9 เรือธง RAM 6GB พร้อมกล้องคู่ (Dual-Camera) รุ่นใหม่ที่น่าสนใจมากที่สุด ณ ชั่วโมงนี้
แนะนำ 9 เรือธง RAM 6GB พร้อมกล้องคู่ (Dual-Camera) รุ่นใหม่ที่น่าสนใจมากที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ กับการใช้งานลื่นไหล และถ่ายภาพคมชัดทุกรายละเอียด บนการดีไซน์สุดพรีเมียม แบรนด์ไหนดี รุ่นไหนเด่น มาดูกัน!
เรียกได้ว่าแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างก็ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมากันอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละรุ่นก็มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ ขนาดของหน่วยความจำแรม (RAM) ที่ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลในด้านความเร็วของการทำงาน รวมถึงการประมวลผลต่างๆ และหากพูดถึงการใช้งานสมาร์ทโฟนในทุกวันก็คงหนีไม่พ้นการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ โดยเฉพาะ Social Network ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Youtube, Instagram, Twitter ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าขนาดของหน่วยความจำแรม (RAM) ส่งผลกับทุกการใช้งานในแอปพลิเคชันดังกล่าว
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือเป็นจุดขายสำคัญ ที่ผู้ใช้เริ่มหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้นได้แก่ กล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) ที่รองรับการถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh) ซึ่งจะสังเกตได้จากสมาร์ทโฟรุ่นท็อปจากแบรนด์ต่างๆ ที่รองรับฟังก์ชันนี้กันมากขึ้น ดังนั้นในวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงทำการรวบรวมสมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อม RAM 6GB และใช้งานกล้องคู่ (Dual-Camera) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมกับถ่ายภาพได้คมชัดในทุกรายละเอียด รวมถึงมีฟีเจอร์การใช้งานในระดับท็อปครบครัน ซึ่งจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นเด่น จากแบรนด์ใดที่ตรงใจ และโดนใจท่านผู้อ่านบ้างนั้น ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
Samsung Galaxy Note8 ราคา 33,900 บาท
Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดการวางจำหน่ายในบ้านเราช่วงเดือนตุลาคมนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดราคาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วที่ 33,900 บาท ซึ่งมาพร้อมกับการพลิกโฉมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบ Infinity Display ขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว และอัปเกรดมาใช้งานกล้องคู่ (Dual-Camera) ที่ด้านหลัง รวมถึงพกพาฟีเจอร์ระดับท็อปมาอย่างครบครัน ดังนี้
- ตัวเครื่องมีขนาด 162.5x74.8x8.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 195 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ 2K WQHD+ Super AMOLED ไร้ขอบ Inifinity Display ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2960x1440 พิกเซล, ฟีเจอร์ Always-On Display, พื้นที่ใช้งานมากถึง 83.3% และกระจกป้องกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Samsung Exynos 8895
- ชิปเซ็ตประมวลผลภาพกราฟิก (GPU) Mali-G71
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB รองรับหน่วยความเสริมแบบ microSD สูงสุด 256GB
- กล้องด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล, ระบบโฟกัสภาพแบบ Dual-Pixel, ใช้เลนส์รับภาพ 2 แบบ คือ Telephoto ขนาดรูรับแสง F/2.4 และ Wide ขนาดรูรับแสง F/1.7, ระบบซูมภาพแบบ Optical Zoom 2x, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ทั้งสองเลนส์, ฟีเจอร์ Live Focus สำหรับการถ่ายหน้าชัด-หลังเบลอ และฟังก์ชัน Dual Capture ถ่ายภาพครั้งเดียวได้สองมุม คือ ภาพมุมกว้าง และภาพ Portrait
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7 และระบบโฟกัสภาพแบบ Autofocus
- ปากกา S Pen ที่รองรับแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับ และป้องกันน้ำในระดับ IP68 ด้วย
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner)
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- ใช้งานโมเด็ม LTE Cat.16 และเทคโนโลยี 4CA (Carrier Aggregation)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งาน Samsung Pay
- รองรับการใช้งาน Secure Folder สามารถใช้งาน LINE ได้ 2 แอคเคานท์
- รองรับการใช้งานร่วมกับ Samsung DeX
- ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ (AI) Bixby
- รองรับการเชื่อมต่อ USB Type-C และ Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh พร้อมรองรับฟีเจอร์ Wireless Charge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougatt
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy Note8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy Note8
รีวิว (Review) Samsung Galaxy Note8
Huawei Mate 10 Pro ราคา 799 ยูโร (ประมาณ 31,200 บาท)
Huawei Mate 10 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Huawei ที่มาพร้อมการปรับเปลี่ยนดีไซน์โฉมใหม่ด้วยหน้าจอไร้ขอบแบบ FullView Display รวมถึงอัปเกรดกล้องคู่ (Dual-Camera) จาก Leica แบบ Dual F/1.6 และมีคุณสมบัติการป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IP67 ซึ่งมีคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ครบครันดังนี้
- ตัวเครื่องมีขนาด 154.2x74.5x7.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 178 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ FullView Display ขนาด 6 นิ้ว อัตราส่วน 18 : 9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2160 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Kirin 970 + Mobile AI
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72 (12-Core)
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB และ 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB และ 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) จาก Leica ความละเอียด 12+20 ล้านพิกเซล (RGB+Monochrome) พร้อมระบบการโฟกัสภาพแบบ 4 in 1 Hybrid Focus, ระบบ Huawei Hybrid Zoom และระบบการโฟกัสภาพแบบ OIS โดยที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.6 ทั้งสองเลนส์
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม AI Selfie และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมเทคโนโลยี Huawei Super Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 8.0
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และ Bluetooth 4.2
- คุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) แบบ Dual 4G Dual VoLTE เป็นรุ่นแรกของโลก
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Huawei Mate 10 Pro
nubia Z17S ราคา 2,999 หยวน (ประมาณ 15,100 บาท)
nubia Z17S สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่จาก nubia ที่มาพร้อมการดีไซน์โฉมใหม่แบบ Full Screen เป็นรุ่นแรกของค่าย และใช้งานกล้องถ่ายภาพมากถึง 4 ตัว (Quad-Camera) บนการดีไซน์ตัวเครื่องโลหะผสานกับกระจกสุดพรีเมียม และมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้
- ตัวเครื่องมีขนาด 147.46x72.68x8.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 170 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Full Screen LTPS TFT ไร้ขอบขนาด 5.73 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2040 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 540
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง NeoVision 7.0 แบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12+23 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX362 และ IMX318) พร้อมไฟแฟลช Dual-Tone LED และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8+F/2.0
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 5+5 ล้านพิกเซล และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2
- แบตเตอรี่ความจุ 3100 mAh พร้อมเทคโนโลยี Fast Charge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 5.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.1 และ NFC
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- มีตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Black Gold และ Deep Blue
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ nubia Z17S
Asus ZenFone 4 Pro ราคาประมาณ 22,990 บาท
Asus ZenFone 4 Pro สมาร์ทโฟนตัวท็อปที่สุดจากตระกูล ZenFone 4 Series ที่มาพร้อมการอัปเกรดขึ้นด้วยกล้องคู่ (Dual-Camera) และการดีไซน์ระดับพรีเมียม โดยมีคุณสมบัติตัวเครื่องครบครันทุกการใช้งานในระดับไฮเอนด์ ดังนี้
- ตัวเครื่องมีขนาด 156.9x75.6x7.6 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 175 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB และ 128GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 2TB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7, เลนส์ซูมแบบ 2X Optical Zoom, ระบบการโฟกัสภาพแบบ TriTech Autofocus และระบบการป้องกันภาพสั่นไหว 4 แกน (4-axis OIS)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 และระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF
- แบตเตอรี่ความจุ 3600 mAh พร้อมเทคโนโลยี Quick Charge 3.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย ZenUI 4.0
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และ NFC
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Asus ZenFone 4 Pro
Xiaomi Mi6 ราคา 13,790 บาท
Xiaomi Mi6 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ป้ายแดงจากค่าย Xiaomi ที่มาพร้อมกับารดีไซน์สุดหรูหราด้วยกระจกแบบ Four-Sided 3D Curved Glass ที่ด้านหลัง และมีความโค้งมนที่มุมรอบตัวเครื่อง ผสานเข้ากับกรอบด้านข้างตัวเครื่องที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และรองรับคุณสมบัติป้องกันน้ำกระเซ็น (Splash Resistant) รวมถึงได้รับการอัปเกรดฟีเจอร์ขึ้นจากเดิมในทุกด้าน ดังนี้
- ตัวเครื่องมีขนาด 145.17x70.49x7.45 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 168 กรัม
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.15 นิ้ว ความละเอียดระดับ พร้อมฟีเจอร์ 1nit ultra-dark night display สำหรับปรับลดความสว่างหน้าจอให้น้อยลงมากกว่าปกติถึง 4 เท่า เพื่อถนอมสายตาสำหรับการใช้งานในสภาวะที่มีแสงน้อย
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 540
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ (Dual-Tone LED), รองรับเทคโนโลยีซูมภาพด้วยเลนส์แบบ Optical Zoom, การซูมแบบดิจิทัล 10 เท่า (X10 Digital Zoom), ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ทั้งหมด 4 แกน (4-axis OIS), ระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และรองรับการถ่ายภาพในฟังก์ชัน Bokeh
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 3350 mAh พร้อมเทคโนโลยี Quick Charge 4.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Under-Glass Fingerprint Scanner
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) บนเทคโนโลยี Full Netcom 4.0
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ 2x2 Dual Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และ NFC
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Xiaomi Mi6
Nokia 8 ราคา 699 ยูโร (ประมาณ 27,600 บาท)
Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกของการหวนคืนวงการจากค่าย Nokia ที่มาพร้อมการดีไซน์สุดพรีเมียมด้วยโลหะ และกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมเลนส์รับภาพ Carl Zeiss และฟีเจอร์ Bothie สำหรับบันทึกภาพ และ Live สด ได้พร้อมกันกล้องหน้า และหลัง ซึ่งมีคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ครบครัน ดังต่อไปนี้
- ตัวเครื่องมีขนาด 151.5x73.7x7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 160 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ 2K Quad HD IPS LCD ขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียด 1440x2560 พิกเซล ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซล 554 ppi พร้อมกระจกป้องกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5 ขอบนูนแบบ 2.5D
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835
- ชิปเซ็ตประมวลผลภาพกราฟิก (GPU) Adreno 540
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB (เฉพาะรุ่น Polished Blue) พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์รับภาพ Carl Zeiss, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) กับกล้องตัวแรก, ใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Color และ Monochrome, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0, เลนส์รับภาพมุมกว้าง 76.9 องศา และรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K Ultra HD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์รับภาพจาก Carl Zeiss, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และเลนส์รับภาพมุมกว้าง 78.4 องศา
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- ตัวเครื่องป้องกันน้ำกระเซ็นตามมาตรฐาน IP54
- ระบบเสียง Ozo Audio
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และ USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 3090 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat
*หมายเหตุ : Nokia 8 รุ่น RAM 6GB ยังไม่มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Nokia 8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Nokia 8
OnePlus 5 ราคา 479 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16,300 บาท)
OnePlus 5 สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์จากค่าย OnePlus เจ้าของฉายานักฆ่าเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่อัปเกรดมาใช้งานกล้องคู่ (Dual-Camera) และปรับโฉมดีไซน์แบบใหม่ โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว (อัตราส่วน 16 : 9) ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล) พร้อมครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 ที่มีความเร็ว 2.45 GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB และ 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) แบบ UFS 2.1 ขนาด 64 GB และ 128 GB โดยไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ประกอบด้วย เลนส์ Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX 398, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7, พิกเซลขนาด 1.12μm ,รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS ส่วนเลนส์ Telephoto ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX 350 และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.6
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซ พร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX 371 และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh และระบบชาร์จเร็วแบบ Dash Charge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย OxygenOS
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และ Bluetooth 5.0
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับเครือข่ายถึง 34 เครือข่ายทั่วโลก และเทคโนโลยี 2x2 MIMO
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ OnePlus 5
OPPO R11 Plus ราคา 3,699 หยวน (ประมาณ 18,500 บาท)
OPPO R11 Plus สมาร์ทโฟนระดับท็อปรุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพตัวหลักที่ด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมกล้องหน้าคมชัด 20 ล้านพิกเซลเอาใจคนรักการถ่ายเซลฟี่ (Selfie) แบบเต็มพิกัด และมีการดีไซน์ระดับพรีเมียมด้วยการผลิตจากวัสดุประเภทโลหะทั้งเครื่อง และย้ายตำแหน่งเส้นเสาสัญญาณไปไว้ที่ขอบด้านบน-ล่าง จึงทำให้เห็นด้านหลังตัวเครื่องได้แบบเต็มตา นอกจากนี้ยังได้รับการอัปเกรดคุณสมบัติ และฟีเจอร์เด่นขึ้นจากเดิมในทุกด้านด้วยเช่นกัน ดังนี้
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED Full HD 1080p ขนาด 6.0 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 660
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, ชิปเซ็ตประมวลผลภาพ Qualcomm Spectra ISP, รองรับการซูมภาพด้วยเลนส์ 2 เท่า (2X Optical Zoom) และฟังก์ชันการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมรองรับระบบ VOOC Quick Charge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ OPPO R11 Plus
Meizu Pro 7 Plus ราคา 3,580 หยวน (ประมาณ 17,700 บาท)
Meizu Pro 7 Plus สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของค่าย Meizu ที่มีจุดขายสำคัญเป็นหน้าจอที่สองบริเวณด้านหลังของตัวเครื่องใต้กล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) ซึ่งมีหน้าที่ในการแสดงวันที่, เวลา, สภาพภูมิอากาศ, เพลง รวมถึงการแจ้งเตือนต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของทั้ง 2 รุ่นเลยก็ว่าได้ และมีการดีไซน์ตัวเครื่องการวัสดุประเภทโลหะทั้งเครื่อง พร้อมกับพกพาฟีเจอร์ในระดับไฮเอนด์มาอย่างครบครันในทุกองค์ประกอบดังนี้
- ตัวเครื่องมีขนาด 157.34 x 77.24 x 7.3 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 170 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD (1440x2560 พิกเซล) พร้อมหน้าจอรองแบบ Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว ความละเอียด 240x536 พิกเซลที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- ชิปเซ็ตประมวลผล Deca-Core (10-Core) MediaTek Helio X30
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) PowerVR 7XTP-MP4
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ RGB และ Monochrome พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX386, ไฟแฟลช Dual-Tone LED, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0, พิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน และรองรับระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว mCharge 4.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย Flyme OS 6
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE พร้อมเทคโนโลยี VoLTE การสื่อสารผ่านโครงข่าย 4G
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.2
- รองรับระบบเสียงระดับ Hi-Fi ด้วยชิปประมวลผลเสียง Cirrus Logic CS43130 และ Smart PA amplifier
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Meizu Pro 7 Plus
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง RAM 6GB พร้อมกล้องคู่ (Dual-Camera) รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ชั้นนำ ที่ทางทีมงานได้รวบรวมมาให้ได้ชมกัน จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นล้วนแต่เป็นรุ่นไฮไลท์ใหม่ล่าสุดของแต่ละแบรนด์ ที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป และมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกระดับ
และอย่างไรก็ดี ขนาดของหน่วยความจำแรม (RAM) กับกล้องถ่ายภาพ ก็เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยสำหรับการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่อง ซึ่งยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ขนาดของหน้าจอแสดงผล และความคมชัด, ชิปเซ็ตประมวลผล, หน่วยความจำภายใน, ความจุแบตเตอรี่ และเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ อีกมากมาย
ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง ว่ามีความชื่นชอบสมาร์ทโฟนรุ่นใดมากที่สุด ทั้งในด้านการดีไซน์ว่าสวยถูกใจขนาดไหน และฟีเจอร์ด้านในสามารถพร้อมตอบโจทย์การใช้งานของตนเองได้ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งหากว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้น แล้วเกิดความพึงพอใจ ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ