มาดูกัน!! ว่าตอนนี้เราชาร์จมือถือ “ถูกวิธี” แล้วหรือยัง?
ชาร์จมือถืออย่างไรให้ “ถูกวิธี” ?
เว็บไซต์ Battery University ได้ให้รายละเอียดว่า “แบตเตอรี่ Lithium Ion” ที่นิยมนำมาใช้ในสมาร์ทโฟนของเรานั้นอ่อนไหวต่อการทำงานหนักมากเพียงไร เช่นเดียวกับมนุษย์
ถ้าหากผู้ใช้ต้องการให้แบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ก็ควรจะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการใช้งานเหล่านี้
อย่าเสียบสายชาร์จทิ้งไว้เมื่อชาร์จไฟเต็มแล้ว
จากข้อมูลในเว็บไซต์ Battery University ระบุว่า การเสียบสายชาร์จทิ้งเอาไว้เมื่อชาร์จไฟเต็มแล้วนั้น (เช่น การชาร์จไฟทิ้งเอาไว้ทั้งคืน) จะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ในระยะยาว
เมื่อแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนชาร์จเต็ม 100% แล้ว มันจะยังคงชาร์จไฟต่อไปเรื่อยๆเพื่อให้แบตเตอรี่เต็มอยู่ในขณะที่เสียบสายชาร์จเอาไว้ มันเป็นเหมือนกับการใช้งานแบตเตอรี่อย่างหนักตลอดเวลา ซึ่งจะส่งผลต่อปฏิกิริยาทางเคมีภายในแบตเตอรี่ด้วย
Battery University ได้อธิบายให้เข้าในง่ายๆว่า “การชาร์จไฟเต็มแล้วถอดอุปกรณ์การชาร์จออก เปรียบได้กับการให้กล้ามเนื้อได้พักผ่อนหลังจากออกกำลังกายมาอย่างหนัก”
“ร่างกายของคุณจะยิ่งเสื่อมถอยถ้าหากคุณออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมงติดต่อกัน”
พยายามไม่ชาร์จไฟเต็ม 100%
จากข้อมูลในเว็บไซต์ Battery University ระบุว่า จริงๆแล้วไม่ควรชาร์จไฟแบตเตอรี่ Lithium Ion ให้เต็ม 100% เพราะกระแสไฟแรงสูงจะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนัก และจะส่งผลต่อแบตเตอรี่ในระยะยาว
ถ้าหากผู้ใช้อยากจะชาร์จสมาร์ทโฟนเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวันแล้วล่ะก็ แค่เสียบสายชาร์จเมื่อมีเวลาว่างในระหว่างวันก็เพียงพอแล้ว
ชาร์จให้บ่อย แต่อย่าชาร์จนาน
จากข้อมูลในเว็บไซต์ Battery University ระบุว่า แบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนจะทำงานได้ดีกว่าหากผู้ใช้ชาร์จไฟหลายๆครั้งตลอดทั้งวัน แทนที่จะเสียบสายชาร์จไฟทิ้งไว้เป็นเวลานานเมื่อแบตเตอรี่หมด
วิธีการต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มิเพียงแค่ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น การปิดฟีเจอร์บางอย่างที่ไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตประจำวันยังช่วยลดภาระการทำงานของแบตเตอรี่ลงอีกด้วย เพราะฟีเจอร์เหล่านั้นจะใช้งานแบตเตอรี่อย่างหนักตลอดทั้งวัน ยกตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์บอกตำแหน่ง (Location-Based Feature) ที่จะเปิดการทำงานของเสาสัญญาณ GPS ในสมาร์ทโฟนตลอดเวลา