Sophos เผยทัศนะ เกี่ยวกับเรื่องที่ Uber ถูกเจาะระบบข้อมูลครั้งใหญ่

Sophos เผยทัศนะ เกี่ยวกับเรื่องที่ Uber ถูกเจาะระบบข้อมูลครั้งใหญ่

Sophos เผยทัศนะ เกี่ยวกับเรื่องที่ Uber ถูกเจาะระบบข้อมูลครั้งใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับคนที่ติดตามข่าวสารด้านไอทีคงจะรู้ถึงกรณีของ Uber ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ข้อมูลของลูกค้า และคนขับรถในสังกัดรวมถึง 57 ล้านรายรั่วออกมาสู่โลกภายนอก

 

ล่าสุดมีความคิดเห็นจาก Sophos นามว่า Chester Wisniewski ดังย่อหน้าด้านล่าง ซึ่งเรายินดีอย่างยิ่งถ้าคุณจะนำข้อความนี้ใส่ลงในบทความของคุณด้วย ดังนี้

“เหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลของ Uber นี้ ถือเป็นตัวอย่างสำคัญอีกกรณีหนึ่ง ที่ชี้ให้เห็นว่าผู้พัฒนาระบบจำเป็นต้องคำนึงถึงหลักความปลอดภัยอย่างยิ่งยวด และไม่ควรฝังหรือติดตั้งโทเค่นหรือคีย์ที่ใช้ยืนยันตนในการเข้าถึงระบบลงในซอร์สโค้ด

หลายครั้งที่เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับองค์กรต่างๆ และองค์กรเหล่านั้นมักเลือกที่จะปกปิดเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง ถ้าเราตัดเรื่องดราม่าที่กำลังเกิดขึ้น หรือบทลงโทษจากกฎหมายใหม่อย่าง GDPR ออกไปแล้ว

เหตุการณ์นี้นับเป็นความบกพร่องของทีมนักพัฒนาระบบที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยอย่างเพียงพอ ด้วยการปล่อยให้มีการแบ่งปันรหัสผ่านออกสู่ภายนอก

เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้มักพบได้บ่อยอยู่เสมอ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมของการพัฒนาระบบที่เน้นความคล่องตัวสูง”

 

นอกจากนี้ ในมุมมองจากที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Sophos อย่าง James Lyneเพิ่มเติมด้วย ดังนี้:

“Uber ไม่ได้เป็นบริษัทเดียว และไม่ใช่บริษัทสุดท้ายที่มีการปิดบังหรือซ่อนเร้นเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหล หรือการโดนโจมตีทางไซเบอร์ของตนเอง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า การจงใจไม่แจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบนั้น

ทำให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยงมากกว่าเดิมจากการโดนหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง เหตุนี้เองที่เป็นปัจจัยสำคัญทำให้หลายประเทศพยายามผลักดันกฎหมายที่บังคับให้เปิดเผยข้อมูลกรณีข้อมูลรั่วไหลขององค์กรออกมาใช้โดยเร็ว”

สำหรับลูกค้าและผู้ขับรถของ Uber นั้น Sophos แนะนำให้คอยติดตามคะแนนเครดิตของตนเอง และเฝ้าสังเกตรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีข้อมูลรั่วไหลครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

[ข่าวประชาสัมพันธ์]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook