นิสัยใกล้ตัวที่เรามองข้าม จนทำให้ "สายชาร์จมือถือพังเร็ว" และจากไปก่อนเวลาอันสมควร

นิสัยใกล้ตัวที่เรามองข้าม จนทำให้ "สายชาร์จมือถือพังเร็ว" และจากไปก่อนเวลาอันสมควร

นิสัยใกล้ตัวที่เรามองข้าม จนทำให้ "สายชาร์จมือถือพังเร็ว" และจากไปก่อนเวลาอันสมควร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมสายชาร์จมือถือที่ซื้อมานั้นถึงพังเร็วใช้ไม่นานก็เกิดปัญหา? ซึ่งบางคนแก้ปัญหาแค่ซื้อใหม่ แต่วันนี้ทีมงาน Sanook! Hitech จะมาเผยสาเหตุที่ทำให้สายชาร์จมือถือพังกันมากที่สุดถึง 5 สิ่งด้วยกัน

เก็บสายไม่ถูกวิธี

เชื่อว่าบางคนยังเก็บสายชาร์จมือถือไม่ถูกวิธีอยู่ บางคนเลือกใช้วิธีการเก็บเหมือนเงื่อนลูกเสือ ซึ่งขอบอกว่าวิธีแบบนั้นมีสิทธิ์ที่จะทำให้สายนั้นพังเร็วมาก เพราะสายเกิดการบิดงอและทำให้เกิดปัญหาเมื่อจะต้องรับไฟเข้าไป

วิธีการเก็บที่ถูกต้องให้วนสายกับมือแล้วนำหัว 2 ด้านไขว้กัน วิธีนี้จะถนอมสายที่สุดในแล้วครับ

ใช้งานสายชาร์จตึงเกินไป

การใช้งานสายชาร์จมือถือบางคนเลือกที่จะให้สายนั้นตึงตลอดเวลา เพราะไหน ๆ สายก็ยาวแล้วเลยใช้ให้ตึงไปเลย แต่เป็นความคิดที่ผิด เพราะข้างในของสายชาร์จนั้น อาจจะมีอาการล้าเกิดขึ้น ทำให้ความแข็งแรงและการรับข้อมูลของสายนั้นเสื่อมสภาพมากขึ้น และทำให้สายชาร์จมือถือพังเร็วขึ้น

วิธีแก้คือไม่ควรให้สายชาร์จตึงเกินไปเมื่อใช้งาน รวมถึงอุบัติเหตุระหว่างการชาร์จไฟด้วย Power Bank ควรเกิดให้น้อยที่สุด

untitled-2

ใช้กับที่ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน

นอกจากสายชาร์จที่ดี Adapter ที่ใช้งานเกี่ยวกับการจ่ายไฟ หรือ Port USB ของคอมพิวเตอร์จะต้องอยู่ในภาพที่ดีเสมอ เพราะหาเกิดปัญหาที่ทำให้เกิดการไม่เชื่อมต่อข้อมูลหรือลัดวงจร อาจจะทำให้สายชาร์จพังและชาร์จไฟไม่เข้า หรืออาจจะเกิดเหตุการณ์ไฟรั่วได้

เลือกสายราคาถูกและคุณภาพต่ำเกินไป

สุดท้ายการเลือกซื้อสายชาร์จที่ราคาถูกเกินไป ทำให้คุณภาพที่ได้นั้นอาจจะทำได้ไม่ดีและมีบางฟีเจอร์ตกหล่นไปบ้าง วิธีการนี้ควรจะดูสายที่มีราคาหลักร้อยแทนหลักสิบ น่าจะดีที่สุด และยี่ห้อที่ไว้ใจได้ก็เป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้คุณได้ของดีเช่นกันครับ

ถอดเข้าออกผิดวิธี

บางคนใช้วิธีการปลดสายชาร์จยังผิดวิธีด้วยการดึงที่สายแทนหัว ซึ่งมีสิทธิ์ที่ทำให้สายนั้นถูกทำให้ตึงแล้วพังเร็วขึ้น

วิธีการปลดสายที่ถูกต้องควรจับที่หัวแล้วดึงออก ซึ่งจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook