สัมผัสแรกของ Nokia 8 (โนเกีย 8) มือถืออีกรุ่นที่สามารถทำให้เงินในกระเป๋าสั่นไปหมด
ก่อนหน้านี้คงทราบกันดีกว่า Nokia 8 (โนเกีย 8) มือถือเรือธงที่มีการนำพันธมิตรเก่าและเทคโนโลยี เน้นการถ่ายภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้เปิดตัวบนโลกเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม แต่เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม โนเกียก็เปิดตัว Nokia 8 อย่างเป็นทางการ แล้วมันจะดีงามขนาดไหน วันนี้ก็เลยจะมาพรีวิวกันสด ๆ ตรงนี้มุมที่คุณอยากรู้ก่อนพบกับรีวิวเต็มเร็ว ๆ นี้
และแน่นอนว่าทางทีมงาน Sanook! Hitech ก็ไม่พลาดที่จะเกาะติดกับทีมงาน HMD เพื่อการนำเครื่องมาพรีวิวให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ มาดูกันครับว่าเบื้องต้น Nokia 8 จะมีอะไรดีบ้าง
ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8
- ข้อมูลเครือข่าย (Network)
- GSM: 850/900/1800/1900
- WCDMA: 1, 2, 5, 8
- TDS-CDMA: 34, 39
- LTE: 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
- ความเร็วเครือข่าย
- LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL / 50Mbps UL
- รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
- ระบบปฏิบัติการ
- Android Nougat 7.1.1
- หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon ™ 835
- MSM8998 (4 * 2.45GHz Qualcmm® Kryo ™ + 4 * 1.8GHz Kryo)
- RAM 4GB LPPDDR4X
- หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
- ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
- จอแสดงผล: 5.3 "IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
- เลนส์กล้องจาก ZEISS
- กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, แฟลชคู่
- กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, พร้อมแฟลช
- ระบบเชื่อมต่อ
- ระบบเซ็นเซอร์: ประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
- ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง
- เครื่องวัดความใกล้เคียง, เครื่องวัดความเร็วในการวัด, เข็มทิศ E, เข็มหมุน, Fingerprint Sensor
- แบตเตอรี่
- ประกอบด้วยแบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.0 (18 วัตต์, 5V / 2.5A, 9V / 2A, 12V / 1.5A)
- ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
- รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA)
- รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
- ขนาด:
- 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
- น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม
รูปร่างของ Nokia 8
เป็นมือถือที่มองด้านหน้าแล้ว มีความคล้ายกับ Nokia 5 และ Nokia 6 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ เพียงแต่ขนาดหน้าจอของมัน แทรกกลางระหว่าง 2 รุ่นคือ 5.3 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (2560x1440) โดยเหตุผลที่เลือกใช้หน้าจอขนาดนี้เพราะ เขาบอกว่าคนใช้งานจะจับถนัดและกดทุกอย่างได้ลงตัวที่สุด เมื่อลองใช้งานแล้วพบว่า มีความจริงอยู่ 85% เลยทีเดียว
ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับเลนส์จาก Zeiss ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ Nokia
ด้านล่างมีปุ่ม Back, Home พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ และมีปุ่ม Recent Apps สามารถสลับ Apps ที่เปิดก่อนหน้าได้เช่นกัน แต่ว่า หน้าจอเล็กไปทำให้เมื่อต้องกดกด Multi Tasking อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่
ด้านข้าง (รวมถึงด้านหลัง) เลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมเกรด 7,000 ที่เรียกได้ว่าหนาแน่นและออกแบบดี เทคโนโลยีการพ่นสีนั้นมีการชุบเคลือบสานทั้งแบบผิวด้าน และมันวาว ให้เลือก ฝั่งซ้ายมีช่องซิม ฝั่งขวามีปุ่มกดม ปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C พร้อมกับลำโพง และมีไมโครโฟนให้
ด้านหลัง ออกแบบได้เหมือนกับ Nokia 5 ไม่มีผิด แต่ผิวสัมผัสแตกต่างชัดเจน พร้อมกับมีกล้องหลังคู่ เลนส์ Zeiss พร้อมกับ LED Flash และมี Laser Focus ให้เลือกด้วยเช่นกัน ภาพรวมเป็นเครื่องที่น้ำหนักเบา จับต้องได้ง่ายและมีความสวยงามและแข็งแรงในตัว
ประสิทธิภาพของ Nokia 8
เบื้องต้นทีจากที่ได้กดทดสอบประสิทธิภาพของ Nokia 8 ที่ใช้ CPU Qualcomm Snapdrahgon 835, RAM 4GB ความจำในตัว 64GB ทำได้ออกมาที่ 177,295 คะแนน ถือว่าทำได้ดีเกาะกลุ่มบน เพียงแต่น่าเสียดายถ้าได้รุ่น RAM 6GB ก็คงจะดีกว่านี้
ส่วนเรื่องของความลื่นไหลในการใช้งาน ถือว่าทำได้ดี เพราะเป็น Pure Android ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งแต่อย่างใด น่าเสียดายที่เปิดตัวเร็วกว่า Android Oreo ออกมาเท่านั้นเอง แต่ความร้อนถึงแม่เขาจะบอกว่ามีเทคโนโลยีระบาความร้อนจาก Heat Pipe แล้ว แต่ดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเท่าไหร่
ลูกเล่นเด่น ๆ ที่ได้ลอง
เนื่องจากได้ลองกันประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ทำให้สามารถเล่นฟีเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นที่กล้องที่สามารถกดเล่นได้ดังนี้
- Dual Sight Mode เป็นโหมดที่สามารถปรับให้กล้องหน้าและหลังให้สามารถทำงานร่วมกันได้ และสามารถถ่ายวีดีโอ หรือจะ Live หรือจะถ่ายภาพนิ่งก็ได้เช่นกัน แต่ว่า ระยะต้องเหมาะสมและจัดองค์ประกอบให้ดี ถึงจะออกมาสวย และดู ๆ ไปแล้วก็เหมาะกับการสัมภาษณ์คนลงข่าวได้ไม่น้อย
- กล้องหลังของ Nokia 8 มีความสามารถเยอะ ทั้งสามารถปรับเรื่องความสดของสี, หรือขาวดำ หรือให้กล้องสีทำงานอย่างเดียว พร้อมกับมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว เรียกได้ว่าลงตัว
- กล้องหน้าคมชัดมากเพราะมีขนาด 13 ล้านพิกเซล และมี Beauty Mode ปรับได้ 20 ระดับ ถือว่ามากพอสมควร
- Nokia OZO เป็นระบบอัดเสียงคุณภาพสูงเพราะสามารถใช้ไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวอัดเสียงได้ และมีการปรับให้เสียงเข้ามาจากด้านใดด้านหนึ่งก็ได้เช่นกัน
- UI ของกล้อง หลายคนเข้าใจว่า เป็นของ Nokia PureView แต่ข่าวร้ายคือ HMD เผยว่า PureView ยังเป็นของ Microsoft อยู่ ทำให้ UI ใหม่ ครบเครื่อง แต่ยังใช้งานยากและดูงง ๆ อยู่ ต้องอาศัยความเข้าใจเล็กน้อย
- ลูกเล่น Pure Android มันเป็นจุดเด่นที่ทำให้เครื่องลื่นไหลดี
(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia 8)
จากที่ได้ลองสั้น ๆ ถือว่าเป็นความลงตัวทั้งดีไซน์ของเครื่องที่สวยเบาและแข็งแรง ที่ได้การยืนยันจากทีมโนเกียเอง และความสามารถของมันที่มองแล้ว เหมาะกับคนที่อยากเป็น Content Creator หรือ ผู้สร้างเนื้องหาบนโลกออนไลน์จากฟีเจอร์ กล้องถ่ายภาพพร้อมกัน 2 ตัว ซึ่งตรงกับที่ได้สรุป 4 ข้อโดดเด่นของ Nokia 8 ไปก่อนหน้านี้
ส่วนราคานั้นถือว่าออกมาดีมาก อยู่ที่ 19,500 บาท เท่านั้นเองเรียกได้ว่าอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ในเวลานี้อย่างมากเลยล่ะ
สุดท้ายนี่เป็นแค่ลองสั้น ๆ เพียง 30 นาที แต่ถ้ามาอยู่ร่วมกันนาน ๆ กว่านี้จะเป็นอย่างไร ติดตามในตอนต่อไปกับรีวิวที่ Sanook! Hitech เร็ว ๆ นี้
อัลบั้มภาพ 48 ภาพ