เกิดอะไรขึ้น ความไม่สเถียรของ iOS และ Android แตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่

Blancco Technology Group เผยในรายงานเกี่ยวกับ “ประสิทธิภาพและสุขภาพของสมาร์ทโฟน” ว่า ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา 1 ใน 4 ของอุปกรณ์ระบบ Android ทั่วโลก เกิดอาการค้างและระบบรวน ซึ่งมากกว่า iPhone ที่ใช้ระบบ iOS ถึง 2 เท่า โดย iPhone อยู่ที่ 12%

สำหรับในอเมริกาเหนือพบว่า ความห่างชั้นระหว่าง 2 ระบบยิ่งมากขึ้นไปอีก โดย Android นั้นเกิดการล้มเหลวถึง 24% ส่วน iPhone พบเพียง 8% ที่เกิดปัญหาดังกล่าวเท่านั้น แต่ที่พื้นที่แถบเอเชียกลับแตกต่างออกไป โดย Blancco Technology Group เผยข้อมูลที่น่าตกใจ ที่พบว่า iPhone ระบบล้มเหลวถึง 60% ในขณะที่ Android ระบบล้มเหลวอยู่ที่ 28%

ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน อุปกรณ์จาก Samsung ระบบเกิดปัญหาถึง 61% นำหน้าทุกแบรนด์มาเป็นอันดับที่หนึ่ง และตามมาด้วย LG ที่ 11% โดยจากสถิติ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า สมาร์ทโฟนที่มีอัตราการล้มเหลวของระบบสูงที่สุด 5 อันดับแรก ทั้งหมดเป็นสมาร์ทโฟนของ Samsung ทั้งสิ้น!

5 อันดับนั้นได้แก่ Samsung S7 edge, Samsung Galaxy S5, Samsung Galaxy S7, Samsung Galaxy S7 Active และ Samsung Galaxy Express Prime ตามลำดับครับ

ส่วนทางด้าน Apple นั้นพบว่ารุ่นที่เกิดปัญหามากที่สุด คือ iPhone 6 ที่มีอัตราการล้มเหลวของระบบสูงถึง 26% ตามมาด้วย iPhone 6s และ iPhone 5s ซึ่งอยู่ที่ 11% ตามลำดับ

นอกจากสถิติความล้มเหลวแล้ว รายงานยังได้พูดถึงปัญหาเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้งานรู้สึกไม่พอใจมากที่สุดอีกด้วย สำหรับอุปกรณ์จาก Apple นั้นพบว่า ผู้ใช้งานไม่พอใจ ปัญหาจากความร้อนของเครื่องมากที่สุด ตามมาด้วยปัญหาจาก Wi-Fi และหูฟัง ตามลำดับ แตกต่างจากทาง Android ที่ผู้ใช้งานไม่พอใจในเรื่อง ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ใช้อยู่มากที่สุด ตามมาด้วยปัญหา USB, การชาร์จแบตเตอรี่, การรับสัญญาณโทรศัพท์, และหน้าจอ ตามลำดับครับ

ส่วนในเรื่อง “ปัญหาแอปฯปิดตัวอัตโนมัติ” บน iOS มีมากถึง 54% ซึ่งมากกว่าสถิติจากอุปกรณ์ระบบ Android ถึง 5 เท่า โดยแอปฯ ที่เกิดปัญหานี้มากที่สุด 5 อันดับแรกบน iOS คือ Messenger, Pinterest, Facebook, Google และ Snapchat

ทางด้าน Android พบว่า 5 อันดับแรกคือ Facebook, Address Book, Google Play, Messenger และ Weather ครับผม