อยากรู้ไหม...ทำไมอินเทอร์เน็ตถึงเร็ว?
ทุกวันนี้เวลาเราใช้อินเทอร์เน็ตทางโทรศัพท์มือถือ เคยสังเกตไหมว่าความเร็วในการใช้งานของแต่ละครั้ง หรือของแต่ละเครือข่ายก็ไม่เท่ากัน และอะไรคือปัจจัยที่ส่งผลต่อความเร็วในการใช้งาน
Sanook! Hitech เองก็สงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจนได้คำตอบว่า เบื้องหลังความเร็วในการใช้งานก็คือ Latency หรือ Ping สองคำที่หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันยุคดิจิทัลของเราทุกวัน
เริ่มที่ Latency กันก่อนดีกว่า
Latency ก็คือความหน่วงในการรับ-ส่งข้อมูล หรือความเร็วในการตอบสนองการรับส่งข้อมูลนั่นเอง หน่วยของ Latency ก็คือมิลลิวินาที (ms) หรือ 1/1000 วินาที การทดสอบเพื่อหาค่าตัวเลขนี้ทำโดยส่งข้อมูลหรือคำสั่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง แล้วให้เซิร์ฟเวอร์นั้นส่งผลลัพธ์กลับมายังอุปกรณ์ของเรา เวลา 1 รอบที่ข้อมูลใช้ในการเดินทางไปและกลับก็คือค่า Ping นั่นเอง
เรามายกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นดีกว่า สมมติว่าการส่งข้อมูลไป-กลับของเครือข่าย A ใช้เวลา 20 มิลลิวินาที ก็เท่ากับว่ามีค่า Ping 20 ms ในขณะที่ในการทดสอบเดียวกัน เครือข่าย B ใช้เวลา 30 มิลลิวินาที ซึ่งก็คือมี Ping เท่ากับ 30 ms ตัวเลข Ping ยิ่งมาก ก็ยิ่งมีความหน่วงในการตอบสนองข้อมูลสูงขึ้น นั่นหมายความว่าระหว่างเครือข่าย A กับ B นั้น เครือข่าย A ตอบสนองต่อข้อมูลได้เร็วกว่าเครือข่าย B
โดยปัจจัยที่มีผลต่อค่า Ping นี้ก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวกลาง ระยะทาง หรือสภาพอากาศ ก็สามารถส่งผลต่อความเร็วได้ทั้งนั้น การจะดูว่าอินเทอร์เน็ตของเครือข่ายไหนเร็วกว่าก็ดูได้จากค่า Ping นี่ล่ะ เพราะยิ่งน้อยก็ยิ่งมีประสิทธิภาพนั่นเอง
เรื่องของ Latency หรือ Ping นี้ คนที่รู้จักดีน่าจะเป็นบรรดาเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมออนไลน์ผ่านทางมือถือเป็นประจำ เพราะเกมออนไลน์ส่วนใหญ่ต้องอาศัยการรับส่งข้อมูลปริมาณมากกว่าเล่นโซเชียลมีเดีย แชท หรือรับส่งเมล์ทั่วไป ความหน่วงนี้จะน้อยหรือมากก็บอกได้จากเวลาเล่นเกมนี่ล่ะ
เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าใช้อินเทอร์เน็ตอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมออนไลน์บ่อยพอๆ กับเช็คเฟซบุ๊ก หรืออาจจะบ่อยกว่า เวลาเลือกเครือข่ายมือถือจะมองแค่เรื่องของแพ็กเกจการใช้งานหรือค่าอัพโหลด-ดาวน์โหลดอย่างเดียวไม่ได้ แต่อาจจะต้องลงรายละเอียดกันถึงเรื่อง Latency หรือค่า Ping เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ใช้แล้วอรรถรสในการเล่นเกมจะไม่แลค
รู้จักผู้ช่วยเบื้องหลังการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นแล้ว ต่อไปนี้ก่อนจะเลือกใช้เครือข่ายไหน อย่าลืมเลือกเครือข่ายอย่าง AIS ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก OOKLA Speedtest ให้เป็นเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เร็วที่สุดในประเทศไทยถึง 2 ปีซ้อน ในปี 2015 และ 2016 เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่า คุณภาพดีทั้งสัญญาณและการตอบสนองไป-กลับที่ใช้เวลาน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากการคำนึงถึงเรื่องนี้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการให้บริการอินเทอร์เน็ตกับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
[Advertorial]