รวมข้อมูล Apple PRODUCT (RED) ผลิตภัณฑ์สมทบทุนเพื่อต่อต้านโรคเอดส์จาก Apple รุ่นไหนโดน
รวมข้อมูล Apple PRODUCT (RED) ผลิตภัณฑ์สมทบทุนเพื่อต่อต้านโรคเอดส์จาก Apple รุ่นไหนโดน รุ่นไหนไม่โดน มาดูกัน
หลังจากที่ แอปเปิล ได้เปิดตัว iPhone 7 สีแดง เวอร์ชัน (PRODUCT) RED เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2017 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า เป็นการปลุกกระแส iPhone 7 ให้กลับมาบูมอีกครั้ง ซึ่งการเปิดตัว iPhone 7 สีแดง RED นี้ ไม่ใช่แค่เป็นตัวเลือกสีใหม่เท่านั้น แต่สำหรับผลิตภัณฑ์จาก (PRODUCT) RED ถือว่า เป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในซีรี่ส์ (PRODUCT) RED จะไปสมทบทุนให้กับมูลนิธิช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ HIV หรือโรคเอดส์ (AIDS) นั่นเอง
โดย แอปเปิล ได้มีส่วนร่วมกับกองทุนโลกเพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ HIV กับการริเริ่มโครงการ (PRODUCT) RED มานานแล้วกว่า 11 ปี สามารถระดมเงินได้กว่า 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนอกจาก iPhone 7 สีแดงแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้นโยบาย (PRODUCT) RED อีกหลายชิ้น ซึ่งก็มีรุ่นที่ "สอบผ่าน" และ "สอบตก" เมื่อแปลงร่างเป็น (PRODUCT) RED มาดูกันว่า มีอะไรบ้าง
** หมายเหตุ: รายชื่อผลิตภัณฑ์ คัดเลือกโดยเว็บไซต์ cultofmac.com
Mac Pro
Mac Pro นั้น จริง ๆ แล้วก็คือ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งนั่นเอง แต่เหมาะสำหรับการใช้งานระดับโปรที่ต้องใช้การประมวลผลขั้นสูง จึงทำให้ราคาของ Mac Pro นั้น ค่อนข้างแพงกว่ารุ่นอื่น ๆ ซึ่ง Mac Pro นั้น เคยเป็นหนึ่งใน (PRODUCT) RED เมื่อปี 2013 และมีเครื่องเดียวในโลก โดยเป็นผลงานการออกแบบของ Jony Ive และ Marc Newson ดีไซเนอร์ผลิตภัณฑ์สาย Industrial คนดัง
สาเหตุที่ (PRODUCT) RED Mac Pro มีเครื่องเดียวในโลก เป็นเพราะว่า เป็นการประมูลสินค้าเพื่อนำเงินเข้าองค์กรการกุศล ในงาน Jony and Marc’s (RED) Auction และที่สำคัญ Mac Pro สีแดงเครื่องนี้ ถูกประมูลไปได้ถึง $977,000 หรือประมาณ 35 ล้านบาทเลยทีเดียว ในขณะที่ราคาของ Mac Pro รุ่นปกติ เริ่มที่แสนต้น ๆ เท่านั้น
หูฟัง EarPods สี Rose Gold
กล้อง Leica รุ่นพิเศษ
The (RED) Desk
โดยงานประมูลดังกล่าว นอกจากจะมี Mac Pro สีแดงแล้ว ยังมีหูฟัง EarPods สี Rose Gold ที่ถูกประมูลไปในราคา $461,000 (ประมาณ 16.5 ล้านบาท), กล้อง Leica รุ่นพิเศษ ถูกประมูลไป $1,805,000 (ประมาณ 64 ล้านบาท) และ The (RED) Desk ถูกประมูลไป $1,685,000 (ประมาณ 60 ล้านบาท) เรียกได้ว่า Mac Pro สีแดงรุ่น (PRODUCT) RED นั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple อีกด้วย
iPod nano
ก่อนที่ แอปเปิล จะเริ่มนโยบาย (PRODUCT) RED อย่างจริงจัง ทราบกันหรือไม่ว่า บุคคลที่จุดประกายให้ แอปเปิล เริ่มทำผลิตภัณฑ์เพื่อการกุศลนี้ จริง ๆ แล้วก็คือ Bono นักร้องนำวง U2 นั่นเอง ซึ่ง Bono เคยปรึกษาหารือกับ Steve Jobs อดีตซีอีโอของแอปเปิล ให้ผลิต iPod เพื่อการกุศล แต่กว่าที่จะออก iPod nano เวอร์ชัน (PRODUCT) RED นั้น เรียกได้ว่า ขัดแย้งกับ Steve Jobs ไปหลายครั้ง เนื่องจาก Jobs ต้องการจะใช้ชื่อ Apple Red มากกว่า แต่สุดท้าย ก็ยอมให้เรียกว่า (PRODUCT) RED จนกลายเป็น iPod nano (PRODUCT) RED ในที่สุด
ส่วน iPod nano รุ่นปัจจุบัน ไม่ใช่ดีไซน์ปุ่มกดแบบวงแหวนแล้ว แต่ปรับหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น และเป็นหน้าจอสี พร้อมปุ่ม Home คล้าย iPod Touch นั่นเอง
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สีแดง (PRODUCT) RED
ไม่พูดถึงคงไม่ได้แล้ว สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สีแดง ที่ถือว่า เป็นอีกรุ่นที่อยู่ในโปรเจ็ค (PRODUCT) RED นั่นเอง โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคม 2017 นี้ แต่น่าเสียดายที่ iPhone 7 สีแดงนั้น มีให้เลือกแค่ตัวเครื่องด้านหน้าสีขาว ไม่มีสีดำซึ่งเป็นสีโปรดของหลาย ๆ คน ไม่แน่ว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แอปเปิล อาจจะเปิดตัว iPhone 7 สีแดง ด้านหน้าสีดำ ก็เป็นได้
โดย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สีแดง จะมีให้เลือกแค่ 2 ขนาดความจุเท่านั้น ได้แก่ 128 GB กับ 256 GB ราคาเริ่มต้นที่ 30,500 บาท
iPod Shuffle
นอกจาก iPod nano จะอยู่ในกลุ่ม (PRODUCT) RED แล้ว ด้าน iPod Shuffle ก็มีสีแดงให้เลือกเช่นกัน ซึ่งจะเห็นว่า สีแดงเมื่ออยู่บน iPod Shuffle ถือว่า เป็นส่วนผสมที่ลงตัว เนื่องจากสีสันต่าง ๆ เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กนั่นเอง และน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ ผลิตภัณฑ์ชิ้นใหญ่ แอปเปิล ไม่เลือกที่จะใช้สีสันมากนัก เพราะคงมองว่า ไม่เหมาะเท่าไหร่
ผลิตภัณฑ์ไหนที่ผู้ใช้มองว่า ไม่เหมาะกับ (PRODUCT) RED ?
ถึงแม้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ แอปเปิล จะมีให้เลือกมากมาย แต่ก็ใช่ว่า ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะถูกนำมาเป็น (PRODUCT) RED แต่ในบางครั้ง ผลิตภัณฑ์ที่ถูกเลือกให้เป็น (PRODUCT) RED นั้น ใช่ว่าจะสวยและได้การยอมรับเสมอไป อย่างเช่น เคส Smart Battery Case หรือเคสหลังเต่า สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ iPhone รุ่นนี้ ถูกมองว่า ต่อให้เป็น (PRODUCT) RED ก็ยังไม่สวยอยู่ดี
ซึ่งที่ผ่านมา Smart Battery Case นี้ ถูกวิจารณ์ในเรื่องของดีไซน์ที่ไม่สวย แม้จะมีประโยชน์ในเรื่องของ การเป็นทั้งเคสปกป้องเครื่อง และยังสามารถเป็นแบตเตอรี่สำรองในตัวก็ตาม แต่เมื่อใส่แล้ว จะเห็นว่า ทำให้ตัวเครื่องดูหนาขึ้น และเทอะทะ ประกอบกับราคาที่ค่อนข้างแพง (4,300 บาท) แต่ชาร์จแบตได้แค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น จึงมองว่า ไม่สมกับราคา ฉะนั้น ต่อให้ Smart Battery Case นี้ เพิ่มสีแดงเข้ามา ก็คงไม่ถูกใจผู้ใช้อยู่ดี
สำหรับ (PRODUCT) RED นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ในข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สาย Apple Watch, Smart Cover สำหรับ iPad, เคส iPhone และอื่น ๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Apple
