5 เกมโคตรดังในอดีตที่หลายคนเคยเล่น และอาจจะลืมไปแล้วโดยไม่รู้ตัว

5 เกมโคตรดังในอดีตที่หลายคนเคยเล่น และอาจจะลืมไปแล้วโดยไม่รู้ตัว

5 เกมโคตรดังในอดีตที่หลายคนเคยเล่น และอาจจะลืมไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกวันนี้มีเกมเกิดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ดและหาเล่นง่ายกว่าแต่ก่อนมากๆ เพราะมีให้เล่นทุกแพลตฟอร์ม แถมหลายเกมยังฟรีอีกต่างหาก แต่ท่ามกลางเกมนับล้านๆ บนโลกนี้ก็มีไม่กี่เกมที่จะเฉิดฉายในวงการและสร้างตำนานของตัวเองได้ และถึงแม้จะทำได้ หลายเกมก็ไม่อาจรักษาความสำเร็จนั้นไว้โดยตลอดรอดฝั่ง และค่อยๆ ถูกลืมเลือนกลายเป็นดาวดับแสงแห่งวงการไปแม้ว่ามันจะสนุกมากก็ตามที

และในวันนี้เราจะพาย้อนเวลาไปพบกับ 5 เกมในอดีตที่เคยดังเปรี้ยงปร้างเป็นพลุแตกแต่กลับถูกลืมไปดื้อๆ ในเวลาไม่นาน ซึ่งเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเล่น 5 เกมนี้กันมาแล้วอย่างแน่นอน จะมีเกมอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ

 1. Farmville

เกือบสิบปีก่อนใครที่เล่น Facebook ร้อยทั้งร้อยต้องเคยลองเล่น “เกมปลูกผัก” หรือ Farmville มาแล้วแน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วใครก็ตามที่ได้ลองเล่นเกมนี้จะติดงอมแงมจนถอนตัวไม่ขึ้น ชีวิตจะวนเวียนอยู่กับการปลูกผักและเก็บผักในบ้านไร่ชายทุ่งตลอดเวลา บางคนถึงขั้นเอาบัญชี Facebook ตัวเองให้เพื่อน log in เข้าไปช่วยเก็บผักกันเลยทีเดียว และ Farmville นี้เอง ที่ทำให้เกมบน Facebook ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนมีเกมใหม่ๆ ผุดตามขึ้นมามากมาย

Farmville เป็นเกมจากค่าย Zynga ที่จะให้เราสวมบทเจ้าของฟาร์ม ปลูกผักหลากชนิดและเลี้ยงสัตว์นานาพันธุ์ เก็บเกี่ยวผลผลิตไปขาย และนำเงินมาขยับขยายฟาร์มพร้อมๆ กับอัปเกรดเครื่องมือทำมาหากินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีไอเท็มสวยๆ ไว้ตกแต่งฟาร์มของเราให้สวยงามดังใจ สไตล์ใครสไตล์มัน การค่อยๆ ปั้นฟาร์มในฝันขึ้นมากับมือและเก็บเงินขยับขยายฟาร์มให้เติบโตขึ้นเป็นเสน่ห์ของเกมที่ครองใจผู้เล่นทุกเพศทุกวัยแม้แต่คนที่ไม่ชอบเล่นเกมมาก่อน ประกอบกับระบบของเกมที่ผักจะเน่าหากไม่เก็บเกี่ยวในเวลาที่กำหนด ทำให้ผู้เล่นต้องกลับมาดูฟาร์มของตัวเองเป็นระยะๆ ทำให้เกมนี้มียอดผู้เล่นสูงมาก และเลิกยากด้วยเช่นกัน


สภาพความหายนะเมื่อผู้เล่นลืมเก็บผัก

แต่ยุคทองของ Farmville และ Zynga ก็อายุไม่ยืนนัก เมื่อผู้เล่นหลายคนเริ่มเบื่อกับคอนเทนต์เดิมๆ และการเข้ามาเก็บผัก-ปลูกผักซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ผู้เล่นเริ่มหนีจากเกมตระกูล Ville ทั้งหลายไปเล่นเกมใหม่ๆ ซึ่งในขณะนั้นเกมบน web browser กำลังเป็นที่นิยม และเป็นช่วงขาลงของเกมบน Facebook พอดี ส่งผลให้บ้านไร่ชายทุ่งถูกทิ้งร้างและถูกลืมไปในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ใครที่คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ สามารถดาวน์โหลดเกม Farmville มาเล่นบนสมาร์ทโฟนกันได้ทั้ง iOS และ Android ครับ

 

2. แฮปปี้คนเลี้ยงหมู

แฮปปี้คนเลี้ยงหมู อีกหนึ่งเกมยอดนิยมในยุคทองของแพลตฟอร์ม Facebook ซึ่งมาแรงไม่แพ้ Farmville เลยทีเดียว ในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นเจ้าของฟาร์มหมูที่ต้องคอยดูแล ให้อาหาร และผสมพันธุ์หมู เพื่อเลี้ยงให้โตและนำไปแปรรูปส่งขายและหาเงินมาซื้อไอเท็มต่างๆ และขยายคอกให้ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถผสมพันธุ์หมูให้ได้หมูชนิดพิเศษอีกด้วย

แต่ความสนุก(?)ของเกมนี้จริงๆ อยู่ที่ “การขโมยลูกหมูเกิดใหม่” จากคอกเพื่อน และบ่อยครั้งที่ลูกหมูพวกนี้จะเป็นพันธุ์พิเศษ หลายคนจึงนั่งเฝ้าคอกเพื่อนทั้งวันเพื่อรอขโมยหมู ส่วนคนที่กำลังรอหมูตัวเองคลอดก็ต้องตั้งนาฬิกาปลุกเตือนให้รีบเข้าไปให้อาหารหมูก่อนจะโดนฉกไป (เมื่อให้อาหารหมูเกิดใหม่ครั้งหนึ่งแล้วจะขโมยไม่ได้อีก) ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรแต่มันคือเรื่องที่ซีเรียสมากสำหรับคนเลี้ยงหมูทั้งหลาย หลายคนถึงกับตัดเพื่อนตัดฝูง Unfriend กันเพราะขโมยหมู บางคนก็แก้แค้นด้วยการไปวางยาหมูเพื่อนให้ตายยกคอก เป็นเรื่องเป็นราวดราม่ากันไป แต่ก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้เกมนี้แตกต่างจากเกม Facebook อื่นๆ ในขณะนั้น

เมื่อยุคทองของเกม Facebook จบลง แฮปปี้คนเลี้ยงหมูก็เสื่อมความนิยมและค่อยๆ ถูกลืมเลือนไป แต่ก็ยังมีคนเล่นอยู่เรื่อยๆ ทว่าในระยะหลังตัวเกมมีปัญหามากมาย ทั้ง log in ไม่ได้ เพื่อนหาย และปัญหาอื่นๆ ที่คาราคาซังแก้ไม่หายสักที ในที่สุดแฮปปี้คนเลี้ยงหมูก็ประกาศปิดให้บริการอย่างถาวรในวันที่ 28 เมษายน 2017 เวลาเที่ยงตรง เหลือไว้เพียงความทรงจำในใจของอดีตคนเลี้ยงหมูทุกคน

 

3. Flappy Bird

ถัดจากยุคเกม Facebook ก็มาสู่ยุคของเกมมือถือกันบ้าง ซึ่งก็มีอยู่เกมหนึ่งที่มาแรงอย่างไม่น่าเชื่อนั่นก็คือ Flappy Bird ครับ

Flappy Bird เป็นเกมแนวอินดี้จากฝีมือการสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเกมชาวเวียดนาม Dong Nguyen และใช้เวลาพัฒนาแค่ 2 วันเท่านั้น เดิมทีแล้ว Flappy Bird เป็นเกมที่สร้างขึ้นมาขำๆ สำหรับเล่นฆ่าเวลา ตัวเกมเรียบง่ายและธรรมดามากๆ ทั้งเกมควบคุมด้วยการเอานิ้วจิ้มอย่างเดียว กราฟิกก็เป็นแบบ pixelate ไม่ได้เป็น 3D สวยงามอลังการอะไร ทั้งเกมเราจะได้บังคับนกสีเหลืองตัวหนึ่ง (ซึ่งจริงๆ แล้วมีชื่อว่า Faby) กระโดดข้ามท่อไปเรื่อยๆ หากปล่อยให้นกตกถึงพื้นหรือกระโดดชนท่อจะจบเกมทันที และจำนวนของท่อที่เราข้ามได้ก็จะเป็นคะแนนของเรา

จุดเด่นที่ชัดที่สุดของเกมนี้ คือ “ความยากระดับมหาโหด” ชนิดที่ว่าถ้าใครกระโดดข้ามท่อได้สัก 50 คะแนนก็ถือว่าเป็นเทพได้แล้ว เมื่อชื่อเสียงของเกมกระจายออกไป ผู้คนทั่วทุกสารทิศต่างก็อยากจะท้าทายความโหดหินของมัน ส่งผลให้ยอดดาวน์โหลดพุ่งกระฉูดและทำเงินให้กับ Dong Nguyen ถึงวันละ 1.7 ล้านบาทจากค่าโฆษณาเพียงอย่างเดียว ทำเอาเจ้าตัวถึงกับงง เพราะไม่เคยคิดเลยว่าเกมที่เขาสร้างขึ้นมาขำๆ จะโด่งดังถึงเพียงนี้

ตัวอย่างความหัวร้อนจาก Flappy Brid (คลิปมีเสียงดังและมีคำหยาบ) สามารถดูได้จากลิงค์ >>> https://www.youtube.com/watch?v=8rTaBGpJIcQ

แม้ Flappy Bird จะสร้างรายได้อย่างมหาศาล แต่มันก็นำฝันร้ายมาให้เช่นกัน เมื่อผู้เล่นเริ่มกล่าวโทษว่า Flappy Bird ทำให้ชีวิตพวกเขาป่นปี้ เพราะความยากของมันทำให้ผู้เล่นต้องเล่นใหม่ไปเรื่อยๆ แม้จะ “หัวร้อน” แค่ไหนก็เลิกไม่ได้ และบางคนก็พาลเกลียด Dong Nguyen ไปด้วย ทำให้เขาจิตตกมาก ประกอบกับช่วงนั้นมีนักธุรกิจและสื่อติดต่อมาหาเขามากมาย แต่เขาปรารถนาเพียงชีวิตที่สงบสุขเท่านั้น ท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจถอดเกมนี้ออกจาก Store เพราะมันทำลายชีวิตของเขานั่นเอง

 

4. Cookie Run

ในช่วงที่เกมมือถือกำลังบูม Cookie Run เป็นเกมที่ได้รับความนิยมสูงมากตั้งแต่เปิดตัว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความทุ่มเททางการตลาดของ LINE ที่โปรโมตเกมนี้ในสื่อต่างๆ

Cookie Run เป็นเกมที่มีกราฟิกน่ารักสดใสและเกมเพลย์ที่เข้าใจง่ายมาก สามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย จะเล่นแก้เบื่อก็ได้ หรือจะแข่งจริงจังกับเพื่อนก็ไม่เลว ในเกมเราจะได้บังคับตัวละครที่เป็นคุกกี้แบบต่างๆ ที่หนีออกมาจากเตาของแม่มด ซึ่งคุกกี้ของเราจะวิ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา หน้าที่ของเราคือคอยกระโดดหรือสไลด์หลบสิ่งกีดขวาง พร้อมๆ กับเก็บเยลลี่ทำคะแนนไปด้วย ระหว่างทางก็จะมีไอเทมให้เก็บเป็นระยะๆ ซึ่งจะมอบความสามารถให้กับตัวคุกกี้แตกต่างกันไป เช่นไอเทมขยายร่าง แม่เหล็กดูดเยลลี่ หรือเปลี่ยนสิ่งกีดขวางให้เป็นเยลลี่ และอื่นๆ นอกจากนี้คุกกี้แต่ละชนิดยังมีหน้าตาและความสามารถแตกต่างกันไป ซึ่งมอบความแปลกใหม่ให้กับผู้เล่นได้พอสมควร

ถึงแม้จะดังเปรี้ยงปร้างตั้งแต่เปิดตัวแต่กระแสก็ค่อยๆ ซาลงไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการแพร่ระบาดของโปรแกรมโกงและอัตราการสุ่มไอเทมระดับสูงที่น้อยมากๆ จนผู้เล่นหลายคนไม่พอใจอย่างแรงที่อุตส่าห์เติมเงินซื้อเพชรแต่กลับสุ่มได้แต่ขยะ (จริงๆ แล้วเกมที่มีระบบสุ่มก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น) ระยะหลังผู้เล่นบางส่วนจึงอพยพไปเล่นเซิฟเวอร์เกาหลีที่ให้บริการโดย Kakao แทน แม้ตอนนี้จะยังมีคนเล่นอยู่เรื่อยๆ ทั้งเซิฟเวอร์ไทยและเกาหลี แต่กระแสก็นับว่าเงียบมากๆ ครับ

 5. Pokemon GO

พนันได้เลยว่าทุกคนที่อ่านบทความนี้อยู่จะต้องรู้จัก Pokemon GO แน่ๆ และหลายคนก็คงเคยอยากจะเป็น “โปเกมอนมาสเตอร์” เพราะเกมนี้กันมาแล้วแน่นอน Pokemon GO เป็นเกมมือถือที่มาแรงมากๆ ถึงขนาดเรียกว่าเป็นตำนานได้เลยทีเดียว เพราะไม่ใช่ดังแค่ในบางประเทศ แต่ดังเปรี้ยงปร้างไปทั่วโลกและสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในทุกประเทศที่เปิดให้บริการ รวมทั้งประเทศไทยด้วย

Pokemon GO เป็นเกมที่มีจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ GPS ในการสร้างโปเกมอนซ้อนขึ้นมาบนแผนที่ในโลกแห่งความจริง ในเกมเราจะได้รับบทเป็นโปเกมอนเทรนเนอร์ที่จะต้องออกผจญภัยรวบรวมโปเกมอนชนิดต่างๆ ตำแหน่งของตัวละครในเกมจะอิงจากตำแหน่งที่อยู่ของผู้เล่นจริงๆ หมายความว่าในการเล่นเกมนี้ เราจะต้องเดิน เดิน และเดิน จึงจะพบโปเกมอนชนิดใหม่ๆ ได้ นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบโปเกมอนยิมที่ผู้เล่นสามารถนำโปเกมอนไปต่อสู้กัน และยึดครองยิมได้ เพิ่มความท้าทายให้กับตัวเกมมากยิ่งขึ้น

เนื่องจาก Pokemon GO เป็นเกมที่บังคับให้ผู้เล่นต้องออกไปข้างนอก ทำให้เราได้เห็นคนออกมาเดินจับโปเกมอนกันทั้งบ้านทั้งเมือง และเมื่อผู้เล่นออกมาเจอกันจึงเกิดการรวมตัวเป็นสังคมขึ้น มีการนัดกันออกไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่นขี่จักรยานฟักไข่ ตระเวนไล่ยึดยิม หรือฟอร์มทีมเดินจับโปเกมอน ทำให้สังคมผู้เล่นเหนียวแน่นมาก

อย่างไรก็ตามกระแสของ Pokemon GO ซาลงอย่างรวดเร็วเพราะผู้พัฒนาไม่ยอมปล่อยคอนเทนต์ใหม่ๆ ออกมา ผู้เล่นที่ต้องเดินฟักไข่และไล่จับโปเกมอนซ้ำๆ จึงเริ่มเบื่อ และห่างหายจากเกมไป แม้ในระยะหลังจะมีอัปเดตใหม่ๆ เข้ามาแต่ก็ยังไม่ทันใจผู้เล่น จึงไม่สามารถเรียกความนิยมกลับมาได้ อย่างไรก็ตาม Pokemon GO ยังมีผู้เล่นเหลืออยู่พอสมควรในประเทศไทย และยังมีความเคลื่อนไหวในกลุ่มผู้เล่นอยู่เรื่อยๆ ครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook