รู้จักคลื่นความถี่ 2300 MHz ก่อนจะใช้งานจริงว่าดีจริงหรือไม่

ทันทีที่มีข่าวเรื่องคลื่นความถี่ 2300 MHz จากผู้ให้บริการรายหนึ่ง ทำให้ต้องทำความรู้จักเกี่ยวกับคลื่นความถี่นี้กันสักหน่อยก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงเร็วๆ นี้ในประเทศไทย

ก่อนอื่นที่จะรู้จักกับตัวเลขคลื่นนั้น มาดูกันว่าในไทยนั้นใช้เครือข่าย 4G แบบไหน ซึ่งในไทยนั้นใช้ 4G ที่เรียกว่า FDD หรือ Frequency Division Duplex ซึ่งใช้งานกับเครือข่ายความถี่ 1800 และ 2100 MHz  โดยจะเป็นลักษณะการส่งสัญญาณแบบคู่ ทั้งขาไป และ รับกลับ ฝั่งละ 15MHz โดยส่วนมากผู้ใช้งานจะเน้นการ Download มากกว่า

ถ้าสมุมติให้เห็นภาพง่าย ๆ คือการใช้ถนนทางด่วน (Highway) 6 เลน ไปกลับ แต่ว่ามีแท่งปูนขวางตรงกลาง เมื่อใช้งานจำนวนมากรถก็ติดเน็ตก็จะช้าลงในที่สุด เพราะส่วนมากผู้ให้บริการจะใช้เทคโนโลยีขยายได้แค่ 15 – 20MHz เท่านั้นเอง

ส่วน 4G อีกแบบที่เรียกว่า 4G TDD หรือ Time Division Duplex ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการใช้งาน Download ความเร็วสูงในระดับ Gbps ซึ่งยกตัวอย่างมือถือที่รองรับเทคโนโลยีได้แก่ Samsung Galaxy S8, Sony Xperia XZ Premium และ HTC U11 เป็นต้น

 

แล้วทำไมเทคโนโลยี 4G TDD นั้นทำความเร็วได้มากกว่า เพราะมันสามารถขยาย Bandwidth (ความกว้างของสัญญาณ) ได้มากถึง 60MHz ซึ่งคลื่นความถี่ 2300MHz รองรับเทคโนโลยีนี้

ความน่าสนใจของเทคโนโลยี 4G TDD อยู่ตรงที่สามารถเอาคลื่นความถี่เดียวกันสลับทั้งขาไปและขารับได้ในเวลาเดียวกัน โดยจะศึกษาจากพฤติกรรมผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยจะมีรองรับความเร็ว Downlink มากกว่า ทำให้คุณสามารถฟังเพลง, เล่น Social, หรือทำอะไรบนโลกอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น 

และสามารถใช้งาน Uplink ที่ความเร็วสูงได้เช่นกัน โดยการทำงานนี้ผู้ให้บริการจะเป็นผู้จัดสรรเองว่าผู้ใช้งานแต่ละคนนั้นใช้อะไรมากก็จะได้ปรับตามความต้องการกันไป

เรียกได้ว่าเทคโนโลยี 4G-TDD บนคลื่นความถี่ 2300MHz ถือว่าเป็นอีกมาตรฐานใหม่ของอินเทอร์เน็ตไร้สายในประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้และทำให้ประเทศไทยทัดเทียมกับประเทศที่ใช้เทคโนโลยีนี้ไม่ยากนัก

ส่วนอุปกรณ์ของคุณที่ใช้นั้นรับหรือไม่ โดยส่วนใหญ่มือถือที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยส่วนใหญ่จะรองรับความถี่ 2300MHz แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด