รีวิว Nextbit Robin สมาร์ทโฟนทรงเหลี่ยม สุดฉลาดเพราะมี Cloud อยู่เบื้องหลัง
ในยุคของมือถือปัจจุบันอาจจะไม่มีการพูดถึงเรื่องการใช้ระบบการเก็บข้อมูลบนอากาศหรือ Cloud Storage ที่มีปริมาณมากในสมัยนี้ จนตอนนี้มีมือถือรุ่นหนึ่งที่พูดถึงเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจังอย่าง Nextbit Robin ซึ่งเป็นมือถือตัวแรกที่เขาบอกว่าความจำจะไม่มีวันเต็ม แต่ความสามารถอื่น ๆ ก็มีดีจนต้องมาเจาะลึกกันให้ได้รู้
รายละเอียดของ Nextbit Robin
- ขนาดตัวเครื่อง 149 x 72 x 7 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 150 กรัม
- สีตัวเครื่อง เขียวมิ้นต์ ตัดกับขาว, ดำ Midnight
- CPU : Qualcomm Snapdragon 808 Hexa Core 1.8GHz
- GPU : Adreno 418
- RAM : 3GB
- ความจำในตัว 32GB
- ความจำภายนอก Cloud Storage 100GB
- รองรับสัญญาณเครือข่าย : 2G/3G/4G Cat 6 300/50 Mbps
- WiFi 802.11 b/g/n/ac
- Bluetooth V4.1
- กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล Auto Focus และ LED Flash แบบคู่
- หน้าจอ : 5.2 IPS LCD ความละเอียด 1920x1080
- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
- แบตเตอรี่ 2680 mAh
รูปร่าง
ด้านหน้าของ Nextbit Robin นั้นออกแบบได้เรียบง่ายสไตล์ Flat Design โดยมีหน้าจอขนาด 5.2 นิ้วแบบ IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พร้อมกับรองรับมัลติทัช 10 จุด ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน
ส่วนบน เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่พร้อมกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล และมี ลำโพงอยู่ด้านบนเป็นทั้งลำโพงเครื่องและลำโพงสนทนา
ส่วนล่างปุ่มกดทั้งหมดถูกรวมอยู่ใน UI พร้อมกับลำโพงขนาดใหญ่เช่นกันเท่ากับให้เสียงที่ดังใช้ได้อยู่ไม่น้อย
ด้านข้าง ทำจากพลาสติกตัดสีเดียวกับเครื่องและดูเรียบและมีรอยต่อแต่เข้ากันพอดี โดยข้างซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง
ข้างขวามีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และพักหน้าจอ พร้อมกับเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือ และมีช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C, ไมโครโฟน
ด้านหลังมีกล้องขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับ F1.9 และมี LED Flash มาให้ 2 ดวงขนาดใหญ่ พร้อมกับโลโก้ เมฆ และมีจุดไฟ 4 ดวงเพื่อบอกถึงการโหลดข้อมูลระบบ Cloud และมียี่ห้อ Nextbit แปะอยู่ด้านล่าง ตัวเครื่องไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้
ภาพรวม เป็นเครื่องที่ออกแบบเรียบง่ายและใช้วัสดุที่ดูในรูปดีมาก การจับสัมผัสก็ถือว่ายังให้ความรู้สึกดี แน่นหนา และไม่มีปัญหาเมื่อใช้งานไปนาน ๆ แต่ว่าข้อเสียนั้นอยู่ในเรื่องของบอดี้พลาสติกที่อาจจะเปราะบางไปสักหน่อย แต่เท่านี้ก็ถือว่าทำได้ดีจนเรียกได้ว่าคบหาได้นาน ๆ
ประสิทธิภาพของ Nextbit Robin
จากภาพการทดสอบ Benchmark ที่เห็นคะแนนของ Antutu นั้นทำได้อยู่ที่ 56425 ถือว่าใกล้เคียงกับมือถือที่ใช้ CPU ตัวนี้อย่าง LG G4 และ Nexus 5x (รุ่นนี้ไม่มีขายในเมืองไทย) ทำให้ความลื่นไหลในการเล่นเกมและใช้งานนั้นหมดห่วง และมีข้อดีในเรื่องการองรับ 4G ครบทุกความถี่ทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะใช้งานไม่ได้เมื่อย้ายไปยังประเทศไหนก็ตาม หรือจะมีการเปิดประมูลคลื่นใหม่ก็ไม่ใช่ปัญหา
ส่วนแบตเตอรี่ ขนาด 2680 mAh อาจจะไม่ได้มากมายอะไรเมื่อเทียบกับขนาดเครื่อง แต่จากที่ได้ทดลองผ่านโปรแกรม Benchmark อยู่ได้เกือบ 7 ชั่วโมง ก็ถือว่ามาตรฐาน แต่เมื่อใช้งานจริงถ้า Standby ยังไงก็ใช้ได้ยาว แต่ถ้าใช้งานไปทั้งหมดพบว่าก็เอาตัวรอดได้ แต่ถ้าใช้งานหนักแล้วล่ะก็ควรพก Power Bank ไว้
แถมยังรองรับ Quick Charge 2.0 จาก Qualcomm อีกด้วย
คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจ
Nextbit Robin เป็นมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow เหมือนกับมือถือส่วนใหญ่ในตลาดตอนนี้ การจัดระเบียบไม่ได้แตกต่างจาก Android ทั่วไปสักเท่าไหร่ มีทั้ง Notification พร้อมกับ icon ที่เป็นเอกลักษณ์
จุดเด่นของ Nextbit Robin ขอพูดถึงระบบ Cloud Storage ที่เกาะติดกับเครื่องนี้และไม่มีวันหยุดอายุ พื้นที่กว่า 100GB ใช้ของ Amazon ซึ่งจะผูกเข้ากับ Google Account ฟังดูดีมาก การทำงานนั้นจะจับพื้นที่ในตัวเครื่องถ้ามีข้อมูลที่ไม่ได้ใช้งานนาน ๆ เช่นรูป หรือ Apps บางอย่างที่จะทำให้พื้นที่ของเครื่องเต็ม จะถูกดูดเข้าสู่ Cloud Storage นี้โดยอัตโนมัติ นั่นหมายความว่า Nextbit มีระบบจัดการพื้นเองโดยอัตโนมัติ และผู้ใช้เองก็สามารถจัดการได้เหมือนกัน
กรณีที่ Apps ถูกย้ายไปแล้วจะมี icon เป็นสีเทา และเมื่อกดเรียกจะทำงานโดยการเชื่อมต่อกับ Cloud Storage ทันที นั่นหมายความว่า Data ของคุณจะถูกดูดไปด้วย ฉะนั้นอาจจะเป็นข้อเสียอยู่บ้าง แต่ถ้ามองถึงเรื่องการใช้งานกับ WiFi จะสะดวกมากมาย
ส่วนลูกเล่นอื่น ๆ นั้น Nextbit Robin ให้ระบบจัดการเสียงที่ดีมากและด้วยลำโพงคู่ทำให้การส่งเสียงดังและปรับแต่งได้ แต่ถ้าเสียบหูฟัง คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างกับมือถือยี่ห้ออื่นสักเท่าไหร่ นอกจากนี้มีเครื่องมือครบทั้งปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงระบบสแกนลายนิ้วมือด้วย
กล้องหลังของ Nextbit Robin ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Auto Focus แบบ Phase Detection ทำให้ความเร็วในการโฟกัสนั้นไวและแม่นยำ พร้อมกับรูรับแสง F1.9 และมี LED Flash ขนาดใหญ่ 2 ดวง ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป การถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงถึง 4K แต่ที่ต้องปรับปรุงคือ UI กว่าจะเข้าถึงแต่ละเมนูกดเยอะไปสักหน่อย ทำให้ดูไม่ทันใจ
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แม้จะไม่มี Beauty Mode แต่ก็มีความละเอียดดีอยู่ไม่น้อย
(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nextbit Robin)
สรุปจากการลองใช้ Nextbit Robin
จัดว่าเป็นมือถือในราคาหมื่นต้น ๆ ที่นอกจากสเปคดีแล้วยังมีเรื่องของเทคโนโลยีการจัดเก็บระบบ Cloud ที่มีประสิทธิภาพ และตัวเครื่องทำงานร่วมกับ Cloud ได้ดี และอาจจะต้องพูดได้เต็มที่ว่าการย้ายข้อมูลไป Cloud ทำได้ง่ายและรวดเร็ว และยังช่วยให้พื้นที่ของเครื่องนั้นโล่งและรองรับอะไรใหม่ ๆ มากขึ้น แต่ตัวเครื่องจะใช้พลาสติกทำให้ดูล้าสมัยไปหน่อย
เมื่อมองราคาอยู่ที่ 12,900 บาท ก็ถือว่าไม่ได้แพงอะไรมากมายนักและเมื่อเทียบกับราคาใกล้กันก็จะมี Vivo V3 Max, OPPO F1s และ Samsung Galaxy A5 (2016) ที่มีราคาแตกต่างกัน และคุณสมบัติใกล้กัน แต่ถ้าต้องการ Cloud เก็บที่และไม่เหมือนใคร Nextbit Robin ก็เป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
ข้อดี
- งานชิ้นส่วนดูดี
- สเปคที่ให้มาครบเครื่อง
- ได้ Cloud Storage
- สีให้เลือกแม้แค่ 2 แต่ก็อิ่มใจ
ข้อควรปรับปรุง
- การหาซื้อยังยาก
- บอดี้ทำจากพลาสติกเสี่ยงเป็นรอยง่าย
- การใช้งาน Cloud Storage มีข้อจำกัด
ขอบคุณ Nextbit Robin โดย ไทยเวย์ โปรดักส์
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ