตัวสามารถโหม่ง Pokeball กลับได้อีกต่างหาก – –

6.เปิด AR ให้จับได้สะดวกขึ้น

อีกเทคนิคที่ช่วยให้จับโปเกม่อนง่ายขึ้นคือ เปิดโหมด AR ซึ่งตอนเข้าหน้าจับโปเกม่อน ให้ส่งเกตที่ปุ่มบนขวามือเรา ให้ติ๊กเพื่อเปิด เท่านี้เราก็จะได้ไม่ต้องแพนกล้องสมาร์ทโฟนหรือหมุนตัวเองตอนจับแล้ว ทั้งยังข่วยให้โยน Pokeball ได้ง่ายขึ้นเยอะ

7.น้ำหอมล่อใจ

สำหรับใครทีหาโปเกม่อนเจอยาก มันจะมีตัวช่วยคือ “Incense” หรือที่นิยมเรียกกันว่า น้ำหอม ไอเทมตัวนี้ สามารถช่วยล่อให้โปเกม่อนเข้าหาได้ง่ายขึ้น แต่การใช้แต่ล่ะครังจะมีเวลาจำกัดครั้งล่ะ 30 นาที และตัวน้ำหอมนี้ จะได้ 3 วิธีคือ อัพ LV ซื้อใน Shop และไปยืนหมุน “จุดมาร์ก” ที่จะมีอธิบายในข้อถัดไป

8.เค้าหา Pokeball จากไหนกัน

สำหรับ Pokeball คือไอเทมที่ขาดไม่เลยเลยในเกมนี้ แต่อย่างไรก็ตาม Pokeball ย่อมมีวันหมด ฉะนั้นการจะได้เพิ่มมีเพิ่ม 3 อย่างเช่นเดียวกับ Incense คือ ซื้อใน Shop, อัพ LV. (จะได้เป็นบางครั้ง แต่ได้ทีเดียวคือ 15 ลูก) และหมุนจุดมาร์ก โดยจุดมาร์กในที่นี้คือ “Pokemon Stop” ซึ่งมักจะอยู่ตามศาลพระภูมิและแลนมาร์กบางจุดในบ้านเรา ทุกครั้งที่ต้องการ เราต้องไปอยู่ใกล้ ๆ ในบริเวณดังกล่าง ถึงจะสามารถรับหรือดรอปของในจุดนี้ได้ แน่นอนว่าทุกครั้ง จะได้ Pokeball เสมอ แต่หากโชคดี จะได้ไอเทมดี ๆ อย่างอื่นด้วยเช่น Potion, Pevive, Incense และ “ไขโปเกม่อน” (มีอธิบายต่อในข้อสุดท้าย) เป็นต้น

เพิ่มเติม

ใน Pokemon Stop เราสามารถกลับมากดรับ Pokeball ได้ครั้งล่ะ 5 นาที (ประมาณนี้) ใครอยากได้ Pokeball เยอะ ๆ มายืนสิงเลยครับ (แต่อย่าไปยืนแช่ในศาลพระภูมิดัง ๆ อย่าง ศาลพระภูมิตรงแยกราชประสงค์ เดี๋ยวจะโดนไล่เอาครับ)

9.จุดรวมพล (จุดชุมนุมของเหล่าโปเกม่อน)

(ภาพ By มิตรสหายท่านหนึ่งของผมเอง)

จุด Pokemon Stop ไม่เพียงแต่จะเป็นจุดดรอปของ แต่ยังเป็น “จุดรวมพล” ด้วย คือมันจะมีไอเทมชิ้นหนึ่งที่เรียกว่า “Lure Modules” โดยไอเทมดังกล่าว จะมีความสามารถแบบเดียวกับ Incense คือ ใช้ล่อให้โปเกม่อนเข้าหาได้ แต่ตัวนี้จะเอาไว้ใช้ร่วมกับจุดมาร์กหรือ PokeStop ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณนั้น กลายเป็นพื้นที่ล่อโปเกมอนสำหรับผู้เล่นคนอื่น ๆ เรียกง่าย ๆ คือ หากเราใช้ไอเทมนี้ ผู้เล่นคนอื่นก็จะได้รับผลไปด้วย ดังนั้นผมจึงเรียกพื้นที่แบบนี้ว่าจุดรวมพลนั้นเอง

10.ฝักไข่เพิ่ม LV

สุดท้ายหนึ่งในไอเทมที่หลายคนต่างอยากได้คือ ไข่โปเกมมอน โดยไปรับได้จากจาก Pokemon Stop (แต่โอกาสได้น้อย) หากใครมีไข่ที่ว่านี้ ให้ทำการฝักมันด้วย “INCUBATORS” ไอเทมสำหรับฝักไข่ (ผู้เล่นทุกคนจะมีกันหมด) แต่จะใช้ได้เพียงครั้งล่ะหนึ่งใบเท่านั้น ซึ่งการฝัก ต้องอาศัยการเดินของเรา โดยไข่โปเกม่อนแต่ล่ะใบ จะมีเงื่อนไขการเดินไม่เท่ากัน เช่น 2 ก.ม. 5 ก.ม. และ 10 ก.ม. ทำให้การฝักแต่ล่ะที ต้องใช้เวลาพอควร แต่ใครอยากฝักทีเดียวหลาย ๆ ใบ ก็ต้องไปซื้อ INCUBATORS เพิ่มอีก เพื่อให้ฝักไข่ได้มากขึ้นนั้นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากเราจะได้โปเกมอนตัวใหม่จากในนี้แล้ว เรายังได้ค่าประสบการ์ณด้วย แถมยังได้เยอะทีเดียว ทำให้เราเก็บ LV ได้เร็วขึ้น และยังได้โปเกม่อนใหม่อีกด้วย !!

บทความโดย: K-BenZ นักเขียนหน้ามึน นอนตอนตีสาม ตื่นตอนตีห้า หลับต่อ 2 นาที กลายเป็น 2ชม. ผลคือมาสาย ตีหน้ามึนว่า "ทำงานดึกครับ" .....Repeat

สนับสนุนเนื้อหา: www.aripfan.com