รีวิว Jabra Elite Sport Upgrade เพิ่มความสามารถของหูฟังไร้สายสุด Sport
หลังจากที่ทีมงาน Sanook! Hitech ได้รีวิวหูฟัง Jabra Elite Sport ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นหูฟังที่ดูดีและมีฟีเจอร์ล้ำหน้าหูฟังแบบเดียวกันค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยสิ่งที่ต้องปรับปรุงนั้นก็มีหลากหลายอย่างจึงทำให้ต้องออกรุ่น Upgrade ออกมา ครั้งนี้ Sanook! Hitech จะรีวิวหูฟัง Jabra Elite Sport Upgrade ให้ได้อ่านกันจะมีอะไรที่น่าสนใจ มาดูกัน
รูปร่างของ Jabra Elite Sport Upgrade
ยังคงออกแบบเป็นหูฟังไร้สาย 2 ข้างไม่มีสายเหมือนกับรุ่นแรกทุกประการ แต่ที่ต่างออกไปแบบชัดเจนสีของหูฟัง ที่จะเป็นสีเทา และยางขอบรองหูจะเป็นสีเขียว ทำให้ดู Sport มากขึ้น
ปุ่มกดของหูฟังนั้นแบ่งออกเป็นฝั่งซ้าย จะมีปุ่มกดสั่งงาน ซึ่งสามารถทำงานได้ทั้งการกดเพื่อหยุดเพลง, สั่งระบบสั่งงานด้วยเสียง อีกปุ่ม เป็นปุ่มปิดเครื่องได้ หรือ Pair Bluetooth
ด้านข้างซ้ายจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง
ส่วนกล่องเก็บนั้นจะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม นอกจากเก็บแล้ว ยังสามารถชาร์จไฟได้ และเติมพลังงานด้วย Micro USB ได้
คุณสมบัติที่ Jabra Elite Sport Upgrade เพิ่มเข้ามา
เมื่อเป็นการอัปเกรดรุ่นแล้วก็ต้องมีฟีเจอร์ที่เพิ่มเช่นเดียวกัน โดย Jabra Elite Sport Upgrade จะเชื่อมต่อกับโปรแกรม Jabra Sport Life ที่สามารถบอกโปรแกรมการออกกำลังกายได้ แต่สำหรับหูฟัง Elite Sport Upgrade จะเพิ่มส่วนของการปรับแต่งเสียง หรือ Equalizer ที่สามารถปรับได้ทั้งแบบง่ายและขั้นสูง ทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้น
นอกจากนี้ใน Application Jabra Sport Life ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องง่ายและทำได้ทุกวันเช่น
- ระบบวัดชีพจรระหว่างการออกกำลังกายที่หูฟัง
- จับค่า Oxygen ในเลือดระหว่างการออกกำลังกาย (VO2max)
- โปรแกรมการออกกำลังกาย สามารถทำได้ทั้งการวิ่ง, ปั่นจักรยาน, เล่น Weight
- บอกข้อมูลเรื่องของร่างกายว่าควรพักผ่อนก่อนออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหน
และการออกแบบที่เน้นเรื่องการออกกำลังกาย ทำให้เรื่องการวัดชีพจรถือว่าทำได้ค่อนข้างแม่นยำ และใช้งานกับ Apps ที่หลากหลาย แต่การปรับตั้งค่านั้นจะต้องเข้าไปที่ Apps Jabra Sport Life ซึ่งจะสามารถบอกข้อมูลการออกกำลังกายและการปรับแต่งเกี่ยวกับตัวเครื่องได้เต็มที่และรวมถึงการเปิดให้เสียงให้ข้างนอกเข้ามาในหูฟัง
ส่วนการตั้งค่านอกจากจะควบคุมเรื่องการให้เสียงเข้ามาในหูฟังได้แล้ว ยังมีเรื่องของการบอกชื่อคนโทรเข้า การรายงานผลออกกำลังกาย ระบบ Auto Tracking ซึ่งจะต้องทำงานกับการวัดชีพจรเท่านั้น
นอกจากนี้อายุการใช้งานของหูฟังตัวนี้ สามารถใช้งานได้ 13.5 ชั่วโมง แต่ตัวหูฟังสามารถฟังได้ 6 ชั่วโมง ถือว่านานอยู่
จากที่ได้ทดลองใช้งาน การใส่หูฟังตัวนี้เน้นความกระชับมากกว่า แต่ก็แน่นและฟังเพลงได้ดีไม่แพ้กับหูฟังที่เน้นเบส และมีความยืดหยุ่นเพราะสามารปรับแต่งรูปแบบของหูฟังตามหูของคุณได้ แต่ถ้าปรับไม่เหมาะสม หูฟังตัวนี้จะค่อนข้างทำให้ใบหูคุณปวดได้ง่าย ฉะนั้นควรลองให้พอดีอย่าฟืนดันเข้าไปนะครับ
สรุปความคุ้มค่าของ Jabra Elite Sport Upgrade
เป็นหูฟังอีกรุ่นหนึ่งที่ออกแบบให้คนออกกำลังกายมากและสำหรับรุ่นอัปเกรด ยกระดับสำหรับคนที่อยากใช้งานที่ต้องการอายุที่ยาวนานกว่าเดิม เลยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่เบา
แต่ด้วยราคาของมันอยู่ที่ 9,900 บาท ก็ถือว่าเหมาะสมกับคนที่ต้องใช้ออกกำลังกายเป็นประจำ และวิ่งระยะทางไกลอยู่เสมอ ฉะนั้นใครที่อยากได้หูฟังออกกำลังกายที่ไม่มีสาย ก็ลองทดลองกับหูฟังรุ่นนี้ก่อนซื้อได้ตามตัวแทนจำหน่าย Jabra ทั่วประเทศ