ทำความรู้จัก Nokia 3 Nokia 5 และ Nokia 6 ก่อนพบกันในงาน Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End สัปดาห์หน้า
จะเรียกได้ว่าสิ้นสุดการรอคอยสำหรับสาวก Brand มือถือในตำนาน ซึ่งในที่สุด ก็ได้กลับมาขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยครั้งนี้ Nokia ภายใต้การมาของ HMD เช่นเคย นำมือถือ 3 รุ่นมาขายในไทย ซึ่งครั้งนี้ทีมงาน Sanook! Hitech จะมาเจาะสเปคทั้ง 3 รุ่นนี้ก่อนเจอกันสัปดาห์หน้า
Nokia 3
เริ่มจาก น้องเล็กสุดอย่าง Nokia 3 ที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็ยังถือว่าไม่ได้เล็กเกินไป และมีสีสันให้เลือก 4 สี และเป็นมือถือเริ่มต้นในกลุ่ม Smart Phone และได้ใช้งาน Android 7.0 Nougat ตั้งแต่เปิดกล้องส่วนสเปคมีดังนี้
- หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280x720
- CPU Mediatek MT6737 Quad Core 1.4GHz
- RAM 2GB, ROM 16 GB
- เพิ่มความจำได้ด้วย Micro SD
- รองรับ 4G LTE, WiFi, Bluetooth
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ PDAF, Dual LED Flash
- แบตเตอรี่ขนาด 2650 mAh พร้อมกับระบบชาร์จไฟเร็ว
- ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
- มีให้เลือก 4 สีคือ Silver White, Matte Black, Tempered Blue, Copper White
Nokia 5
ถ้ามองว่าสเปคของ Nokia 3 นั้นยังไม่ได้ดั่งใจแล้วล่ะก็ Nokia 5 ก็เป็นรุ่นกลาง ๆ ระหว่าง Nokia 3 และ 6 ที่มีความน่าสนใจ พอสมควร แต่จุดเด่นที่ต้องพูดก่อนคือเรื่องของสีตัวเครื่องมากกว่า Nokia 6 แต่สเปคนั้นจะแตกต่างกันแค่ไหนมาดูกัน
- หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1280x720
- CPU Qualcomm Snapdragon 430 Octa Core 1.4GHz
- RAM 2GB, ROM 16 GB
- เพิ่มความจำได้ด้วย Micro SD
- รองรับ 4G LTE, WiFi, Bluetooth
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ PDAF, Dual LED Flash
- แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมกับระบบชาร์จไฟเร็ว
- ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
- มีให้เลือก 4 สีคือ Tempered Blue, Silver, Matte Black, Copper White
Nokia 6
จริง ๆ แล้วรุ่นนี้เปิดตัวในประเทศจีนก่อน 2 รุ่นที่จะตามมาในตลาดโลก กระแสตอบรับในประเทศจีนเรียกได้ว่าดีมาก เพราะขายเครื่องหมดทุกรอบการเปิดขายแบบ Flash Sale โดยครั้งนี้ในประเทศไทยก็ได้มือถือรุ่นนี้มา แต่ยังไม่เปิดเผยราคาว่าเท่าไหร่ แต่มาดูสเปคกันหน่อย เพราะนี่คือสเปคสุดของ Nokia ณ เวลานี้
- หน้าจอ 5 นิ้วความละเอียด Full HD
- CPU Qualcomm Snapdragon 430 Octa Core 1.4GHz
- RAM 3 – 4GB, ROM 32 – 64 GB
- เพิ่มความจำได้ผ่าน Micro SD
- รองรับ 4G LTE, WiFi, Bluetooth
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ PDAF, Dual LED Flash
- แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมกับระบบชาร์จไฟเร็ว
- ช่องเสียบ Micro USB
- บอดี้โลหะ
ถ้าสรุปสำหรับสเปครุ่นนี้ถือว่าครบเครื่องและมีดีที่ Brand แต่สเปคนั้นถือว่าจัดมาดีและตอนนี้ได้ใช้งาน Android 7.1.1 เรียบร้อย ต้องลุ้นกันที่ราคาต่อไปเพราะคาดว่าจะมีให้เลือกทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นพิเศษ
ส่วนราคาทั้ง 3 รุ่นต้องมาดูกันในงาน Thailand Mobile Expo 2017 Hi End ในวันที่ 18 – 21 พฤษภาคม ซึ่งทีมงาน Sanook! Hitech ไม่พลาดที่จะพาไปชมกันแน่นอนครับ
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ