รีวิว iPhone 7 Plus แค่สั้น ๆ แต่มันก็อินจนถอนตัวไม่ขึ้น

รีวิว iPhone 7 Plus แค่สั้น ๆ แต่มันก็อินจนถอนตัวไม่ขึ้น

รีวิว iPhone 7 Plus แค่สั้น ๆ แต่มันก็อินจนถอนตัวไม่ขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     สิ้นสุดการรอคอยของคุณผู้อ่านทั้งหลายเพราะว่าคราวนี้ทีมงาน Sanook! Hitech ได้มีการติดต่อกับร้านขาย Gadget iPhone ที่พูดว่าเสือปืนไวพอสมควรที่นำ iPhone 7 Plus เข้ามาให้เราได้แกะกล่องแบบสั้น ๆ ไม่ยาวนัก

    แต่ก็ได้รู้หลายเรื่องพอสมควร ซึ่งงานนี้ต้องขอบคุณร้าน Am4You Gadget มา ณ ที่นี้ ไม่ให้เสียเวลาไปกว่านี้มาดูรายละเอียดตัวเครื่องเลยดีกว่า

รายละเอียดของ iPhone 7 Plus

  • ขนาดเครื่อง : 158.2 x 77.9 x 7.3 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก :  188 กรัม
  • สีของเครื่อง : Jet Black, Black, Silver, Gold, Rose Gold
  • CPU : Apple A10 Fusion Four Core 2.23GHz
  • GPU : (six-core graphics)
  • RAM : 3GB
  • ความจำในตัว :32GB/128GB/256GB
  • ความจำภายนอก : -
  • การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ 2G/3G/4G Cat 9 450/50 Mbps
  • WiFi 802.11 b/g/n/ac
  • Bluetooth V4.2
  • หน้าจอ : 5.5 นิ้ว LED-backlit IPS LCD ความละเอียด 1920x1080
  • กล้องหน้า : 7  ล้านพิกเซล F.2.2 + Selfie Flash
  • กล้องหลัง : กล้องคู่ 12 ล้านพิกเซล (28mm, f/1.8, OIS & 56mm, f/2.8), OIS, LED Flash True Tone 4 ดวง
  • ระบบปฏิบัติการ : iOS 10
  • แบตเตอรี่ 2900 mAh

เริ่มจากรูปร่าง ด้านหน้าของ iPhone 7 Plus ใช้หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด 1920x1080 เท่ากับ iPhone 6 Plus และ iPhone 6s Plus ไม่มีผิด แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือเรื่องการแสดงผลสีที่คมชัดมากขึ้นความกว้างของเครื่องเดิม

     และแน่นอนว่าด้านบนมีกล้องหน้าความละเอียดก็มากขึ้นถึง 7 ล้านพิกเซล พร้อมกับลำโพงสนทนาแต่ว่าคราวนี้มีขนาดที่ยาวขึ้นเพราะว่าเป็นลำโพงแบบ สเตอริโอ

     ด้านล่างเป็นที่อยู่ของปุ่ม Home แต่ไม่ธรรมดาเพราะคราวนี้ถ้าไม่สามารถกดลงไปได้ แต่จะเป็นการอ่านแรงกด ซึ่งอ่านแรงกดได้ 3 ระดับ 1 การแตะเพื่อสแกนลายนิ้วมือ Taptic Engine จะทำงานเมื่อผ่าน 2 กดลงไปเลยเพื่อเข้า Home หรือ ออกจาก Apps ซึ่ง Taptic จะสั่นแรงขึ้น แต่ยิ่งกดย้ำ จะสั่นถี่ และ 3 กดค้างไปเลย เพื่อใช้งาน Siri หรือ Voice Control ซึ่งจะสั่นเท่ากับ 2 ครั้งแต่ก็จะมีเสียง ติ่ง ๆ ทำงาน


    ด้านข้างซ้ายออกแบบด้วยอะลูมิเนียมเกรด 7000 เหมือนเดิม แต่น้ำหนักเบากว่าเดิม ไม่รู้ทำได้ยังไง ฝั่งซ้ายมีปุ่มฟังก์ชั่นที่สามารถปรับปิดเสียง หรือ ปิดการหมุดของจอ และปุ่มปรับระดับเสียง



    ด้านข้างขวา มีปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM

    ด้านบนไม่มีอะไร นอกจากเส้นของเสาอากาศรับสัญญาณ

    ด้านล่างมีลำโพง(อยู่ด้านขวา)พร้อมกับไมโครโฟน พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation (อยู่ด้านซ้าย) และ Lightning Port จุดนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงตัดช่องเสียบหูฟัง หรือเพราะไม่กันน้ำก็อาจจะเป็นไปได้

    ด้านหลังมาพร้อมกับสีตัวเครื่องดำสนิด พร้อมโลโก้ Apple และโลโก้ iPhone ด้านล่าง แต่จุดเด่นของ iPhone 7 Plus คือกล้องคู่ที่ได้เลนส์ทั้งกว้างและ Tele พร้อมกับ LED Flash 4 ดวง

    ภาพรวมของ iPhone 7 Plus ไม่ได้แตกต่างจาก iPhone 6 Plus และ iPhone 6s Plus ยกเว้นรายละเอียดบางจุดเช่นกล้องที่นูนขึ้น และกล้องคู่ พร้อมกับตัดช่องเสียบหูฟังออกไปเลย ไม่มีหูฟังอีกต่อไป ทำให้มองว่ามันเร็วไปสำหรับบางคนที่ต้องใช้หูฟังแบบเดิม แต่ก็มีอุปกรณ์เสริมเช่นตัวแปลงออกมาให้เหมือนเคย แต่มันก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ ส่วนน้ำหนักเครื่อง ถือนาน ๆ ก็มีเมื้อยอยู่บ้างนะ และยังดีที่ตัวเครื่องกันน้ำแล้ว แม้จะได้ IP67 ก็ตาม

ประสิทธิภาพ


     เนื่องจากเวลาเล่นน้อยใช้สอยประหยัดจึงสรุปจากที่ได้ลองเข้าใช้งานใน Apps ต่าง ๆ ภายในเครื่อง ถือว่าตอบสนองเร็วสมกับการใช้  CPU A10 Fusion พร้อม Co-Processor M10 และแน่นอนว่ามี RAM 3GB ในตัวนี้ หมดห่วงเรื่องช้า แต่สำหรับ iOS 10 นั้นมันเร็วอยู่แล้ว แม้ RAM 2GB ก็พอ และแบตเตอรี่ 2900 mAh ก็ทนอยู่ แต่มีโอกาสจะลองกด Benchmark ในอนาคต ตอนไหนคงต้องติดตามตอนต่อไป

คุณสมบัติเด่นที่ต้องลองในของ iPhone 7 Plus

     จากที่ลองสั้น ๆ นั้นแน่นอนว่า iOS 10 ที่เป็นระบบปฏิบัติการติดเครื่อง การใช้งานลื่นไหล ประหยัดพลังงานกว่าเดิม แต่อาจจะมีงงบ้างในเรื่องการเข้าหน้า Home ที่ต้องกดปุ่ม Home ดังนั้นเข้าทางกับปุ่ม Home แบบทัชและมี Taptic Engine ทำงาน แต่ก็ต้องอาศัยความเข้าใจเล็กน้อยถึงจะลงตัวนะครับ

     การแสดงผลของหน้าจอก็น่าสนใจเพราะสีตรงมากและสว่างพร้อมกับปรับลดแสงสีฟ้าได้ และหน้าจอนั้นเด็ดพอกับ iPad Pro 9.7 นิ้วเลยล่ะ

     ส่วนเรื่องของการฟังเพลงผ่านลำโพงคู่ของเครื่องที่อยู่ตำแหน่ง หูฟังสนทนา และ ด้านล่างขวา เมื่อเปิดเสียงสุดก็ถือว่าดังดี แต่อยากให้มันกระหึ่มคงต้องเปิดในห้องเก็บเสียงอย่างดีจะชัดเจนมากขึ้น

     แต่การไม่ให้ช่องเสียบหูฟังอาจจะกระทบกับคนที่ต้องเอา iPhone ฟังเพลงผ่าน AUX ในรถรวมถึงหูฟังที่มีราคาแพงเพราะยังคงเป็นช่องเสียบหูฟังปกติ ต่อให้ออกแบบรองรับกับช่องเสียบ Lightning แต่คุณจะไม่สามารถฟังเพลงไปชาร์จแบตฯไปได้อีกต่อไปแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ

     และเรื่องกล้องหลังของ iPhone 7 Plus ที่ให้มา 2 ตัว เริ่มจากตัวปกติก่อนคือกล้องเลนส์กว้าง 28 มิลลิเมตร พร้อมกับรูรับแสง F1.8 พร้อมกับระบบกันสั่นครั้งแรกของ iPhone 7 และมี LED Flash 4 ดวงด้วยกัน แต่กล้องอีกตัวมีความละเอียดเท่ากัน แต่มุมมองของกล้องจะเป็น 56 มิลลิเมตร เน้นเรื่องงานซูม

     โดยมีระยะการซูมถึง 2 เท่า แต่คุณสามารถซูมแบบ Digital Zoom ได้สูงสุด 10 เท่าด้วยกัน (กล้องตัว Tele ไม่มีกันสั่นนะครับ)

     ภาพรวมของการทำงานกล้องตอนนี้ ถ้าระยะกว้างถือว่าทำงานได้ดี และมีระบบกันสั่นทำให้ภาพนั้นออกมาสวยและนิ่งเก็บรายละเอียดดี ความไวแสงกำลังดี แต่ว่าเมื่อปรับเลนส์ซูม การใช้งานตอนลองนั้นอยู่ในร้านอาหารและเวลาที่แสงน้อย พบว่า Noise ปรากฏออกมา

     แม้ว่าจะมีการจัดการแล้ว แต่ถ้าคุณยิ่งใช้ Digital Zoom มากเท่าไหร่ Noise ก็จะเยอะมากขึ้น ค่า F ก็จะไหลมากขึ้นไปด้วย ความคมเลยลดหายไปประมาณ 10 - 30% ตามการซูม แต่กล้องจะดีเมื่อรองรับการทำงานแบบการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งต้องรอให้ iPhone ปล่อยฟีเจอร์ใส่เข้ามาอีกสักพักหนึ่ง แต่ถ้าไม่คิดมาก iPhone 7 ก็พอแล้ว

    นี่ยังไม่นับกล้องหน้าขนาด 7 ล้านพิกเซลที่ถ่ายออกมาแล้วก็ไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม

(wide)

(Tele ซูม 2 เท่า)

(Digital Zoom 5.7 เท่า)

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก iPhone 7 Plus)

สรุปหลังจากที่ลอง iPhone 7 Plus


     แม้ระยะเวลาการลองสั้น ๆ แต่ก็ได้ความคิดเห็นมากพอสมควรเพราะนี่คือ iPhone ที่ดีที่สุดและใส่ของเล่นมาเยอะจนทำให้คนใช้ iPhone 6s คงต้องเปลี่ยนเร็วขึ้นไปเลย

     โดยเฉพาะกล้องที่ดีขึ้นและลำโพงแบบ Stereo และกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP67 แต่กลับตัดช่องเสียบหูฟังออกไป ทำให้หลายคนรับได้บ้างไม่ได้บ้าง แม้จะมีอุปกรณ์เสริมแล้วก็ตาม รวมไปถึงสี Jet Black ที่ต้องรอนานพอสมควร

     แต่นั่นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งข้อเสีย แต่มองถึงความเต็มฟังก์ชั่น iPhone 7 Plus ก็จัดเต็มอยู่ไม่มาก แต่ส่วนตัวผู้เขียนเอง มองว่า iPhone 7 ก็เพียงพอแล้วเพราะทุกอย่างได้เหมือนกัน แต่ขนาดกระทัดรัด กล้องตัวเดียวก็เพียงพอแล้ว ครับ

     ส่วนราคาตอนนี้เครื่องหิ้วค่อนข้างสูง ซึ่งบางร้านมีราคาท็อปสุดอาจจะเกือบ 7 หมื่นบาท ถ้าอยากรอเครื่องศูนย์ไทยที่คาดว่าจะเจอกันปลายเดือนตุลาคมนี้ ถามว่าสามารถรอได้หรือไม่ รอได้ครับ ไม่นานแค่ 2 เดือนเองครับ


ข้อดี

  • ประสิทธิภาพดีขึ้นมาก
  • กล้องยอดเยี่ยมในภาพรวม
  • เสียงดังมาก
  • สีเครื่องสวยและดูลงตัว

ข้อควรปรับปรุง

  • ปุ่ม Home ยังต้องอาศัยความเข้าใจอยู่เยอะ
  • กล้องเมื่อเข้าสู่ Tele และ Digital Zoom คุณภาพยังต้องปรับปรุง
  • ไม่มีช่องเสียบรูหูฟัง
  • ราคาแพงมาก

ขอบคุณ คุณโอจากร้าน Am4You Gadget สำหรับ iPhone 7 Plus



อัลบั้มภาพ 24 ภาพ

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ ของ รีวิว iPhone 7 Plus แค่สั้น ๆ แต่มันก็อินจนถอนตัวไม่ขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook