5 เรื่องเข้าใจผิด ๆ ที่ไม่มีใครเคยบอกสำหรับคนใช้งานมือถือ

5 เรื่องเข้าใจผิด ๆ ที่ไม่มีใครเคยบอกสำหรับคนใช้งานมือถือ

5 เรื่องเข้าใจผิด ๆ ที่ไม่มีใครเคยบอกสำหรับคนใช้งานมือถือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มือถือกับการใช้งานในชีวิตประจำวันคงดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของแต่ละคนอยู่แต่เชื่อว่า เรื่องเหล่านี้น่าจะมีคนทำอยู่แต่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง

เปิด Fight Mode จะทำให้ชาร์จไฟเร็วขึ้น

เรื่องแรกที่พบเห็นเพราะมีคนมาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เปิด Fight Mode จะทำให้ชาร์จไฟเร็วขึ้น โดยทฤษฎีได้บอกว่าเพราะตัวเครื่องจะไม่มีการใช้งานอะไรทำให้ไฟฟ้าไหลไปหาเครื่องได้เร็วขึ้น

โดยผู้เขียนได้ลองทำทั้ง เปิด และ ไม่เปิด Fight Mode กับมือถือเครื่องเดียวกัน พบว่า ทั้ง 2 กรณีนี้จ่ายไฟเต็มเร็วเท่านกัน เพราะ การจ่ายไฟเข้าเครื่องขึ้นอยู่กับกำลังไฟของ USB และหัวชาร์จไฟมากกว่าการเปิดปิดทุกอย่างภายในเครื่อง แตท้ายที่สุด การชาร์จไฟมือถือก็ไม่ควรใช้งานมือถือไปด้วยในเวลาเดียวกัน

ใช้หัวปลั๊กไฟแบบ Fast Charge จะทำให้มือถือทุกเครื่องชาร์จไฟเร็วขึ้น

 

อีกเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดอย่างแรง คือการซื้อหัวชาร์จมือถือที่จ่ายไฟแรงกว่าเครื่องของตนเอง เพื่อหวังว่าจะทำให้ไฟเร็วขึ้น อันนี้นอกจากจะทำให้ระบบไฟฟ้าเข้าไปในเครื่องมากเกินไปแล้ว อาจจะทำให้คุณเสียเงินกับที่ชาร์จในราคาสูงเกินไป

ทางที่ดีควรศึกษาคู่มือหรือเว็บไซต์ของผู้ผลิตมือถือว่า รองรับที่ชาร์จแบบไหนก่อนที่จะซื้อเพื่อเป็นการประหยัดเงินและถนอมเครื่องในตัว

หน้าจอเล็กความละเอียดเยอะกินไฟน้อยกว่า

เนื่องจากมือถือในรุ่นท็อป ๆ ทั้งหลายจะให้หน้าจอที่เล็กลงแต่ความละเอียดหน้าจอมากเช่นมือถือรุ่นหนึ่งในหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วแต่ความละเอียดอยู่ที่ 2560x1440 (QHD) กับอีกรุ่นให้หน้าจอเท่ากันแต่ความละเอียด 1920x1080 (Full HD) โดยสเปคเท่ากันพบว่าหน้าจอของเครื่องที่มีหน้าจอขนาดเล็ก แต่มีความละเอียดมากกว่ากลับกินไฟมากกว่าหน้าจอใหญ่มีความละเอียดน้อย

ส่วนหนึ่งเพราะเมื่อความละเอียดหน้าจอมากขึ้น จะทำให้ระบบภายในของเครื่องถูกใช้งานมากขึ้นนั่นเอง

แต่เหตุผลนี้ไม่ได้บอกให้คุณซื้อมือถือหน้าจอความละเอียดน้อยแล้วจะดี แต่ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่จะใช้งานกับ มือถือ หรือ Tablet มากกว่า

มือถือกันน้ำ ถ้าตกน้ำแล้วเสียซ่อมฟรี

ทุกวันนี้มือถือหลายรุ่นมีการโฆษณาว่ากันน้ำและตกน้ำได้โดยไม่เป็นไร ทำให้หลายคนเริ่มใช้งานวิบากไม่ว่าจะเป็นน้ำไปถ่ายภาพใต้น้ำ ลงไปทะเลหรืออื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งมาตรฐานการกันน้ำของมือถือที่มีอยู่นั้นจะเป็น IP67/68 ซึ่งสามารถลงน้ำได้ในความลึก 1 – 1.3 เมตร ได้นาน 30 นาที ซึ่งจะต้องเป็นน้ำนิ่ง แต่ถ้าเป็นการว่ายน้ำหรือน้ำที่มีแรงดันก็อาจจะไม่ทนขนาดนั้น และในคู่มือของมือถือแต่ละเครื่องเช่น iPhone 7 ระบุไว้ว่า การกันน้ำจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน หากน้ำเข้าเครื่องจะถือว่าหมดประกันทันที นั่นหมายความว่าเวลาซ่อมก็จะเสียค่าใช้จ่ายนั่นเอง

สรุปแล้ว คุณสมบัติกันน้ำนั้นไว้ใช้แค่กรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ควรใช้ลงน้ำแบบเป็นเรื่องปกติประจำวัน

ลืมมือถือ/Powerbank ในรถคงไม่เป็นไร

เป็นเรื่องที่จริงถ้ารถคุณจอดในที่ร่ม แต่ว่าถ้าคุณลืมมือถือหรือ Powerbank ไว้ในรถเมื่อจอดไว้ในที่กลางแจ้งคงเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่นอน เพราะความร้อนจากแสงแดดที่อยู่ภายในรถจะสูงกว่าข้างนอกพอสมควร ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เกิดความร้อนได้รวดเร็ว

ประกอบกับแบตเตอรี่ทั้งใน Powerbank และ มือถือ รวมไปถึง Tablet, คอมพิวเตอร์ Notebook เช่นกัน จะไม่สามารถทนความร้อนในลักษณะแบบนี้ได้นานนัก ก็ส่งผลร้ายแรงถึงขั้น ระเบิด! ได้เลยครับ และอาจจะเป็นจุดสนใจของขโมยที่จะทุบกระจกรถคุณได้ง่ายเช่นกัน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook