แนะนำ 5 สมาร์ทโฟนแดนมังกรในราคาไม่เกิน 7,000 บาทที่มาแรงที่สุด ณ ชั่วโมงนี้!

แนะนำ 5 สมาร์ทโฟนแดนมังกรในราคาไม่เกิน 7,000 บาทที่มาแรงที่สุด ณ ชั่วโมงนี้! พร้อมฟีเจอร์เด่นครบครัน บนตัวเครื่องดีไซน์สวย รุ่นไหนดี แบรนด์ไหนเด่น เราคัดมาให้ท่านแล้ว!

หากท่านเป็นผู้ที่หมั่นติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำก็จะทราบดีว่าในระยะหลังๆ มานี้แบรนด์สมาร์ทโฟนจากประเทศจีนได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความคุ้มค่าต่อราคา พร้อมการดีไซน์ตัวเครื่องเรียบหรู จึงสามารถครองใจผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้นทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงทำการค้นหา และรวบรวมสมาร์ทโฟนแดนมังกรรุ่นใหม่ในราคาไม่เกิน 7,000 บาท และมาแรงที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ มาให้ได้ชมกัน ซึ่งจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นจากแบรนด์ใดบ้างนั้น เชิญติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยค่ะ 

Xiaomi Redmi Note 4 ราคา 899 หยวน (ประมาณ 4,700 บาท)

Xiaomi Redmi Note 4 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากตระกูลยอดนิยมอย่าง Redmi Note Series ที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นทั้งในด้านการดีไซน์ตัวเครื่อง และมีฟีเจอร์เด่นครบครันทุกการใช้งาน ดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 151x76x8.35 มิลลิเมตร น้ำหนัก 175 กรัม
- ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุโลหะพร้อมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน (Full Metal Unibody)
- หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซล 401 ppi พร้อมกระจกป้องกันหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D
- ชิปเซ็ตประมวลผล Deca-Core MediaTek Helio X20 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 2.1GHz
- ชิปเซ็ตประมวลผลภาพกราฟิก Mali-T880
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB และ 3GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 16GB และ 64GB
- กล้องด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และใช้โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) ทั้งแบบ nanoSIM และ microSIM พร้อมใช้งานเทคโนโลยี Full Netcom 2.0
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.2
- แบตเตอรี่ความจุ 4100 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยี Fast Charging
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย MIUI 8.0 

Xiaomi Redmi Note 4 วางจำหน่ายแยกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น RAM 2GB + ROM 16GB ราคา 899 หยวน (ประมาณ 4,700 บาท) และ RAM 3GB + ROM 64GB ราคา 1,199 หยวน (ประมาณ 6,200 บาท) 

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ Xiaomi Redmi Note 4

Meizu M3E ราคา 1,299 หยวน (ประมาณ 6,800 บาท)

Meizu M3E สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากค่าย Meizu ที่มาพร้อมความโดดเด่นในด้านการดีไซน์ตัวเครื่องที่ผลิตจากวัสดุประเภทโลหะอะลูมิเนียมซีรีส์ 6 ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน และอวกาศ ซึ่งมีคุณสมบัติตัวเครื่องครบครันทุกองค์ประกอบ ดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 153.6x75.8x7.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 172 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล : 403 ppi) พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Helio P10 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-T860
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX258, ไฟแฟลช LED, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 และระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโครงสร้างแบบ 4 ชิ้นเลนส์ และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3100 mAh พร้อมเทคโนโลยี Fast Charging ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 50% ได้ภายในเวลา 30 นาที
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งถูกครอบทับด้วย Flyme OS
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือภายใต้ปุ่มโฮม พร้อมเทคโนโลยี mTouch 2.1 ที่สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ภายในเวลา 0.2 วินาที
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n และ Bluetooth 4.1
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ Meizu M3E

 UMi Max ราคา 179.99 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,300 บาท)

UMi Max สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย UMi ที่มาพร้อมความโดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ บนดีไซน์หน้าจอแทบไร้ขอบ และตัวเครื่องโค้งมนที่ทำการผลิตจากวัสดุประเภทอะลูมิเนียม พร้อมปุ่มโฮมแบบ Breathing Light ที่ใช้เป็นไฟสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ (Notification LED) ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ที่ผลิตโดยบริษัท Sharp ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล) พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D และฟีเจอร์ Sunlight Screen ที่สามารถแสดงผลได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้ง
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Helio P10 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.0 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-T860
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16GB ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone 
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง Fast Charging
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C 
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n และ Bluetooth 4.1
- มาพร้อมตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเงิน และสีทอง

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ Umi Max

 Cool1 Dual ราคา 1,099 หยวน (ประมาณ 5,800 บาท)

Cool1 Dual สมาร์ทโฟนจากความร่วมมือของสองบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อย่าง LeEco และ CoolPad โดยมาพร้อมจุดเด่นด้วยกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) บนตัวเครื่องโลหะดีไซน์สวยหรู และมีฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 152x74.8x8.2 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 167 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล : 401 ppi)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 652 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 510
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB และ 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB และ 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Dual-LED, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และมีระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K Ultra HD (2160x3840 พิกเซล)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2
- แบตเตอรี่ความจุ 4060 mAh พร้อมเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย eUI 5.6
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n และ Bluetooth 4.1

Cool1 Dual วางจำหน่ายแบกเป็น 3 รุ่นย่อย ดังนี้

- รุ่นหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB ราคา 1,099 หยวน หรือประมาณ 5,800 บาท
- รุ่นหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB ราคา 1,499 หยวน หรือประมาณ 7,800 บาท
- รุ่นหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB ราคา 1,699 หยวน หรือประมาณ 8,900 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ Cool1 Dual

Meizu U20 ราคา 1,099 หยวน (ประมาณ 5,800 บาท)

Meizu U20 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Blue Charm Series ที่มาพร้อมการดีไซน์สวยหรูแบบ Metal-Glass โดยมีกรอบด้านข้างตัวเครื่องเป็นโลหะผสานเข้ากับกระจกที่ด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์การทำงานที่ครบครันในทุกองค์ประกอบ ดังนี้

- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล) พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D 
- ชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Octa-Core Processor
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB และ 3GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16GB และ 32GB 
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 3260 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS ซึ่งถูกครอบทับด้วย YunOS
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือภายใต้ปุ่มโฮม พร้อมเทคโนโลยี mTouch 2.1
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE

Meizu U20 วางจำหน่ายแยกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น RAM 2GB + ROM 16GB ราคา 1,099 หยวน (ประมาณ 5,800 บาท) และ RAM 3GB + ROM 32GB ราคา 1,299 หยวน (ประมาณ 6,800 บาท)  

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 5 สมาร์ทโฟนแบรนด์จีนในราคาไม่เกิน 7,000 บาท ที่ทางทีมงานได้คัดเลือกมาให้ได้ชมกัน จะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นมีฟีเจอร์ที่ครบครัน พร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน อีกทั้งยังมีการดีไซน์ตัวเครื่องสวยหรูด้วยการผลิตจากวัสดุระดับพรีเมียม เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนในข้างต้นมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน 

อย่างไรก็ดี เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ประเทศไทยยังมีการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนไม่แพร่หลายมากเท่าที่ควร จึงทำให้ผู้ใช้บางส่วนเลือกที่จะซื้อเครื่องหิ้วจากร้านค้าต่างๆ แทน แต่หากพิจารณาจากความสนใจในสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนของผู้ใช้ในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่าในเร็วๆ นี้แบรนด์สมาร์ทโฟนจากจีนอาจเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพิ่มมากขึ้นก็เป็นได้

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com