สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) ยอดเยี่ยมประจำปี 2016 รวมที่สุดของสมาร์ทโฟนกล้องคู่แห่งปี

สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) ยอดเยี่ยมประจำปี 2016 รวมที่สุดของสมาร์ทโฟนกล้องคู่แห่งปี

สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) ยอดเยี่ยมประจำปี 2016 รวมที่สุดของสมาร์ทโฟนกล้องคู่แห่งปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) ยอดเยี่ยมประจำปี 2016 รวมที่สุดของสมาร์ทโฟนกล้องคู่แห่งปี นวัตกรรมกล้องแห่งอนาคตที่ผู้ใช้มือโปรไม่ควรพลาด!

หนึ่งในฟีเจอร์บนสมาร์ทโฟนที่ดึงดูดผู้ซื้อมากที่สุดก็คือกล้องถ่ายภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้หากจะเลือกสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพดีๆ สักรุ่น ก็อาจจะต้องเลือกรุ่นที่มีความละเอียดสูงๆ, มีระบบกันสั่นชั้นยอด, มีระบบโฟกัสภาพที่แม่นยำฉับไว หรือถ่ายวิดีโอได้คมชัดลื่นไหล แต่ขณะนี้ดูเหมือนจะมีกระแสใหม่ที่มาแรงแซงหน้าไปเรียบร้อยแล้วก็คือกล้องคู่ (Dual-Camera)

ซึ่งในปี 2016 นี้มีเปิดตัวออกมาหลายรุ่น และแต่ละรุ่นต่างก็เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปแทบทั้งสิ้น จึงจะเห็นได้ว่ากระแสกล้องคู่นี้ไม่ได้มาเล่นๆ อย่างแน่นอน และน่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ในอนาคตสำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพ แต่รุ่นใดจะเป็นสมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งปี 2016 และการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนกล้องคู่ นั้นดีกว่าสมาร์ทโฟนกล้องเดี่ยวแบบเดิมๆ อย่างไรบ้าง วันนี้ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้สรุปมาให้ทุกท่านได้ติดตามกันเรียบร้อยแล้วครับ

สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) ดีกว่าสมาร์ทโฟนกล้องเดี่ยวแบบเดิมๆ อย่างไร?

1

ก่อนที่จะพาทุกท่านไปดูกันว่ามีสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นใดบ้างที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปีนี้ ในเบื้องต้นเราก็ขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับนวัตกรรมกล้องคู่กันสักนิด เพราะเชื่อว่าแม้หลายๆ ท่านจะเคยเห็นสมาร์ทโฟนกล้องคู่ผ่านตามาบ้างแล้ว แต่ก็อาจจะยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วกล้องคู่ (Dual-Camera) นั้นดีกว่ากล้องเดี่ยวแบบเดิมๆ อย่างไรบ้าง

สำหรับนวัตกรรมกล้องคู่บนสมาร์ทโฟนในปัจจุบันอาจแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ แบบสองเลนส์+สองเซ็นเซอร์รับภาพ และแบบสองเลนส์+เซ็นเซอร์รับภาพเดียว ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยแบบสองเลนส์+สองเซ็นเซอร์รับภาพ นั้นมีจุดเด่นตรงการที่มีเซ็นเซอร์รับภาพสองตัวทำงานแยกกันอย่างอิสระ เช่นสมาร์ทโฟนเรือธงกล้องคู่รุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่ง เซ็นเซอร์ตัวแรกทำหน้าที่เก็บรายละเอียดภาพสี หรือภาพ RGB โดยเฉพาะ ส่วนเซ็นเซอร์ตัวที่สองทำหน้าที่เก็บรายละเอียดภาพขาว-ดำ (Monochrome) กับมิติภาพโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อนำผลลัพธ์ที่ได้จากทั้งสองเซ็นเซอร์มารวมกัน ก็จะได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพดีกว่า และมีรายละเอียดภาพที่มากกว่า อีกทั้งกล้องคู่แบบสองเลนส์+สองเซ็นเซอร์รับภาพนี้ ก็ยังสามารถถ่ายภาพแบบชัดตื้นชัดลึก หรือภาพหน้าชัดหลังเบลอ (Depth of Field) ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

2

ส่วนกล้องคู่แบบสองเลนส์+เซ็นเซอร์รับภาพเดียว นั้นมักจะมาพร้อมกับเลนส์สองตัวที่มีทางยาวโฟกัส และรูรับแสงที่แตกต่างกัน เช่นเลนส์ตัวแรกอาจเป็นเลนส์มุมกว้าง (Wide-Angle Lens) ซึ่งมีทางยาวโฟกัสที่ 28 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงที่ระดับ f/1.8 ส่วนเลนส์ตัวที่สองอาจเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto Lens) ซึ่งมีทางยาวโฟกัสที่ 56 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงที่ระดับ f/2.8 ซึ่งแน่นอนว่ากล้องคู่แบบนี้สามารถแยกเก็บรายละเอียดของวัตถุด้านหน้า และเก็บรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ที่อยู่ด้านหลัง เพื่อนำมาประมวลผลเป็นภาพชัดตื้นชัดลึก หรือภาพหน้าชัดหลังเบลอ (Depth of Field) ได้เป็นอย่างดี และไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่นำเอาข้อได้เปรียบของเลนส์สองระยะทางยาวโฟกัสนี้มาพัฒนาต่อยอดให้สามารถทำงานเสมือนระบบซูมภาพด้วยเลนส์ (Optical Zoom) ได้อีกต่างหาก

 

3

4

เรียกได้ว่านวัตกรรมสมาร์ทโฟนกล้องคู่นั้นได้เข้ามาเติมเต็มประสบการณ์ของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และช่วยสร้างความแตกต่างจากนวัตกรรมกล้องถ่ายบนสมาร์ทโฟนแบบเดิมๆ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นเพียงแค่ก้าวแรกเท่านั้น เชื่อว่าในอนาคตนวัตกรรมกล้องคู่จะก้าวไปไกลกว่านี้ และทำอะไรได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน ส่วนในปี 2016 นี้จะมีสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นใดบ้างที่โดนใจทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์มากที่สุด ไปติดตามกันต่อได้เลยครับ

Huawei Mate 9 และ Huawei P9 สมาร์ทโฟนกล้อง LEICA Dual Camera

5

หากให้นึกถึงสมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ เชื่อว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็คงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับ Huawei Mate 9 และ Huawei P9 อย่างแน่นอน ด้วยการที่เป็นกล้องคู่ที่พัฒนาร่วมกับไลก้า (LEICA Dual Camera) แบรนด์กล้องระดับพรีเมียมสัญชาติเยอรมัน ที่แม้แต่บรรดามือโปรในวงการถ่ายภาพยังต้องยกนิ้วให้ โดยทั้งคู่ต่างก็มาพร้อมกับเซ็นเซอร์รับภาพสองตัวได้แก่เซ็นเซอร์รับภาพ RGB ที่ทำหน้าที่เก็บรายละเอียดของภาพสี และเซ็นเซอร์รับภาพ Monochrome ที่ทำหน้าที่เก็บรายละเอียดของภาพขาว-ดำ กับมิติภาพ ซึ่งเมื่อนำผลลัพธ์จากเซ็นเซอร์รับภาพทั้งสองนี้มารวมกัน ก็จะได้ภาพถ่ายที่มีรายละเอียดมากกว่า และมีคุณภาพที่ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะภาพขาว-ดำนั้นดูดีราวกับถ่ายจากกล้อง LEICA จริงๆ เลยทีเดียว อีกทั้งนวัตกรรมกล้อง LEICA Dual Camera นี้ได้พัฒนามาจนถึงรุ่นที่สองแล้ว (2nd Generetion) ซึ่งถูกนำมาใส่ไว้ใน Huawei Mate 9 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ ประเทศเยอรมนี โดยมีการอัปเกรดให้มีความละเอียดมากขึ้น, มีระบบกันสั่นแบบ OIS, มีระบบโฟกัสภาพแบบ 4-in-1 Hybrid Autofocus และมีระบบซูมภาพแบบ Hybrid Zoom

ข้อมูลเพิ่มเติม : Huawei Mate 9
ข้อมูลเพิ่มเติม : Huawei P9

 iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่มาพร้อม Optical Zoom

6

เหมือนเป็นการตอกย้ำว่านวัตกรรมกล้องคู่นั้นเป็นนวัตกรรมกล้องแห่งอนาคตที่ไม่ได้มาเล่นๆ และสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนได้จริง เพราะแม้แต่แบรนด์สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Apple เอง ก็อดไม่ได้ที่จะนำเอากล้องคู่มาใส่ไว้ใน iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน โดยกล้องคู่ที่อยู่บน iPhone 7 Plus นั้นมีความแตกต่างไปจากกล้องคู่บน Huawei Mate 9 หรือ Huawei P9 เนื่องจากเป็นแบบกล้องเลนส์คู่+เซ็นเซอร์รับภาพตัวเดียว ซึ่งประกอบไปด้วยเลนส์มุมกว้าง (Wide-Angle Lens) ซึ่งมีทางยาวโฟกัสที่ 28 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงที่ระดับ f/1.8 สำหรับเก็บรายละเอียดของวัตถุที่อยู่ด้านหน้า ส่วนเลนส์ตัวที่สองเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto Lens) ซึ่งมีทางยาวโฟกัสที่ 56 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงที่ระดับ f/2.8 สำหรับเก็บรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ที่อยู่ด้านหลัง เพื่อนำมาประมวลผลรวมกันจนออกมาเป็นภาพชัดตื้นชัดลึก หรือภาพหน้าชัดหลังเบลอ (Depth of Field) และด้วยการที่มีเลนส์สองระยะทางยาวโฟกัสอยู่ในตัว กล้อง iPhone 7 Plus จึงถูกพัฒนาต่อยอดให้สามารถใช้งานระบบซูมภาพด้วยเลนส์ (2x Optical Zoom) ได้ด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่หลายๆ คนตัดสินใจจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อ iPhone 7 Plus แทน iPhone 7 รุ่นมาตรฐานซึ่งไม่มีกล้องคู่ติดตั้งมาให้

ข้อมูลเพิ่มเติม : iPhone 7 Plus

LG V20 และ LG G5 สมาร์ทโฟนกล้องคู่มุมกว้างพิเศษ

7

LG V20 และ LG G5 ต่างก็มาพร้อมกล้องคู่ที่มีคุณสมบัติที่แทบจะถอดแบบกันมา เรียกว่ามี DNA เดียวกันก็คงจะไม่ผิดนัก เพียงแต่ LG V20 จะมีความสดใหม่กว่าเนื่องจากเปิดตัวออกมาในภายหลัง โดยกล้องคู่ของทั้ง LG V20 และ LG G5 นั้นจะเป็นแบบสองเลนส์+สองเซ็นเซอร์รับภาพเช่นเดียวกันกับ Huawei Mate 9 และ Huawei P9 เพียงแต่จะไม่ได้แยกเป็นเซ็นเซอร์ RGB กับ Monochrome แต่จะเน้นไปที่เลนส์มุมกว้างพิเศษ โดยเลนส์ตัวแรกนั้นเป็นเลนส์ระยะปกติ (75 องศา) ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์รับภาพความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงที่ระดับ f/1.8 ส่วนเลนส์ตัวที่สองนั้นเป็นเลนส์ที่มีมุมกว้างถึง 135 องศา ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์รับภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งให้ภาพที่บิดเบี้ยวเล็กน้อยคล้ายสไต์ของเลนส์ตาปลา (Fisheye Lens) ด้วยเหตุนี้จุดขายของกล้องคู่บน LG V20 และ LG G5 จึงแตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นอื่นๆ คือเน้นไปที่การถ่ายภาพมุมกว้าง โดยเฉพาะภาพวิวทิวทัศน์ ไม่ได้เน้นไปที่การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอเหมือนกับสมาร์ทโฟนกล้องคู่อีกหลายๆ รุ่น ซึ่งทาง LG ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าสามารถถ่ายภาพได้กว้างกว่าเลนส์กล้องปกติถึง 2 เท่า (Ultra Wide) เลยทีเดียว

ข้อมูลเพิ่มเติม : LG V20
ข้อมูลเพิ่มเติม : LG G5

 Xiaomi Mi 5s Plus สมาร์ทโฟนเรือธงกล้องคู่ในราคาคุ้มค่า

8

สำหรับสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนที่มีจุดขายในเรื่องของราคาที่คุ้มค่า อันดับแรกๆ ที่หลายคนน่าจะนึกถึงก็คือแบรนด์ Xiaomi ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนกล้องคู่ใหม่ล่าสุดออกมา นั่นก็คือ Xiaomi Mi 5s Plus ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ที่จัดเต็มเทียบชั้นกับเรือธงรุ่นท็อปจากแบรนด์ชั้นนำได้แบบสบายๆ แต่เคาะขายในราคาที่ย่อมเยากว่า โดยกล้องคู่บน Xiaomi Mi 5s Plus นั้นเป็นแบบสองเลนส์+สองเซ็นเซอร์รับภาพ และมีระบบการทำงานพื้นฐานที่ดูคล้ายกับ Huawei Mate 9 และ Huawei P9 อยู่ไม่น้อย นั่นคือเซ็นเซอร์รับภาพตัวแรกจะทำหน้าที่เก็บรายละเอียดของภาพสี (RGB) ส่วนเซ็นเซอร์รับภาพตัวที่สองจะทำหน้าที่เก็บรายละเอียดของภาพขาว-ดำ (Monochrome) (เซ็นเซอร์รับภาพความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงที่ระดับ f/2.0) ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อรวมผลลัพธ์ที่ได้จากเซ็นเซอร์สองตัวนี้เข้าด้วยกัน ก็จะได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูง และมีรายละเอียดที่ดีกว่าปกติ อีกทั้ง Xiaomi Mi 5s Plus รุ่นนี้ยังเป็นสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยี Qualcomm Clear Sight Dual Camera ซึ่งช่วยให้กล้องคู่นี้มี Dynamic Range ที่ดีขึ้น, เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น และมีปริมาณของจุดรบกวน (Noise) ที่น้อยลงเมื่อต้องถ่ายภาพในที่มืด หรือในที่ที่มีแสงน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม : Xiaomi Mi 5s Plus

 Vivo X9 สมาร์ทโฟนเซลฟี่กล้องคู่ด้านหน้า

9

ดูเหมือนว่าทาง Vivo จะต้องการทำให้นวัตกรรมกล้องคู่มีความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ เพราะแทนที่จะนำกล้องคู่ไปติดตั้งไว้ที่ด้านหลังตัวเครื่องเหมือนกับคู่แข่งในตลาด แต่เลือกที่จะนำเอากล้องคู่ไปติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องแทน เรียกได้ว่าพัฒนามาเพื่อเอาใจชาวเซลฟี่พันธุ์แท้แบบเต็มตัว โดยระบบภายในจะประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX376 พร้อมกล้องตัวแรกที่ทำหน้าที่เก็บภาพความละเอียดสูงสุด 20 ล้านพิกเซล (f/2.0) ที่ทำงานร่วมกับกล้องตัวที่สองความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ทำหน้าที่ตรวจวัดระดับลึกตื้นของภาพ ซึ่งเมื่อนำผลลัพธ์ของทั้งสองกล้องมาประมวลผลรวมกันแล้ว ก็จะได้ภาพแบบชัดลึกชัดตื้น หรือภาพหน้าชัดหลังเบลอ (Depth of Field) ที่สวยงามไม่แพ้กล้องโปร แถมยังถือขึ้นมาเล็งถ่ายด้วยตัวเองได้แบบไม่ต้องลำบากคนรอบข้างอีกต่างหาก จึงนับเป็นสมาร์ทโฟนเซลฟี่ระดับท็อปอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ข้อมูลเพิ่มเติมVivo X9

 

10

จะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) ทุกรุ่นข้างต้น ต่างก็มีความยอดเยี่ยมสมกับตำแหน่งที่ได้รับในปี 2016 นี้ ด้วยนวัตกรรมกล้องคู่ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน

ซึ่งเข้ามาฉีกกฏการถ่ายภาพแบบเดิมๆ ด้วยสมาร์ทโฟนให้มีความแตกต่างออกไป และสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่รักการถ่ายภาพได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแบบชัดตื้นชัดลึก, ภาพโบเก้, ภาพทิวทัศน์ในมุมกว้าง, ภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ, ภาพขาว-ดำ หรือระบบการซูมภาพด้วยเลนส์ภายในตัวเครื่องที่ยังคงบางเฉียบอยู่เช่นเดิม อีกทั้งสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นข้างต้นนั้นไม่ได้มีความโดดเด่นเพียงแค่นวัตกรรมกล้องคู่แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะฟีเจอร์อื่นๆ ล้วนอยู่ในระดับไฮเอนด์แทบทั้งสิ้น เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้ครบเครื่องเต็มประสิทธิภาพทุกรูปแบบ

ซึ่งในปีหน้าก็คาดว่าจะมีสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวออกมาอีกหลายต่อหลายรุ่น และการแข่งขันในวงการสมาร์ทโฟนกล้องคู่จะยิ่งเข้มข้นร้อนแรงมากขึ้นตามลำดับ แต่สุดท้ายแล้วจะมีรุ่นใดที่เข้าตากรรมการอีกบ้างนั้น ปีหน้ารอติดตามกันต่อได้นะครับ สำหรับวันนี้ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็คงต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook