สมาร์ทโฟนกล้องคู่ดีกว่าสมาร์ทโฟนกล้องตัวเดียวจริงหรือ?
สวัสดีทุกท่าน อีกกี่วันก็จะถึงวันเปิดงาน Thailand Mobile Expo 2017 และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆในช่วงนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีลักษณะการดีไซน์ออกแบบค่อนข้างใกล้เคียงกันเลย ไม่ว่าจะเป็นจอไร้ขอบ และที่ฮิตติดเทรนด์กันมาก่อนหน้านี้ซักพักแล้วคงหนีไม่พ้นเรื่องกล้องคู่ที่จุดประกายให้หลายๆแบรนด์ถึงกลับทำออกมาแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน
ซึ่งในที่นี้เราจะมาเข้าถึงจุดแตกต่างของการนำเทคโนโลยีกล้องคู่มาใช้ว่าจะมีข้อดีต่างจากสมาร์ทโฟนกล้องเดี่ยวขนาดไหนกันเชียว
เริ่มด้วยการทำงานของกล้องคู่
ในก่อนหน้านี้สมาร์ทโฟนนั้นจะมีกล้องหลักเพียงตัวเดียว แต่ด้วยความต้องการที่ไม่สิ้นสุดที่จะนำความสามารถต่างๆจากกล้องตัวใหญ่ๆที่มีฟีเจอร์ดีๆมาใส่ในกล้องมือถือเพียงตัวเดียวไม่ไหว(จริงๆผมว่าไหวแหละ แต่ต้นทุนสูงแหงๆ) ทางนักพัฒนาก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า
“ในเมื่อกล้องตัวเดียวทำไม่ได้ ก็ใส่เพิ่มซะเลยสิ”
เลยกลายเป็นเทคโนโลยีกล้องคู่ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ดีกว่าเดิมในบางจุด
โดยการทำงานนั้นหลักๆก็จะต้องมีเซ็นเซอร์รับภาพตัวหลักที่จะให้ในการถ่ายภาพ และจะใช้เซ็นเซอร์ตัวที่สองสำหรับเก็บข้อมูลภาพไว้อ้างอิงให้ตัวประมวลผลไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นความตื้นลึกหนาบาง หรือเก็บภาพขาวดำ ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีให้เห็นฟีเจอร์หลักๆประมาณนี้
โหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode/Bokeh หรือถ่ายหน้าชัดหลังละลาย)
เป็นฟีเจอร์ยอดฮิตที่สมาร์ทโฟนกล้องคู่เกือบทุกตัวจะมี ขอธิบายคร่าวๆของวิธีการทำงานเลยนะครับ คือกล้องตัวหลักจะเก็บภาพปกติ ส่วนกล้องตัวที่สองเนี่ยจะถ่ายภาพที่โฟกัสแบบเบลอเอาไว้และเก็บรายละเอียดความลึกของภาพแล้วส่งให้ระบบประมวลผลทำการเลือกละลายหลัง รวมภาพออกมาเป็นภาพถ่ายหน้าชัดหลังละลายสุดคูล จากที่อ่านคงจะรู้กันแล้วล่ะว่าโหมดถ่ายบุคคลที่ใช้กันหมดทั้งหมดเนี่ยซอฟต์แวร์เป็นคนทำล้วนๆ ถึงจะดีไม่เท่ากล้องที่ใช้เลนส์ถ่ายจริงๆก็เถอะ เพราะถ้าปรับไม่ดีเนี่ยอาจมีการเบลอสิ่งที่เราโฟกัสไปด้วย
การซูมแบบออปติคอล
โดยปกติเนี่ยการซูมของสมาร์ทโฟนแทบทุกตัวจะเป็นการซูมแบบดิจิตอล เพราะว่าเลนส์ในมือถือน่ะมันขยับไม่ได้ ไม่เหมือนกล้องจริงๆที่สามารถหมุนเลนส์เพื่อซูมได้โดยไม่เสียความละเอียด แต่ก็มีสมาร์ทโฟนกล้องคู่บางรุ่นที่อาศัยชนิดเลนส์ของกล้องคู่ที่มีความยาวโฟกัสและมุมมองรับภาพต่างกันเพื่อใช้ในการซูม เพียงแค่ให่ชอฟต์แวร์ช่วยสลับเปลี่ยนเลนส์กล้องในการรับภาพก็เพียงพอที่จะได้การซูมโดยไม่เสียรายละเอียดแล้ว ซึ่งในปัจจุบันซูมได้สูงสุด 2 เท่านะ(ถ้าเกินกว่านี้คือดิจิตอลแล้วจ้า)
สมาร์ทโฟนที่ใช้กล้องคู่ลักษณะเลนส์มุมปกติกับเลนส์มุมแคบ(Telephoto)
- iPhone 7 Plus / 8 / 8 Plus / X
- Samsung Galaxy Note 8 / J7+
- Huawei GR5 2017
- Xiaomi Mi6
- vivo V5 Plus(กล้องหน้า)
- Gionee M7 Power
- และสมาร์ทโฟนกล้องคู่ส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์ลักษณะนี้เกือบทั้งหมด
การรวมภาพเพื่อให้ได้ภาพที่มีมิติมากขึ้น
ถือว่าเป็นเทรนด์ใหญ่ที่สามารถพลิกวงการมือถือให้เข้าสู่ยุคกล้องคู่ได้เลย (อย่าง Huawei P9 ตอนเปิดตัวถือว่ากระแสตอบรับดีมากๆ) การทำงานนั้นง่ายเพราะว่าการใช้การรวมภาพนั้นจะใช้ภาพสีจากกล้องตัวหลักและภาพรับแสงแบบขาวดำมาทำการประมวลผลแล้วรวมภาพออกมา ทำให้ภาพที่ได้มีมิติและให้รายละเอียดแสงเงามากขึ้น
สมาร์ทโฟนที่ใช้กล้องคู่ลักษณะเลนส์ถ่ายภาพสีกับขาวดำ
- Huawei P9/P9 Plus
- Huawei P10/P10 Pus
- Huawei Mate 9
- Nokia 8
- Moto G5s Plus
การถ่ายภาพมุมกว้าง
อันนี้เกิดจากการที่นำเลนส์มุมมองกว้าง(แบบกว้างจริงๆ กว้างจนที่มุมภาพมีการบิดเบี้ยวเลยล่ะ) มาใส่เป็นเลนส์ตัวที่ส่อง เพื่อใช้งานกรณีที่ต้องการถ่ายเก็บรายละเอียดภาพให้ได้มากที่สุด เทคโนโลยีนี้จะไม่มีการรวมภาพนะครับ อย่างมากแค่สลับตัวกล้องตอนถ่ายมากกว่า
สมาร์ทโฟนที่ใช้กล้องคู่ลักษณะเลนส์ปกติผสมกับเลนส์มุมกว้าง
- LG G5/G6
- LG V20
แล้วสมาร์ทโฟนที่เป็นกล้องคู่ก็ดีกว่ากล้องตัวเดียวน่ะสิ
ขอตอบว่า ดีกว่าแค่บางจุดเท่านั้นครับ โดยเฉพาะฟีเจอร์การใช้งานที่นำเสนอไปข้างต้นที่ถือว่ากล้องคู่ทำได้ดีกว่าเพราะออกแบบกล้องมาได้ตอบโจทย์ แต่ว่าคุณภาพของภาพที่ได้นั้นไม่เกี่ยวกับจำนวนกล้องนะครับ หลักๆเลยจะอยู่ที่ขนาดเซ็นเซอร์ ยิ่งขนาดใหญ่เท่าไหร่ยิ่งให้ภาพที่ดีมากขึ้นเท่านั้น
เพราะด้วยการที่ใส่กล้องคู่ลงไปในมือถือที่มีขนาดเท่าเดิมเนี่ย ทำให้เซ็นเซอร์ของกล้องทั้งคู่จะต้องมีขนาดเล็กลงเพื่อให้ใส่ลงไปในมือถือ ทำให้คุณภาพของภาพที่ได้จะลดลงถ้าเทียบกับเซ็นเซอร์ของกล้องเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่กว่า และสมาร์ทโฟนบางแบรนด์ก็ยังคงนำเสนอในแบบกล้องตัวเดี่ยวเดี่ยวโดดๆอยู่ แถมทำออกมาได้ดีซะด้วย
อย่างไรก็ตามนอกจากจุดแตกต่างของกล้องมือถือแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือการเลือกใช้มือถือให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคนครับ ขอให้ทุกท่านที่กำลังตัดสินใจเลือกสิ่งที่คิดว่าตอบโจทย์มากที่สุด แล้วภาพถ่ายก็จะออกมาดีเอง คงตัดสินใจกันได้นะครับว่าสมาร์ทโฟนกล้องแบบไหนเหมาะกับคุณ และถ้าตัดสินใจได้แล้ว ห้ามพลาดเด็ดขาดกับงาน Thailand Mobie Expo 2017 วันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2560 สมาร์ทโฟนดีๆพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษรออยู่นะครับผม