เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่
เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่ รุ่นใดฟีเจอร์ไฮเอนด์จัดเต็มครบครันกว่ากัน เรามีคำตอบ!
ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Nokia หลังจากที่ปล่อยสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่าง Nokia 6, Nokia 5 และ Nokia 3 รวมถึงฟีเจอร์รุ่นอื่นๆ มาทำตลาดก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า Nokia 8 มาพร้อมกับความไฮเอนด์แบบครบครันในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอคมชัดระดับ 2K QHD, ชิปเซ็ต Snapdragon 835 และกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า และหลัง รวมถึงคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ก็รองรับใน Nokia 8 รุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นที่ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อ และผู้ใช้ทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจนกระทั่งขณะนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Samsung Galaxy S8 ที่มาพร้อมกับการพลิกโฉมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบใหม่ รวมถึงอัปเกรดฟีเจอร์ภายในขึ้นจากรุ่นก่อนในหลายด้าน รวมถึงรองรับผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby และการสแกนม่านตา (Iris Scanner) ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น
และด้วยความโดดเด่นแบบกินกันไม่ลงของทั้งสองรุ่นนี้ ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต ว่าทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง และจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากพร้อมแล้วเชิญติดตามการเปรียบเทียบอย่างละเอียดที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับการเปรียบเทียบสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปีของสองค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการสมาร์ทโฟน จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นก็มาพร้อมฟีเจอร์ระดับท็อปอย่างครบครัน และมีความโดดเด่นในด้านที่แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด โดย Nokia 8 มาพร้อมกับหน้าจอขนาดกะทัดรัดที่ 5.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835 และมีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB โดยมีความจุ 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD อีก 256GB และมีแบตเตอรี่ความจุ 3090 mAh พร้อม Fast Charge บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat และรองรับ Google Assistant
Nokia 8 มาพร้อมกล้องคู่ (Dual-Camera) ที่ด้านหลังความละเอียด 13+13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และกล้องหน้าความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 ซึ่งตัวเครื่องรองรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP57 รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ซึ่งมีราคาเปิดตัวที่ 599 ยูโร (ประมาณ 23,500 บาท)
สำหรับ Samsung Galaxy S8 มีจุดเด่นในด้านการดีไซน์โฉมใหม่ที่มีหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ Infinity Display ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 5.8 นิ้ว บนตัวเครื่องขนาดเท่ารุ่นเดิม พร้อมคมชัดระดับ 2K QHD+ และขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 8895 พร้อม RAM 4GB, ROM 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ด microSD ได้อีก 256GB บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charge และรองรับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Bixby
Samsung Galaxy S8 ใช้งานกล้องถ่ายภาพแบบ 100% AF Dual Pixel ควมละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7 พร้อมรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมถึงรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner), เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) และการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C บนตัวเครื่องป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ในราคา 27,900 บาท
อย่างไรก็ดี นอกเหนือไปจากประสิทธิภาพการทำงาน และคุณสมบัติเด่นในด้านต่างๆ แล้ว ความชอบ และรสนิยมส่วนบุคคลก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อมือถือสักเครื่องหนึ่ง ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่ามีความต้องการสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในด้านใด เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ของท่านได้ดีที่สุด ซึ่งหากว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้นแล้วเกิดความพึงพอใจทั้งในด้านการทำงาน, ดีไซน์ และราคา ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นควรค่าต่อการจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Nokia 8
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy S8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy S8
รีวิว (Review) Samsung Galaxy S8