ผสานการป้องกันข้อมูลชั้นยอด ด้วยแนวทางของ HPE ตอน 2

     หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เราได้อธิบายถึงแนวทางสำรองข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพของ HPE กันไปแล้ว คราวนี้เราขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น โดยใช้บริษัทที่เลือกใช้บริการของ HPE เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

     ผู้ผลิตแท่นพิมพ์ Heidelberger Druckmaschinen AG (Heidelberg) คือตัวอย่างที่ดีสำหรับบริษัทที่ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน และลดความเสี่ยง โดยใช้แนวทางการป้องกันข้อมูลที่ใช้ทั้งซอฟท์แวร์ ดิสค์และเทป โดยเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทไฮเดลเบิร์กได้ปรับใช้แนวทางที่ผสมระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ซึ่งประกอบด้วย คลังเทป HPE StoreEver MSL6480, ซอฟท์แวร์ HPE Data Protector 9.0 และ HPE StoreOnce 4900 ที่มีเทคโนโลยี Deduplication เรียกได้ว่าแนวทางต่างๆ ของ HPE ได้ทำให้บริษัทสามารถเก็บสำรองและกู้คืนข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

     ข้อได้เปรียบหลักของแนวทางที่บริษัทไฮเดลเบิร์กใช้จากมุมมองด้านไอทีนั้น คือรอบการสำรองข้อมูลที่สั้นกว่าและการบริหารจัดการที่ง่ายกว่า การลดลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนเทปสำรองข้อมูลที่ต้องใช้ (เนื่องจากการใช้HPE StoreOnce ที่มีเทคโนโลยี Deduplication ช่วยลดความซ้ำซ้อนข้อมูลในการจัดเก็บ ร่วมกับเทป LTO6 ความจุสูง) และความยืดหยุ่นระดับสูง เนื่องจาก HPE StoreOnce สามารถแบ่งให้ข้อมูลถูกจัดเก็บได้ทั้งบน NAS, StoreOnce Catalyst หรือ Virtual Tape Library

     ข้อได้เปรียบอีกอย่างคือข้อได้เปรียบในเชิงธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการกู้คืนข้อมูลที่ถูกลบโดยที่ผู้ใช้ไม่ได้ตั้งใจได้เร็วขึ้น โดยบางครั้งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และความพร้อมใช้งานของข้อมูลในระดับที่สูงขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการสำรองข้อมูลรายชั่วโมงผ่านทาง HPE StoreOnce และซอฟต์แวร์ HPE Data Protector Software

     จะเห็นได้ว่าการใช้แนวทางอันครอบคลุมสำหรับการป้องกันข้อมูลโดยใช้ทั้งซอฟท์แวร์ ดิสค์และเทป สามารถประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย และยังลดความเสี่ยงได้ด้วย ดังนั้น ไม่ว่าเป็นการป้องกันข้อมูลในสำนักงานขนาดเล็ก สำนักงานระดับสาขา หรือศูนย์ข้อมูล การผสมผสานระหว่าง StoreOnce, HPE StoreEver และ Data Protector นั้นอาจเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดและง่ายดายที่สุดในการทำธุรกิจของคุณ

     เห็นตัวอย่างของบริษัทไฮเดลเบิร์กกันไปแล้ว อย่างไรก็ขอย้ำกันอีกรอบว่า ดิสค์และเทปมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การลดความเสี่ยงของธุรกิจในกรณีที่ข้อมูลสูญหาย แต่จะมีความต่างตรงที่เทปเหมาะสมกับการเก็บข้อมูลที่ยาวนานได้หลายสิบปีและมีต้นทุนต่ำ แต่ในขณะเดียวกันดิสก์สามารถเก็บและเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า ต้นทุนในการบริหารจัดการสูงกว่า และเหมาะกับการจัดเก็บระยะสั้นไม่เกินปี

     เพราะฉะนั้นเราไม่ควรจะเลือกเทคโนโลยีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างการใช้ดิสค์และเทป แต่ควรจะมองว่าแต่ละเทคโนโลยีมีจุดเด่นและจุดที่ต้องคำนึงถึง โดยการถามความต้องการภายในองค์กรว่า “เราจะใช้ที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร”

     ที่มาของเนื้อหา: HPEMAX Issue4: Aug – Oct, 2016