5 สิ่งที่โปเกม่อน โก(Pokemon Go) จะพาเราไปในอนาคตอันใกล้
โปเกม่อน โก(Pokemon Go) คงสร้างปรากฎการณ์ในบ้านเราไปสักพัก นอกจากการเล่นเกมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนไทยและคนทั่วโลกแล้ว เคยมีคำตอบหรือไม่ว่าปรากฎการณ์โปเกม่อนจะส่งผลให้ธุรกิจเกมส์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รวมถึงอนาคตของคนเล่นเกมส์ที่จะส่งผลต่อวัฒนธรรมความเป็นอยู่โดยรวมจะเป็นเช่นไร
นาทีนี้คงไม่ต้องมาเยิ่นเย้อกันแล้วว่า โปเกม่อนโก มันเป็นมาอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง ผมสรุปในหนึ่งย่อหน้าก็คือ มันคือเกมที่พัฒนาต่อจาก ingress ที่มีกูเกิ้ลอยู่รั้งท้าย มันคือเกมส์ที่เอาสภาพความจริง คือถนนหนทางต่างๆ มาผนวกเข้ากับโลกจินตนาการของเกมส์
โดยมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักของคนวัยทำงานขณะนี้ เพราะมันเติบโตมาด้วยกันเลยทีเดียว ข้อหาที่มันโดนคือ เป็นเกมส์อันตรายที่หากเล่นไม่ระวัง หรือมัวแต่เล่นอาจส่งผลทางด้านชีวิตและทรัพย์สินได้ หรือว่าจะกลายเป็นภาพใหญ่ที่เกมมาคุกคามความมั่นคง ซะอย่างนั้น
เรามาว่ากันถึงปรากฎการณ์ โปเกม่อน โก(Pokemon Go) นี้จะส่งผลอะไรกับอนาคตอันใกล้กันเลยดีกว่า
1. เกมผสมกับโลกเสมือนจริงจะมาแรง ผมเองไม่รู้จะให้คำจำกัดความเกมประเภทนี้ว่าอย่างไร ก็อย่างที่รู้ว่า เกมเดิมๆ เราจะเล่นกับคอมพ์ หรือมือถือ กันอยู่คนเดียว แม้ว่าเกมจะต่อเชื่อมกับคนอื่นๆ ได้ขณะเล่น แต่เวลาเล่นเราก็อยู่แต่กับหน้าจอ แต่โปเกม่อนได้เปลี่ยนพฤติกรรม เราต้องเดิน เราต้องไปหาจุดตี เราต้องออกไปทำกิจกรรม มีแผนที่ มีจุดต่างๆ ล่อให้เราต้องทำอะไรบางอย่าง นั่นคือเราต้องออกจากโลกส่วนตัวขณะเล่นเกมและสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ค่ายเกมทั้งค่ายเล็กค่ายน้อย รวมถึงค่ายใหญ่อยากจะเอาคนออกมาจากบ้าน ตู้เกมส์ หรือแม้แต่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ฯลฯ แต่ติดกันตรงที่ถ้าจะเชื่อมโยงกับแผนที่จริง ก็ต้องไปถามกูเกิ้ลที่ถือลิขสิทธิ์แผนที่อยู่ หลักในการเสนอใช้แผนที่เพื่อทำเกมส์เป็นธุรกิจก็น่าจะสูงถึง 10 ล้านเหรียญ มันจะไม่เหมือนลูกหม้อของกูเกิลอย่างคนพัฒนาโปเกม่อน เพราะนายใหญ่ของเขาคือผู้ให้กำเนิดระบบแผนที่ของกูเกิล
แต่ผมยังเชื่อเช่นนั้นว่าจะมีคนทำ และทำขึ้นมาจำนวนมาก ระบบอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้แผนที่ เกมที่แบ่งพวกยิงกันที่แต่เดิมเคยใช้ฉากที่พัฒนาขึ้นมาเอง ก็จะเปลี่ยนไป หันมาใช้ฉากเสมือนจริง ลองนึกภาพเกมอย่าง เคาน์เตอร์สไตร์ค แทนที่จะยิงกันในฉาก แต่มีจุดนัดแนะที่เป็นจริง คนเล่นรวมตัวกันออกมาตั้งทีมลุยกันโดยมีโทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือ เชื่อว่าภายใน 2-3 ปีนี้จะมีเกมประเภทอย่างนี้ให้เราได้เล่นกันเป็นสิบเกม ส่วนจะดังหรือไม่ขึ้นกับองค์ประกอบ เช่น มีคาแรคเตอร์ดังๆ มาช่วยหรือไม่ กติกาง่ายและสมเหตุสมผลหรือไม่ ฯลฯ
2. อุปกรณ์ดีไวซ์ โดยเฉพาะมือถือสำหรับเล่นเกมจะเปลี่ยนไป เกมที่เราดาวน์โหลดไปเล่นบนมือถือนั้นยังเป็นเกมโลกเก่าซะส่วนใหญ่ เกมโลกใหม่ที่จะต้องเอามาเล่นต่อสู้กันบนโลกเสมือนจริงอย่างที่กล่าวไว้ในข้อหนึ่งมันจะต้องถูกออกแบบใหม่เพื่อให้เหมาะกับการเล่นจริงๆ
ตัวอย่างเช่น ความถึก-ทน ต้องอาจมีมากเป็นพิเศษ เพราะมันจะถูกใช้แข่งกันจริงๆ ต้องมีเดิน มีวิ่ง มีหลบหลีก มือถืออาจหลุดมือระหว่างวิ่งหรือเคลื่อนไหว ดังนั้นการออกแบบของมือถือจะต้องเข้ามารองรับ อย่างตอนนี้มือถือรุ่นกันน้ำก็มีออกมากันแล้ว พวกนี้คงจะถูกบวกเข้ามาในคุณสมบัติของมือถือรุ่นเล่นเกมส์ไปโดยปริยาย
ที่สำคัญคือเรื่องของดีไซน์การออกแบบ มือถือจะต้องทำให้การเล่นเกมส์สะดวกขึ้น มันอาจจะไม่ได้อยู่ในรูปสี่เหลี่ยมธรรมดาอีกต่อไป มันอาจจะถูกออกแบบมาให้ยิงสัญญาณ คล้ายๆ กับโยนบอลใส่โปเกม่อน ได้ง่าย ซึ่งเรื่องพวกนี้จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไอทีทั้งโลกต่อไป
3. เกมส์กับธุรกิจต่อเนื่องจะแยกกันไม่ออก เมื่อสมัยก่อนเกมส์ดังสร้างธุรกิจแคแรคเตอร์ มีการเอาไปสร้างภาพยนตร์ และกลายเป็นธุรกิจต่อเนื่อง แต่กระแสต่อไปนี้แคแรคเตอร์ดังจะถูกเอาไปทำเป็นเกมส์โลกเสมือนจริงที่ประสบความสำเร็จ เราอาจจะต้องไปเป็นพวกกบฎต่อต้านสหพันธ์ เหมือนในหนังสตาร์วอร์ แต่เปลี่ยนจากเล่นเกมส์ในบ้านธรรมดาไปเล่นกันอยู่กลางถนน, เราอาจเป็นหนึ่งในทีมโงกุล ตามล่าหาลูกแก้วมังกร เพื่อคืนชีพให้กับเพื่อนๆ ในฉากร้านกาแฟแห่งหนึ่ง, เราอาจเป็นทีมของกัปตันอเมริกา ต่อสู้กับทีมของไอรอนแมนกลางห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
ย้ำว่าแคแรคเตอร์มาแน่ ขณะเดียวกันธุรกิจบันเทิงอื่นๆ จะผนวกเข้ามาด้วยกัน เพื่อเป็นทางออกของธุรกิจที่กำลังจะตายเพราะหาทางออกไม่เจอในขณะนี้ ไม่นับการที่ธุรกิจต่อเนื่องที่เป็นธุรกิจท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ จุดต่างๆ ที่จะกลายเป็นฉากสำคัญในเกมส์ จะมีธุรกิจห้างร้านต่างๆ เข้าไปมีส่วนร่วมกับเกมส์โลกเสมือนจริงพวกนี้มากขึ้น
4. วัฒนธรรมส่งออกหนึ่งเดียวทั่วโลก ท่ามกลางการเล่นเกมของคนไทย ที่ถูกเกมโปเกม่อนบังคับให้เดินทางฟักไข่วันละ 5 กิโลเมตร การต้องออกไปแบทเทิลยังยิมที่กำหนด การต้องไปที่ใดที่หนึ่งเพื่อหาไอเทมสำคัญที่จะทำให้ค่าพลังของตัวเองเพิ่มขึ้น และเงื่อนไขต่างๆ ของเกม มันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่มันกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมกัน และเหมือนกัน ประสบการณ์เหล่านี้เกมเมอร์ยุคนี้กำลังได้รับและก้าวผ่านมันไป เป็นพฤติกรรมที่ถูกเกมบังคับ เป็นพฤติกรรมที่ทำซ้ำกันไปมา และนั่นกำลังนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมใหม่ๆ
แต่หลังจากเกมรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะออกมา เชื่อว่าเราจะเจอเกมส์ที่หน่อมแน้มน่ารัก เราจะเจอเกมแบ่งทีมกันรบ เราจะเจอเควซอะไรใหม่ๆ ซึ่งมันจะกลายเป็นภาษาสากล คนทั่วโลกจะทำอะไรร่วมกัน มีประสบการณ์ร่วมกัน ทั้งในแง่ดีและแง่เสีย การที่จะปกป้องวัฒนธรรมของแต่ละประเทศเพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ก็จะเริ่มน้อยลง แต่ละประเทศคงกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เกมส์มันจะทำลายวัฒนธรรมอันดีของประเทศตัวเองหรือเปล่า ก็จะมีรัฐบาลหลายประเทศออกมาปกป้องแน่นอน แต่ก็จะมีรัฐบาลหลายประเทศถือโอกาสโปรโมทวัฒนธรรมของประเทศตัวเองแทรกเข้าไปในเกมส์ ก็ต้องแล้วแต่ความสามารถของแต่ละประเทศแล้วกัน
5. ธุรกิจเกม ถึงเวลาของบิ๊กครองโลก ไม่น่าเชื่อเลยว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดธุรกิจเกมทั่วโลกถึงช่วงเวลาของบริษัทเกมรายเล็ก อันเนื่องมาจากการเติบโตของโทรศัพท์มือถือ เกมยักษ์ใหญ่ที่จะใช้ทรัพยากรมากมาย ใช้เวลาในการสร้างยาวนาน และมุ่งหวังครองตลาดโลก แม้จะยังอยู่ แต่การเกิดขึ้นของค่ายเกมเล็กๆ ที่ยิงเข้ามาในตลาดมือถือแทบจะทุกวัน ทำให้โลกของธุรกิจเกมกลายเป็นโลกแห่งเสรี ใครอยากทำก็ทำ ใครอยากดาวน์โหลดก็จัดไป เราจึงเห็นเกมเกลื่อน play store และ apple store
แต่เมื่อถึงวันนี้ วันที่ก้าวแรกของเกมผสมกับโลกเสมือนจริงเกิดขึ้น เกมเหล่านี้ต้องระดับบิ๊กๆ เท่านั้น ต้องระดับสายป่านยาวเท่านั้น เพราะนอกจากจะใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ใส่เทคโนโลยีที่มีลิขสิทธิ์มหาศาลอยู่เบื้องหลัง ใส่แคแรคเตอร์ที่ต้องการการดีลผลประโยชน์ร่วมกันมากมาย รายเล็กๆ อย่าได้หวังได้ผุดได้เกิดกันแล้ว มันต้องสเกลสำหรับค่ายเกมยักษ์ใหญ่ หรือรายใหม่ที่ทุนหนาระดับประเทศ
ซึ่งหากเหลียวมองค่ายเกมที่จะทำได้ขนาดนี้ก็มีแต่ค่ายเกมไม่กี่ประเทศ และเป็นค่ายเกมที่มีประชากรหรือตลาดใหญ่โตเพียงพออยู่แล้ว ประเทศเล็กๆ อย่างประเทศไทยอย่าได้หวัง เราอาจเป็นแค่ซับคอนแทคให้กับค่ายเกม หรือเป็นแค่ผู้เล่นชั้นต่ำ ที่ไม่ค่อยมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรมากนัก
นั่นคือการประเมินวิเคราะห์สภาพหลังจากการเกิดขึ้นของโปเกม่อนโก โปรดใช้วิจารณาญในการอ่าน เพราะบางอย่างอาจไม่เกิดขึ้นจริง แต่บางอย่างอาจเกิดขึ้นจริงและน่ากลัวว่าจะไปไกลกว่าที่นำเสนอ