จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Nokia ภายใต้การดูแลของบริษัท HMD Global เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในรูปแบบ Pure Android ไร้แอปแปลกปลอม พร้อมนิยามใหม่ของการถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ผ่านเลนส์แบบเรียลไทม์ด้วยครั้งแรกของ 3 ปรากฎการแห่งนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบสร้างคอนเทนต์ (content creator) นอกจากนี้ ตัวเครื่องเป็นวัสดุอลูมิเนียม บางเฉียบ พร้อมการออกแบบอย่างสวยงาม แฝงไปด้วยความคงทน และแนวคิดสร้างสรรค์ Nokia 8 ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด รวมถึงโครงสร้างที่มาพร้อมกับกล้องคู่แบบ Dual-Camera และประสิทธิภาพของ ZEISS เลนส์กล้องชั้นยอดระดับโลกเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านการถ่ายภาพ

 

คุณสมบัติเด่นของ Nokia 8 คือ กล้องถ่ายวีดีโอแบบคู่หรือ Dual-Sight ที่ฉีกกฎของการ Live Steaming ครั้งแรกของโลก ช่วยเพิ่มมิติของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือทาง YouTube ได้ Nokia 8 ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมที่คิดค้นเพื่อรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรังสรรค์เรื่องราวแห่งความประทับใจผ่าน ภาพ แสง สี และเสียง ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากโนเกียไปสู่สังคมออนไลน์อย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วยการกดพียงครั้งเดียว

นอกจากนี้ Nokia 8 ยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีเสียงแบบ Nokia OZO Audio ที่ให้มิติเสียงแบบ 360 องศา เพื่อความสมบูรณ์ของคุณภาพเสียงราวกับผู้ฟังได้อยู่ที่นั่นจริงๆ เสมือนเอาเทคโนโลยีในหนังฮอลลีวูด (Hollywood Technology) มาวางไว้บนมือของคุณ ทั้งเรื่องของคุณภาพของภาพและเสียงขนาด 4K ที่คุณและเพื่อนๆ บนโลกออนไลน์จะได้รับประสบการณ์ที่สมจริง รวมถึงยังช่วยบันทึกเสียงได้จากทุกทิศทางอีกด้วย

สำหรับความพิถีพิถันในการผลิต Nokia 8 ที่ตัวเครื่องทำจากวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ ภายใต้แบบพิมพ์อลูมิเนียมเดียวกันกับรุ่น 6000 Series ซึ่งผลิตจากวัสดุที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับการผลิต Nokia 8 โดยเฉพาะ มีขอบเครื่องหนาเพียง 4.6 มิลลิเมตร ส่วนตัวเครื่องความหนาเฉลี่ย 7.3 มิลลิเมตร พร้อมดีไซน์ที่สวยงาม รวมถึงจอสัมผัสที่มีคุณสมบัติสูง ผ่านกระบวนการขัดเงา การประกอบตัวเครื่อง และระบบการทำงานด้วยความใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตกว่า 20 ชั่วโมง นอกจากนี้ โทรศัพท์เครื่องนี้มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm SnapdragonTM 835 Mobile Platform และระบบเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) ที่มีความปลอดภัยและอัพเดทอยู่เสมอ เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนแห่งอนาคตที่มีความสมบูรณ์ที่สุด

เพราะความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับโนเกีย สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ของโนเกียจึงมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความทันสมัย โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจจาก Nokia 8 และระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ๆ จากแอนดรอยด์

เหนือกว่าการเซลฟี่ มากกว่าด้วยการถ่ายแบบ “Bothie”

หลายเรื่องราวรอบตัวเรามีสองด้านให้ต้องค้นหาอยู่เสมอ เช่นเดียวกับนวัตกรรม Dual-Sight ของ Nokia 8 จะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอภาพความประทับใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้ถูกพัฒนาให้มาพร้อมกับเลนส์ ZEISS สุดคมชัด นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นในแบบของคุณเองผ่านระบบการทำงาน Dual-Sight ซึ่งเหมาะสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ (Content creator) ที่สามารถนำเสนอเรื่องราว และไลฟ์สไตล์ของคุณผ่านโซเชียลได้อย่างไม่ซ้ำใครในแบบ “Bothie” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นพิเศษของแอพลิเคชั่นกล้องในแบบเฉพาะของ Nokia 8 แฟนๆ ยังสามารถถ่ายภาพและอัพโหลดไปเก็บไว้ที่ Google Photos ได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย

 

 

การวางจำหน่าย

Nokia 8 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงินเงา สีน้ำเงินด้าน สีทองแดง(ไม่มีวางจำหน่ายในไทย) และสีเงิน

เปิดราคาวางจำหน่ายในไทยราคาต่ำกว่าทั่วโลกเพียง 19,500 บาทเท่านั้น

เปิดให้ซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป!! ความเห็นส่วนตัว

หลังจากที่ได้ทดสอบในงานก็เรียกได้ว่าค่อนข้างประทับใจในความเร็วของระบบมือถือที่มาพร้อม Pure Android และความลื่นไหลของกล้องที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม มีระบบ Live Bokeh หรือไลฟ์โบเก้ ที่คล้าย ๆ Galaxy Note 8 ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ อีกต่างหาก ส่วนด้านภาพที่ออกมาระหว่างถ่ายภาพ 1 กล้องกับ 2 กล้องยังไม่แตกต่างกันมากนัก อาจจะต้องรออัปเดทเฟิร์มแวร์ตัวจริงก่อนถึงจะพอมองเห็นความแตกต่างได้

และที่ชอบมาก ๆ คือการถ่ายวีดิโอ 4K หน้า – หลังพร้อมกันได้ (ที่เขาเรียกว่า Bothie) งานนี้บอกเลยว่าภาพวีดิโอที่เก็บมาชัดแจ๋วแน่นอน แถมสามารถ Facebook, YouTube Live แบบ Bothie ผ่านโหมดกล้องได้เลยอีกด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ายัง Live บน Fanpage ไม่ได้ในปัจจุบัน รวมไปถึงตัวเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียมทั้งเครื่อง จับแล้วรู้สึกถึงความคงทนมาก ๆ แต่ป้องกันตกน้ำไม่ได้ (เป็น IP65 กันน้ำสาดได้อย่างเดียว)

สรุปหลังจากที่ได้จับมาเรียกได้ว่า Nokia 8 ตัวนี้มีความเป็นโทรศัพท์ระดับ Premium สมเป็นเจ้าพ่อวงการมือถือของยุคเก่าที่กำลังจะกลับมาผงาดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งด้านราคาที่สมน้ำสมเนื้อ (อย่าเอาไปเทียบกับ Xiaomi MI6 ก็พอ) ประสิทธิภาพเยี่ยมทั้งเครื่องและกล้อง บอกเลยว่าสาวกไม่ควรพลาดจริง ๆ ครับ

ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8

  • ข้อมูลเครือข่าย (Network)
    • – GSM: 850/900/1800/1900
    • – WCDMA: 1, 2, 5, 8
    • – TDS-CDMA: 34, 39
    • – LTE: 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
  • ความเร็วเครือข่าย
    • LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL / 50Mbps UL
    • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
  • ระบบปฏิบัติการ
    • Android Nougat 7.1.1
  • หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon ™ 835
  • MSM8998 (4 * 2.45GHz Qualcmm® Kryo ™ + 4 * 1.8GHz Kryo)
  • RAM 4GB LPPDDR4X
  • หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
  • จอแสดงผล: 5.3 “IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
  • เลนส์กล้องจาก ZEISS
    • กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, แฟลชคู่
    • กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, พร้อมแฟลช
  • ระบบเชื่อมต่อ
  • ระบบเซ็นเซอร์: ประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
    • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
    • เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง
    • เครื่องวัดความใกล้เคียง, เครื่องวัดความเร็วในการวัด, เข็มทิศ E, เข็มหมุน, Fingerprint Sensor
  • แบตเตอรี่
    • ประกอบด้วยแบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.0
      (18 วัตต์, 5V / 2.5A, 9V / 2A, 12V / 1.5A)
  • ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
    • รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA)
    • รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
  • ขนาด
    • 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
    • น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook