เปรียบเทียบเรือธง Samsung Galaxy Note 7 Vs iPhone 7 Plus ใครจะเหนือกว่า

     คงจะเป็นข้อกังขากันมานานแล้วสำหรับมือถือเรือธงระดับราคาเกิน 2 หมื่นทั้ง Samsung Galaxy Note 7 และ iPhone 7 Plus กันแล้วว่าตัวไหนจะดีกว่ากันล่ะเนี่ย วันนี้ Sanook! Hitech จะนำข้อมูลของทั้ง 2 รุ่นที่ตอนนี้มีเปิดเผยและเปรียบเทียบกันว่าใครจะได้เปรียบและเสียเปรียบเรื่องอะไรบ้าง

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Note 7 และ iPhone 7

ลักษณะของตัวเครื่อง

     เรียกว่าดีไปคนละแบบ โดย iPhone 7 Plus นั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดตัวเครื่องทั้งขนาดความกว้าง ยาว สูง เท่ากับ iPhone 6s Plus แต่ได้ได้เปรียบที่น้ำหนักเบากว่าอยู่ที่ 188 กรัม ก็ทำให้คุณสามารถพกพาเครื่องได้ไม่ยาก ด้านหลังมีเลนส์นูนออกมาหน่อยก็อาจจะทำให้ชิ้นนี้โดยกระทบจนเกินรอยได้เหมือนเคย แนะนำใส่เคสครับ

     ส่วน Samsung Galaxy Note 7 ใช้เฟรมโลหะที่บางลงกว่าเดิมโดยใช้กระจกโค้งทั้ง 2 ด้านมารับทำให้ตัวเครื่องที่หน้าจอใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว กลัวดูเล็กและไม่ได้แตกต่างกับขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วเท่าไหร่ ยกเว้นเความสูง ความพกง่ายนั้นก็มีอยู่ เลนส์กล้องข้างหลังมีนูนนิดหน่อย แต่เมื่อใส่เคสก็จะไม่โดนเลนส์กล้องค่อนข้างแน่นอนครับ

หน้าจอ

     หน้าจอของ iPhone 7 Plus นั้นมีขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด 1920x1080 เท่ากับ iPhone 6s Plus แต่มีการนำเทคโนโลยี sRGB ทำให้การแสดงสีนั้นค่อนข้างสมจริงและเน้นเรื่องความสว่างที่มากกว่าเดิม ทำให้ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม Apple เคลมว่าสามารถแสดงผลภาพได้เหมือนจริง แต่ของจริงคงต้องรอดู และจอของ iPhone 7 ก็ใช้เทคโนโลยีเดียวกันนะ

     ส่วนของ Samsung Galaxy Note 7 ใช้หน้าจอโค้งขนาด 5.7 นิ้วความละเอียด 2560x1440 หรือความละเอียด QHD ทำให้เมื่อดูไปแล้วความละเอียดของภาพ Samsung จะดีกว่าและการเลือกใช้หน้าจอแบบ sAMOLED ก็ได้เปรียบเรื่องความสว่างอยู่แล้ว ซึ่งกลายเป็นว่า Samsung จะแสดงผลภาพจะสดและสว่างกว่าเพราะรูปแบบของหน้าจอนั่นเอง

กล้อง

     แม้ว่ากล้องทั้งคู่จะมีความละเอียดเท่ากัน แต่รายละเอียดข้างในนั้นแตกต่างกันชัดเจน เริ่มจาก iPhone 7 Plus จะได้กล้องคู่ โดยเลนส์หนึ่งเป็นมุมกว้างขนาด 28 มิลลิเมตร รูรับแสง F1.8 อีกตัวหนึ่งจะเป็นกล้องแบบ Tele คือเน้นเรื่องการซูมจะมีรูรับแตื F2.2 และสามารถซูมได้มากถึง 10 เท่าผ่าน Software  ลดอาการแตกของภาพได้ และยังมีลูกเล่นที่ได้จาก Software คือการทำหน้าชัดหลังเบลอในเวลาที่คุณถ่ายรูปบุคคลได้ อันที่จริง ฝั่ง Android ก็มีมาสักพักกับมือถือยี่ห้อ Huawei แล้ว ส่วนกล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล F2.2 ถือว่าพัฒนาให้ชัดเจนมากขึ้น

กล้องหน้า

     ส่วนกล้องของ Samsung Galaxy Note 7 นั้นแม้จะเป็นกล้องตัวเดียว แต่ใช้รูรับแสงที่ F1.7 การถ่ายภาพจะสว่างกว่า และ เทคโนโลยี Dual Pixel ที่ทำให้การโฟกัสของภาพรวดเร็วและแม่นยำพอสมควร ไม่แปลกใจที่ Samsung กลับนำกล้องเดียวกับ S7 มาใช้ต่อในรุ่นนี้ ถ้าเทียบกับสเปคแบบนี้ก็จะดีไปคนละอย่าง แต่กล้องหน้านั้นความละเอียดแค่ 5 ล้านพิกเซล แต่ได้เปรียบตรงที่รูรับแสงก็ F1.7 เท่ากัน แม้ภาพจะเล็กแต่ก็สว่างกว่าเห็น ๆ

หน่วยประมวลผล

     เรียกว่าต่างรุ่นก็ต่างแรง เพราะว่า iPhone 7 Plus ใช้ CPU A10 Fusion ที่มี 4 แกนสมองประมวลผลเร็วกว่ารุ่นเดิม และมี M10 Co Processor ช่วยอีกแรงหนึ่ง นอกจากนั้นยังมียังได้ GPU แบบให้ทำให้ประมวลผลเร็วกว่าเดิม ให้ RAM 3GB  และเมื่อรวมกับ iOS 10 ทำให้สร้างความแตกต่างในเรื่องการทดสอบประสิทธิภาพและการใช้งานจริงมากขึ้น และแบตเตอรี่ของ iPhone 7 Plus อยู่ที่ 2900 mAh

     ส่วน Samsung Galaxy Note 7 นั้นได้ยกขุมพลังเดียวกับ Samsung Galaxy S7 edge มาทั้งหมด นั่นคือ Exynos 8890 Octa Core (8 แกนสมอง) พร้อมกับ GPU อย่าง Mali-T880 พร้อมกับ RAM 4GB และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow รอการอัปเดทเป็น Android 7.0 Nougat ซึ่งต้องรอทดสอบอีกครั้ง และแบตเตอรี่ให้มาขนาด 3500 mAh แต่เท่าที่ดูจากภาพรวม Samsung Galaxy Note 7 จะให้สเปคที่สูงกว่า แบตเตอรี่ก็เยอะกว่า

จุดเด่นของแต่ละรุ่น

     จุดเด่นของ iPhone 7 Plus นอกจากเรื่องกล้องคู่ หน้าจอที่ปรับปรุงกว่าเดิมคงจะเป็นเรื่องของการออกแบบให้ตัวเครื่องกันน้ำในมาตรฐาน IP67 สามารถกันฝุ่นได้จริง และกันน้ำได้ 1 เมตร นานสุด 30 นาที พร้อมกับปุ่ม Home ที่เรียบจนไม่รู้สึกว่ากด จนกว่ามอเตอร์สั่นหรือ Taptic Engine ทำงานเบา ๆ และยังมี 5 สีให้เลือกงามสุดคือ Jet Black แต่ถ้ากลัวรอยแล้ว Black ธรรมดา หรือสีอื่น ๆ ก็สวยเหมือนกันนะ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีรูหูฟังมาให้ แต่ชดเชยด้วยลำโพง Stereo มาให้

     ส่วน Samsung Galaxy Note 7 จะได้ปากกา S Pen ที่รองรับนำ้หนักได้มากถึง 4096 ระดับพร้อมกับหัวขนาด 0.7 มิลลิเมตรที่สามารถเขียนใต้น้ำได้แน่นอน และตัวเครื่องยังออกแบบให้กันน้ำในระดับ IP68 สามารถกันน้ำได้ 1.3 เมตร นานสุด 30 นาที นอกจากนี้ยังมี Iris Scan ช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วยการสแกนม่านตาและจดจำรายละเอียดของคุณได้ ส่วนสีนั้นมีแค่ 4 สีได้แก่ Gold Platinum, Sliver Titanium, Black Onxy ที่เหมือนกับ Jet Black และ Blue Coral ที่หลายคนอยากได้มาก

ราคา

     iPhone 7 Plus เมื่อเปิดราคาในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $769 และถ้ามองถึงในประเทศไทยคาดว่าเมื่อมาจำหน่ายในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ราคาเครื่องก็จะไม่ได้แตกต่างกับ iPhone 6s Plus ตอนเปิดตัวสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่คุณจะได้แน่นอนคือความจำที่มากขึ้น เพราะมีให้เลือกตั้งแต่ 32GB, 128GB และ 256GB  โดยรุ่น 128GB จะคุ้มค่าสุดเพราะดูไปแล้วรูปทั้งหมดที่เก็บคงจะเพียงพอสำหรับการจัดเก็บในเครื่องนี้เครื่องเดียว แต่ถ้าคุณอยากลองขนาด 32GB ก็เพียงพอ แต่จะไม่มีสี Jet Black ให้เลือกเท่านั้นเอง

     ส่วน Samsung Galaxy Note 7 นั้นราคาในประเทศไทยเปิดตัวอยู่ที่ 28,900 บาท เรียกได้ว่าพอ ๆ กับ iPhone 6s Plus ขนาดความจุ 64GB เลยก็ว่าได้ ซึ่งแต่ละสีนั้นได้ความจำเหมือนกันหมด แต่ถ้าคิดจะใช้แล้วความจำไม่พอ เพิ่มเงินไปซื้อ Micro SD Card มาใส่ก็ได้เลวร้ายแต่อย่างใด

     ทั้งหมดนี้คุณชอบค่ายไหนและดูงบประมาณเข้ากับตัวไหนและคุ้นเคยกับมือถือยี่ห้อไหนกับระบบปฏิบัติการไหนมากกว่ากันก็สามารถเลือกได้ตามสะดวกนะครับ เพราะทั้งคู่กับมีการออกแบบที่แตกต่างกัน

ที่มา: www.gizmochina.com