อัปเดต ราคา โปรโมชั่น ไอโฟน 7 และ iPhone 7 Plus จากทุกค่าย

iPhone 7 อัปเดต ราคา โปรโมชั่น ไอโฟน 7 และ iPhone 7 Plus จากทุกค่าย Apple Store, dtac, AIS และ TrueMove H เริ่มต้นที่ 18,500 บาท

วางจำหน่ายในไทยเป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ไอโฟนรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับคุณสมบัติอัปเกรดหลายอย่างด้วยกัน ทั้งการเพิ่มคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น, กล้องถ่ายรูปด้านหน้าละเอียดขึ้น, กล้องถ่ายรูปด้านหลังแบบ Dual-Camera, ปุ่ม Home แบบใหม่ และชิปเซ็ตที่เร็วและแรงกว่าเดิมเท่าตัว ในราคาเริ่มต้นที่ 26,500 บาท

ในส่วนของช่องทางการวางจำหน่ายนั้น นอกจากจะสั่งซื้อได้ผ่านทาง Apple Online Store ประเทศไทยแล้ว ด้านโอเปอร์เรเตอร์ 3 รายหลักในไทย ซึ่งได้แก่ TrueMove H, dtac และ AIS นั้น ก็วางจำหน่ายแล้วเช่นกัน โดยการซื้อเครื่องผ่านทาง Apple Online Store นั้น จะเป็นราคาเครื่องเปล่า ไม่ติดสัญญาใด ๆ ส่วนการซื้อเครื่องผ่านทางโอเปอร์เรเตอร์ จะมีทั้งแบบ ซื้อเฉพาะเครื่องเปล่า หรือ ซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ซึ่งในตอนนี้ ก็มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจไม่น้อย โดยทีมงาน techmoblog ได้รวบรวมรายละเอียดการซื้อเครื่อง และโปรโมชั่นต่าง ๆ ไว้ในบทความนี้ เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อยู่ในตอนนี้ครับ

▶▶ เปรียบเทียบราคา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ทั้งเครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพ็กเกจ

จากตารางข้างต้น สามารถสรุปเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้

• ราคาเครื่องเปล่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะซื้อจาก Apple Store, dtac, AIS หรือ TrueMove H ก็เริ่มต้นที่ราคาเท่ากัน โดย iPhone 7 เริ่มต้นที่ 26,500 บาท ส่วน iPhone 7 Plus เริ่มต้นที่ 31,500 บาท
• ราคา iPhone 7 เครื่องพร้อมแพ็กเกจ ถูกที่สุดที่ TrueMove H เริ่มต้นที่ 18,500 บาท (ลดไป 8,000 บาท) แต่ต้องสมัครแพ็กเกจราคา 1,099 บาท และชำระค่าบริการล่วงหน้า 4,000 บาท
• ราคา iPhone 7 Plus เครื่องพร้อมแพ็กเกจ ถูกที่สุดที่ TrueMove H เช่นกัน เริ่มต้นที่ 23,500 บาท (ลดไป 8,000 บาท) แต่ต้องสมัครแพ็กเกจราคา 1,099 บาท และชำระค่าบริการล่วงหน้า 4,000 บาท
• ถ้าหากย้ายค่ายเบอร์เดิม จะได้ราคาที่ถูกลงไปอีก โดย TrueMove H ลดไป 1,000 บาท dtac ลดไป 1,500 บาท ส่วน AIS ไม่มีโปรสำหรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม

สำหรับราคา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เครื่องพร้อมแพ็กเกจ ของแต่ละค่าย มีรายละเอียดอย่างไร ทีมงานได้ทำสรุปไว้ให้แล้วเช่นกัน รายละเอียดดังนี้

คลิกที่ภาพเพื่อขยายขนาดเต็ม

จากตารางข้างต้น จะเห็นว่า ทั้ง 3 ค่าย วัดกันตรงราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ซึ่งจะเห็นว่า ค่ายที่ราคา iPhone 7 เครื่องพร้อมแพ็กเกจถูกที่สุด นั่นก็คือ TrueMove H ซึ่งเริ่มต้นที่ 18,500 บาทเท่านั้น แต่ จะต้องสมัครพร้อมแพ็กเกจราคา 1,099 บาท พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 4,000 บาท ฉะนั้น ใครที่ใช้แพ็กเกจราคาประมาณนี้อยู่แล้ว ถือว่าราคานี้ค่อนข้างคุ้มค่ามากเลยทีเดียว นอกจากนี้ ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม รับส่วนลดเพิ่มอีก 1,000 บาท ทำให้มีราคาค่าเครื่องเพียง 17,500 บาทเท่านั้น

ส่วน dtac เคาะราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ราคาถูกที่สุดเป็นอันดับที่ 2 โดยเริ่มต้นที่ 20,500 บาท เมื่อสมัครพร้อมแพ็กเกจราคา 899 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 3,000 บาท (ค่าบริการล่วงหน้าสามารถใช้เป็นส่วนลดแพ็กเกจรายเดือนได้ 300 บาท นาน 10 เดือน) ส่วนลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม รับส่วนลดเพิ่มอีก 1,500 บาท เหลือเพียง 19,000 บาทเท่านั้น แม้จะมีราคาแพงกว่า TrueMove H เล็กน้อย แต่มีแพ็กเกจเริ่มต้นที่ไม่แพงมากนัก

ด้าน AIS ปล่อยราคา iPhone 7 พร้อมโปรโมชั่นสูงกว่า 2 ค่ายที่เหลือ เริ่มต้นที่ 24,500 บาท ซึ่งเป็นราคาเครื่องเปล่าสำหรับลูกค้า AIS แบบรายเดือนที่มีแพ็กเกจหลักราคา 399 บาทขึ้นไป และใช้งานไม่น้อยกว่า 3 เดือน นั่นหมายความว่า ลูกค้า AIS ที่อยากจะเปลี่ยนมาใช้ iPhone 7 สามารถซื้อราคาเครื่องเปล่าได้ถูกลงจากราคาปกติราว ๆ 2,000 บาท ส่วนลูกค้าใหม่ จะเริ่มต้นที่ 25,500 บาท พร้อมสมัครแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 550 บาท (ติดสัญญานาน 12 เดือน)

 

▶▶ เปรียบเทียบแพ็กเกจ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ระหว่าง TrueMove H, dtac และ AIS

ดูราคากันไปแล้ว มาดูกันที่แพ็กเกจกันบ้าง ซึ่งในตอนนี้ แพ็กเกจ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จาก TrueMove H นั้น กำลังน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว กับ 4G+ Unlimited สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เท่านั้น ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานบน 4G บนเครือข่ายของ TrueMove H ได้อย่างไม่จำกัด และไม่ลดสปีด นาน 1 ปี ฉะนั้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณ 4G จาก TrueMove H อยู่แล้ว เรียกได้ว่า แพ็กเกจดังกล่าวคุ้มค่าอย่างมาก แต่ถ้าหากอยู่นอกพื้นที่ 4G ก็จะมีการจำกัดปริมาณการใช้เครือข่าย 3G ตามแพ็กเกจที่เลือก โดยเมื่อครบโควต้า ปรับลดความเร็วเหลือ 128 Mbps สำหรับแพ็กเกจ 699 และปรับลดความเร็วเหลือ 384 Mbps สำหรับแพ็กเกจราคา 899 บาทขึ้นไป

นอกจากนี้ TrueMove H ยังเป็นรายแรกที่ใช้เทคโนโลยี 3CA บนเครือข่าย LTE-A กับการรวม 3 คลื่นความถี่ ซึ่งได้แก่ 900 MHz, 1800 MHz และ 2100 MHz ทำให้มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 300 Mbps (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ใช้งาน) ในขณะที่ dtac กับ AIS เป็นแบบ 2CA

สรุป TrueMove H เด่นตรงสามารถใช้งาน 4G LTE ได้ไม่จำกัด และไม่ลดสปีด และเป็นรายแรกที่ใช้เทคโนโลยี 3CA

** หมายเหตุ : แพ็กเกจราคา 1,499 บาทขึ้นไป สำหรับลูกค้า Blue Member

แพ็กเกจ Super Non-Stop จากดีแทค สำหรับผู้ใช้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus นั้น จะต้องมีแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 599 บาทขึ้นไป ซึ่งถือว่า มีราคาแพ็กเกจเริ่มต้นที่ถูกกว่า TrueMove H อยู่ 100 บาท โดยแพ็กเกจ Super Non-Stop นั้น เป็นแบบเลือกได้ตามการใช้งาน ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับแพ็กเกจราคา 699 บาทของ TrueMove H แล้ว ในด้านการโทรถือว่า dtac คุ้มค่ากว่า แต่ในด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G ทาง TrueMove H ยังได้เปรียบมากกว่าค่ายอื่น ๆ นอกจากนี้ dtac ยังมีบริการอื่น ๆ ให้ใช้มากมาย เช่น PrimeTime, Music Infinite, dtac Life Care และอื่น ๆ

สรุป : dtac มีราคาแพ็กเกจให้เลือกหลากหลายกว่า และรองรับบริการเสริมอื่น ๆ มากมาย

สำหรับ AIS นั้น มีแพ็กเกจให้เลือกน้อยกว่า 2 ค่ายที่เหลือ แต่มีราคาเริ่มต้นถูกที่สุด ที่ 550 บาท สูงสุด 950 บาท ซึ่งถ้าหากมองที่ความคุ้มค่าของการใช้งานด้านการโทรแล้ว ถือว่า ไม่แตกต่างจากแพ็กเกจเริ่มต้นของทาง TrueMove H กับ AIS เท่าใดนัก แต่ด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ต ให้จำนวน data มาใช้งานค่อนข้างน้อยเพียง 5 GB เท่านั้น ในขณะที่ TrueMove H ให้สูงสุด 8 GB และ dtac ให้สูงสุดถึง 16 GB เลยทีเดียว

สรุป : AIS แม้จะมีแพ็กเกจให้เลือกน้อยกว่า แต่ก็รองรับเครือข่ายแบบ 4.5G (เหมือน TrueMove H) พร้อมบริการพิเศษ ๆ มากมาย เช่น AIS PLAY, AIS Safe & Care และอื่น ๆ

สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อยู่ในตอนนี้ นอกเหนือจากการพิจารณาในเรื่องของ ราคาและแพ็กเกจ แล้ว ควรจะต้องดูที่ ความแรงของเครือข่ายในพื้นที่ที่ใช้งานด้วยเช่นกัน แม้ราคาของ TrueMove H จะเป็นต่อกว่า 2 ค่ายที่เหลือ แต่ถ้าหากพื้นที่ที่ใช้งาน แทบจะไม่มีสัญญาณของ TrueMove H เลย ก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ เช่นกัน ฉะนั้น ผู้ซื้อควรจะต้องตรวจสอบสัญญาณเสียก่อน จากนั้นค่อยเลือกเครือข่าย และแพ็กเกจให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ไม่ใช้จ่ายเกินตัว เพียงเท่านี้ก็สามารถเลือกซื้อ iPhone 7 ได้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากที่สุดแล้วครับ