แบไต๋รีวิว กสทช ออก App ใหม่ 3ชั้น ป้องกันการสวมรอยบัตรประชาชนจดทะเบียนซิม

ก่อนหน้านี้หลายท่านอาจจะได้ยินข่าว “การสวมรอยจดทะเบียนซิม” ทำให้สร้างความกังวลต่อผู้ใช้ซิมโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมาก เพราะอาจจะมีการนำสำเนาบัตรประชาชนไปสวมรอยจดทะเบียนซิมเพิ่มโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้

ล่าสุด “กสทช.” ได้ออก Application และระบบป้องกันการสวมรอยมาแล้วในชื่อ “3ชั้น” แล้ว ซึ่งหลายท่านอาจอยากรู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงใช้ได้ มีบางท่านโหลดมาใช้งานแล้วแต่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้

App นี้มีขั้นตอนการลงทะเบียนก่อนใช้งานนะครับ วิธีการคือ

ไปที่ศูนย์บริการค่ายมือถือที่ท่านใช้ พร้อมบัตรประชาชนตัวจริงที่ลงทะเบียนซิมของท่านไว้ (กรณีบัตรประชาชนของท่านจดทะเบียนซิมไว้หลายค่าย ให้ไปที่ค่ายใดค่ายหนึ่งก็พอ) โดยให้ใส่ซิมนั้นไว้ในเครื่องพร้อมโหลด App ไว้ให้พร้อม มีทั้งบน Android และ iOS

แจ้งพนักงานว่า “มาลงทะเบียน App 3ชั้น ของ กสทช.” จากนั้นแจ้งเบอร์หลักของค่ายนั้นที่จะลงทะเบียนและนำบัตรประชาชนให้พนักงาน จากนั้นรอพนักงานดำเนินการ ท่านจะได้รับ SMS OTP รหัสในการยืนยันการสมัครใช้งาน

เปิด App “3ชั้น” (ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะ 3G/4G หรือ WiFi ถึงจะใช้งานได้)

กด “ลงทะเบียน” และกรอกเบอร์โทรศัพท์หลักที่ใช้ลงทะเบียนกับทางค่ายมือถือพร้อมรหัสบัตรประชาชน

กรอกรหัส OTP ที่ได้รับจาก SMS

ตั้งรหัสผ่านในการเข้า App ซึ่งต้องเป็นรหัสที่ท่านจำได้ และไม่ควรเดาง่าย (เมื่อท่านตั้งแล้ว App จะให้กรอกรหัสเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยัน)

App จะถามว่าต้องการ “ล็อคการเปิดเบอร์ใหม่ด้วยบัตรประชาชนของท่านหรือไม่” ให้ตอบ “ล็อค” เพื่อให้การดำเนินการล็อคมีผล

จะพบกับหน้าจอเมนูหลักของ App ดังภาพ

มาดูการทำงานของแต่ละเมนูกัน สำหรับเมนูแรกที่จะแนะนำคือ “ตรวจ/แจ้ง” เมื่อกดเข้าไปแล้วจะพบกับเบอร์ที่มีการจดทะเบียนด้วยบัตรประชาชนของท่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีการเปิดเบอร์แปลกปลอมหรือไม่ โดยสามารถ “กดที่ชื่อค่าย” เพื่อเข้าไปดูได้ว่าแต่ละค่ายของท่านมีจดทะเบียนไว้กี่เบอร์ มีแปลกปลอมไหม

เมื่อกดที่แต่ละเบอร์ จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นมา หากพบว่าเป็นหมายเลขแปลกปลอม สามารถกด “แจ้งเบอร์แปลกปลอม” ได้ทันที

แต่มีข้อสังเกต! ไม่สามารถแสดงผลซิมจากค่าย MVNO ได้ (MVNO คือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีเครือข่ายเป็นของตัวเอง ไปเช่าเครือข่ายอื่นอีกที ยกตัวอย่างเช่น “ซิมเพนกวิน” ที่เช่าคลื่น 850 จาก CAT ซึ่ง CAT นั้นมีเครือข่ายของตัวเองคือ My by CAT)

ผู้เขียนมี “ซิมเพนกวิน” ที่ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนนี้ (ซึ่งเป็น MVNO ของ CAT) ไม่ปรากฎขึ้นใน App และเมื่อลองกดไปดูที่เจ้าของคลื่นอย่าง My by CAT ก็ไม่ปรากฎว่ามีหมายเลขเช่นเดียวกัน ทั้งที่ซิมยังใส่อยู่ในเครื่องเปิดใช้งานอยู่ / ดังนั้นขอฝากทาง กสทช. ช่วยปรับปรุงเรื่องนี้ด้วยนะครับ

มาดูต่อที่เมนู “ตั้งค่า”

เมื่อกดเข้าไปครั้งแรกจะให้ทำการยืนยันอีเมล โดยกดที่ “ยืนยันอีเมล”

ทำการกรอกข้อมูลตามความเป็นจริง

จะพบหน้าจอนี้ให้กด “ตกลง” แล้วไปตรวจสอบที่อีเมล์ที่ได้ใส่ไว้ (บางทีอาจไปอยู่ใน Junk Mail หรือเมลขยะ)

กดลิงค์ยืนยันจากอีเมล จากนั้นจะเปิด Browser และขึ้นข้อความ “ยืนยันเรียบร้อยแล้ว”

จากนั้นกลับมาที่ App จะพบว่าสามารถเข้าไปที่ “ตั้งค่า” ได้แล้ว โดยมีเมนูตามภาพและจะสังเกตว่า “การแจ้งเตือน” จะปิดอยู่ แนะนำให้เปิดไว้เลย จะได้ทราบการแจ้งเตือนของ App ซึ่งจากการที่ผู้เขียนลองเปิดไว้ ไม่มีแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นมารบกวนเลย

มาดูที่เมนูนี้บ้าง

เมื่อกดแล้วจะแสดงสถานะว่า “ล็อค” แสดงว่าบัตรประชาชนนี้ไม่สามารถเปิดเบอร์ใหม่ได้ แต่หากท่านต้องการเปิดเบอร์ใหม่จริงๆ ให้กดที่ “ต้องการปลดล็อค”

จากนั้นจะพบกับข้อความ “ปลดล็อคเรียบร้อยแล้ว” ให้กด “ตกลง”

จากนั้นจะพบว่าที่เมนู ปุ่ม “ล็อค” จะกลายเป็น “ปลดล็อค”

เมื่อกดเข้าไปแล้ว ก็จะสามารถคืนค่าเป็น “ล็อค” เพื่อไม่ให้สามารถเปิดเบอร์ใหม่ได้อีกครั้ง โดยคลิกที่ “ต้องการล็อค”

จากนั้นจะพบกับข้อความ “ท่านได้ทำการล็อค” แล้วกด “ตกลง”

และมาดูที่เมนูนี้

เมื่อกดเข้าไปจะพบกับ “รวมเบอร์ Call Center ค่ายมือถือ โดยจะมีเบอร์สำหรับโทรฟรีในช่วงเวลาที่กำหนดหากเอาเครือค่ายเดียวกันโทรด้วย” แต่พบว่าชื่อเครือข่าย “my by CAT” ใส่ชื่อกำกับเป็น “my World” ซึ่งถือว่าใส่ชื่อผิด เพราะ my World คือ MVNO ที่เช่าคลื่นจาก CAT คนละบริษัทกัน ฝาก กสทช. แก้ไขชื่อด้วยนะครับ (แต่พบว่าไม่มีการรวมเบอร์ค่าย MVNO แต่อย่างใด)

มาดูที่เมนูสุดท้ายกันบ้าง อยู่มุมขวาบนตรงนี้เลย

เมื่อกดเข้าไปแล้วจะพบกับหน้าจอแก้ไขข้อมูลประจำตัวหรือ “ข้อมูลผู้รักษาสิทธิ” นั่นเอง

สรุป

App นี้ค่อนข้างดีเลย แต่มีข้อเสียในส่วนของ

ไม่สามารถใช้กับเบอร์ของค่ายประเภท MVNO ได้

ยังไงก็ฝากทาง กสทช. ช่วยปรับปรุงแก้ไขด้วยนะครับ นอกจากนี้จุดนึงที่ผู้เขียนพบว่าควรปรับปรุงในการเปิดตัวบริการต่อไปของกสทช. คือ เมื่อเปิดตัวแล้วควรระบุวันที่พร้อมเปิดใช้งานให้ชัดเจน เพราะผู้เขียนได้ทดลองเปิดใช้บริการหลังจากที่ App นี้เปิดตัวทางค่ายมือถือได้บอกว่า “ยังไม่เปิดบริการ” ให้มาสอบถามใหม่วันหลัง ซึ่งได้ติดตามมาหลายวันกว่าระบบจะให้เปิดใช้บริการได้ (ตอนนี้เปิดใช้บริการได้แล้ว แต่ค่ายมือถือบางศูนย์บริการอาจยังไม่ทราบข้อมูล แนะนำให้เอารีวิวนี้ให้พนักงานดูก็ได้นะครับ จะได้รู้ว่าคือบริการอะไร)