เผยผลทดสอบมือถือรุ่นดังที่ชาร์จเร็วที่สุดปี 2016 รุ่นไหนจะครองแชมป์? ลองมาดูกัน

สมาร์ทโฟนในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าหลายต่อหลายค่ายได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และติดตั้งลงบนมือถือระดับเรือธงของตัวเองเพื่อเข้าแข่งขันบนท้องตลาดกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประโยชน์ของระบบ Fast Charging คือการย่นระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้สั้นลงเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันให้มากยิ่งขึ้น โดยแต่ละแบรนด์ต่างก็มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่แตกต่างกันไป แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามือถือค่ายไหนที่ชาร์จได้เร็วสมคำโฆษณากันแน่

ล่าสุดเว็บไซต์ PhoneArena สื่อต่างประเทศรายใหญ่ได้เผยผลการทดสอบความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ของเรือธงจำนวน 16 รุ่นจาก 10 แบรนด์สมาร์ทโฟนชื่อดัง โดยการทดสอบในครั้งนี้จะเริ่มต้นจาก 0% ไปจนถึง 100% เพื่อตรวจสอบระยะเวลาการชาร์จที่ใช้ไป ถึงแม้บางส่วนอาจจะมองว่าผลทดสอบในครั้งนี้ไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไหร่นัก แต่ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าระบบชาร์จเร็วของรุ่นใดที่สามารถทำเวลาได้ดี่ที่สุด เราลองไปดูผลทดสอบกันดีกว่ารุ่นไหนที่ครองแชมป์ส่งท้ายปี 2016 ในครั้งนี้

Moto Z Droid Edition

สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นยอดนิยมที่ขึ้นแท่นมือถือที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วสุดในชั่วโมงนี้ได้แก่ Motorola Moto Z Droid Edition สมาร์ทโฟนถอดเปลี่ยนโมดูลได้โฉมใหม่ล่าสุด ที่สามารถครองแชมป์ด้วยการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ภายในเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาทีเท่านั้น โดย Moto Z Droid Edition มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 2600mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว TurboPower

OnePlus 3 และ LG G5 ครองอันดับ 2 และ 3

ในขณะที่อันดับ 2 และ 3 ประจำปีนี้อย่าง OnePlus 3 และ LG G5 ค่อนข้างทำเวลาได้ไล่เลี่ยกันที่ 74 นาที และ 76 นาทีตามลำดับ โดย OnePlus 3 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3000mAh จับคู่กับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dash Charge ในขณะนี่ LG G5 มีความจุแบตเตอรี่ทั้งหมด 2800mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0

iPhone 7 & iPhone 7 Plus 

ในขณะนี้เรือธงรุ่นใหญ่ประจำปีนี้จากฝั่ง Apple อย่าง iPhone 7 Plus ยังคงรั้งอันดับสุดท้ายสอดคล้องกับผลทดสอบก่อนหน้านี้ ด้วยเวลา 197 นาที (ประมาณ 3.2 ชั่วโมง) แม้จะมีความจุแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับคู่แข่งรายอื่นที่ 2900mAh ส่วนปัจจัยที่ทำให้ iPhone 7 Plus ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ที่นานกว่าใครเพื่อนนั้น เนื่องมาจากเรือธงรุ่นใหม่ทั้ง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ยังไม่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (Fash Charging) เหมือนกับแบรนด์มือถือรายอื่นนั่นเอง ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับปรุงบน iPhone 8 รุ่นต่อไป

อย่างไรก็ดีผลทดสอบด้านต้นเป็นแค่การแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ของมือถือแต่ละรุ่นเท่านั้น ซึ่งยังคงไม่สามารถตัดสินได้ว่ามือถือรุ่นใดดีที่สุดในโลก เพราะต้องขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคล รวมทั้งฟีเจอร์ต่างๆ ที่แต่ละแบรนด์ใส่มาว่าจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ได้หรือไม่ ซึ่งน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่ามือถือรุ่นไหนเหมาะและดีสำหรับเรามากที่สุด สำหรับอันดับทั้งหมดสามารถดูได้ที่ด้านล่างครับ