หลังจากที่ได้รีวิว Samsung Galaxy J7 Pro กันก่อนหน้านี้ แต่เห็นว่าราคาอาจจะสูงไป และอยากได้มือถือที่สามารถถอดฝาหลังได้ แต่ต้องเป็น Samsung เท่านั้น!!! และคุณจะมีตัวเลือกไหนบ้างที่น่าสนใจ และขอรุ่นใหม่

คงต้องเป็นรุ่นนี้นั่นคือ Samsung Galaxy J7 Core ที่จะรีวิวให้ดูกันต่อไปนี้

รายละเอียดของ Samsung Galaxy J7 Core

- ขนาดตัวเครื่อง 152.4 x 78.6 x 7.6 มิลลิเมตร

- สีตัวเครื่อง ดำ, ขาว

- น้ำหนัก 170 กรัม

- CPU Exynos 7870 Octa-core 1.6 GHz Cortex-A53

- GPU Mali T830

- RAM 2GB

- ความจุในตัว 16GB

- เพิ่มความจำได้ด้วย Micro SD 256GB

- การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G Cat 6 300/50 Mbps

- WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth V4.1

- หน้าจอ 5.5 นิ้ว sAMOLED ความละเอียด 1280x720

- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล LED Flash

- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล F1.9 พร้อมกับระบบ Auto Focus + LED Flash

- แบตเตอรี่ 3000 mAh

- ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat

รูปร่างของ Samsung Galaxy J7 Core

ด้านหน้าของ Samsung Galaxy J7 Core มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วแบบ sAMOLED ให้การแสดงผลดีทนกับแสงได้ดี และยังได้ความละเอียด 1280x720 อาจจะน้อยไปหน่อย แต่หน้าจอคล้ายกับ Galaxy J7 รุ่นแรก

ส่วนบน เซนเซอร์, หูฟัง โลโก้ Samsung พร้อมกับ กล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash

ส่วนล่างมีปุ่ม Recent สำหรับสลับ Apps, ปุ่ม Home และปุ่ม Back

ด้านข้าง ทำจากพลาสติกสีดำขึ้นเงาและดูสวยจับง่าย ฝั่งซ้ายมีปุ่ม ปรับระดับเสียง

ข้างขวามีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และร่องเปิดฝาหลัง

ด้านบนไม่มีช่องเสียบใด ๆ

ด้านล่างมีช่องเสียบ Micro USB, หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟน

ด้านหลัง เป็นฝาพลาสติกมีลวดลายที่สวยงามดีใช้ได้ โดยมีกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash และมีลำโพงข้าง ๆ พร้อมกับโลโก้ Samsung และ Duos เป็นสัญลักษณ์ของมือถือ 2 SIM

เมื่อเปิดฝาหลังจะมีแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh ถอดเปลี่ยนได้ พร้อมกับมีช่องใส่ซิมแบบ Micro SIM 2 ช่องโดยช่องแรกจะมีช่องใส่ Micro SD

ภาพรวมถ้าบอกตรง ๆ ที่สุดนั้น มันคือ รูปร่างที่ยก Samsung Galaxy J7 รุ่นแรกที่ออกมาตั้งแต่ปี 2015 มาทำใหม่และปรับปรุงรายละเอียดให้ดูดีและมีราคามากขึ้นกว่าเดิม แต่ข้อเสียก็ยังคงเดิมจากรุ่นนั้น คือ จะเปลี่ยนซิมต้องถอดแบตฯเท่านั้น

ประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy J7 Core

จากที่ได้ลองประสิทธิภาพจาก Antutu ทำได้ 45460 คะแนน คะแนนถือว่าดีใช้ได้อยู่แล้ว การทำงานเครื่องถือว่าดีใช้ได้และถ้านำมาเล่นเกมถือว่าไหวใช้งานได้ดีเลยล่ะ เพราะมันคือการปรับ UI และ ระบบปฏิบัติการใหม่ทำให้เครื่องลื่นขึ้น

ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 3000 mAh น้อยลงกว่าเดิม แต่ผลการทดสอบอยู่ได้ราว ๆ 7 ชั่วโมงครึ่ง ก็ทนได้ แต่ถ้าใช้งานโดยไม่ได้เล่นเกมเลย จะทนข้ามวันได้ แต่แนะนำว่า ถ้าเหลือ 50% แล้วควรชาร์จจะดีกว่า กันแบตฯเสื่อมครับ

คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจ

สิ่งที่ Samsung Galaxy J7 Core เปลี่ยนอย่างมากคือระบบปฏิบัติการที่ใช้ในรุ่นนี้เป็น Android 7.0 Nougat ใหม่ล่าสุด พร้อมกับ Touch Wiz แบบใหม่เหมือนกับ Samsung Galaxy S8 โดยสามารถปัดข้นลงเพื่อเปิดหน้า Apps Drawer พร้อมกับ Notification ยังคงเหมือนกับมือถือของ Samsung รุ่นใหม่ ๆ ในปี 2017

ลูกเล่นเด่น ๆ ของเครื่องที่นอกจาก ระบบการปรับเสียง Sound Alive พร้อมกับระบบปรับเสียง UHQ, Surround จนเรียกได้ว่าการปรับแต่งเสียงได้เหมาสม และยังมี Adapt Sound ปรับเสียงตามแบบหูฟังของเราเองทำให้เสียงดีขึ้น

เมื่อลองฟังดู มันดีขึ้น แต่ว่าเทียบเท่ากับ Galaxy A 2017 และ S8 ทุกประการ แต่อาจจะไม่รองรับ Hi-Res Audio และข่าวดีคือมี วิทยุ FM มาให้ด้วย

นอกนั้นก็มีเครื่องมือ เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, S Planner ตารางจัดการนัดหมาย, Samsung Note ไว้จดบันทึก รวมไปถึง Galaxy Apps ไว้โหลด Apps สำหรับ Samsung และ S Health ไว้ดูแลสุขภาพคุณได้อีกด้วย และไม่แนะนำให้ลงโปรแกรมเข็มทิศ เพราะทำงานไม่ได้

กล้องของ Samsung Galaxy J7 Core มีความคล้ายกับ Samsung Galaxy J7 Pro คือใช้กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แต่ว่า รูรับแสง F2.0 ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะแย่กว่า J7 Pro แต่ UI นั้นเหมือนกับ Samsung Galaxy J7 Pro ทุกประการ มันก็ดูดี กล้องนั้นถือว่าเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าเน้นถ่ายภาพสวยต้องพึ่งพา Apps

ภาพรวมของกล้องนั้นทำงานได้ดีและอาจจะมีระบบโฟกัสช้าไปนิด ทำให้การปรับแสดงได้ช้าไปหน่อย และยังดีว่ามีฟีเจอร์ Effect หลายแบบด้วยกัน สุดท้ายถ่ายวีดีโอบันทึกได้ความละเอียดสูงสุด 1080P แต่ว่าไม่มีระบบ OIS มาให้น่าเสียดายจริง ๆ

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมกับ LED Flash มี Beauty Mode ที่น่าใช้กว่า J7 รุ่นแรก

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy J7 Core)

สรุปจากการลองใช้ Samsung Galaxy J7 Core

เป็นมือถือที่เหมาะกับคนที่ไม่อยากจ่ายเงินกับมือถือรุ่นใหม่ ๆ ให้มากฟังก์ชั่น บางคนบอกว่ารุ่นใหม่มันก็มากเรื่องมากราวกันไป ทำให้ยังทำให้มือถือรุ่นเก่าน่าสนใจ แต่ถ้าพูดถึงข้างในแล้วมันน่าใช้เพราะได้ของใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ ยันหน้าจอของเครื่องเลยก็ว่าได้

ราคาของ Samsung Galaxy J7 Core เคาะอยู่ที่ 7,290 บาท แต่ถ้าเทียบกับกับซื้อจากผู้ให้บริการนั้นจะถูกกว่าเล็กน้อย แต่ถ้ามองถึงตัวเปรียบเทียบนั้น จะอยู่มนกลุ่มไม่เกิน 7,990 บาท เช่น OPPO A77, Vivo Y Series และ Huawei กลุ่ม Y6 II และ Lenovo K6 Note ที่ลดราคาลงมา เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

แล้ว Samsung Galaxy J7 Core จะมีดีอะไร ถ้ามองถึงฟีเจอร์ขอใหม่และยังให้อารมณ์ Samsung และยังมองถึงสิทธิพิเศษจาก Galaxy Gift ถือว่าน่าสนใจสำหรับรุ่นนี้

แต่ถ้า มองว่าใช้ Samsung มานานอยากได้ตัวเลือกอื่น ก็ลองดูตามที่บอกได้เช่นกัน เพราะคุณคือผู้ใช้ คำตอบขึ้นอยู่กับการเลือกของคุณเอง

ข้อดี

บอดี้ดูใช้ง่ายและอะไหล่ไม่ต้องห่วงมากนัก
แบตเตอรี่ทนมาก
ระบบปฏิบัติการใหม่และทำงานลื่น
ราคาไม่ได้แพงเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ

ข้อควรปรับปรุง

เปลี่ยนซิมต้องถอดแบตฯอยู่ดี
กล้องหน้าความละเอียดน้อย
ไม่มี Memory Card แถมมาให้ในกล่อง เมื่อสมัยก่อน

อัลบั้มภาพ รีวิว Samsung Galaxy J7 Core สมาร์ทโฟนหน้าเดิม แต่ข้างในเปลี่ยนให้ลื่นขึ้น ภาพที่ 3 / 20

รีวิว Samsung Galaxy J7 Core สมาร์ทโฟนหน้าเดิม แต่ข้างในเปลี่ยนให้ลื่นขึ้น

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

รวมมือถืองบไม่เกิน 7,000 บาท เน้นการถ่ายภาพและการใช้งานจบในเครื่องเดียว

Samsung เปิดจำหน่าย Galaxy J7 Core และ J5 Pro ทางเลือกคนอยากได้มือถือราคาประหยัด