19 เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้มือถือ Android ของเราทำงานเร็วและดีขึ้น
ปัญหากวนใจผู้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อใช้ไประยะหนึ่งแล้ว ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องลดลง และเครื่องก็ทำงานได้ช้าลง แต่สำหรับผู้ใช้ Android วันนี้ทีมงาน Sanook! Hitech มี 19 เทคนิคง่ายๆ ในการทำให้สมาร์ทโฟนของคุณทำงานได้ดีขึ้นมาแนะนำกัน
มาดูกันว่าทั้ง 19 ข้อที่เรานำมาแนะนำมีอะไรบ้าง?
- เก็บไว้เฉพาะแอปพลิเคชั่นที่เราใช้เท่านั้น : แอปพลิเคชั่นที่ไม่มีความจำเป็น ไม่ได้ใช้งานนั้นเปลืองพื้นที่ ให้ลบออก เพราะแอปบางอย่างนั้นทำงานตลอดเวลา และต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะไปเพิ่มค่าอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังถ่วงให้การทำงานของเครื่องช้าลง
- เคลียร์แอปพลิเคชั่นแคช : แอปพลิเคชั่นบางอย่างเราไม่ได้ใช้เป็นประจำทุกวัน อย่างเช่นแอปจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม สั่งอาหาร แอปพลิเคชั่นพวกนี้ ควรเคลียร์ข้อมูลแคชออกบ้าง
- ทำความสะอาดระบบ Memory บ่อย ๆ : การเคลียร์ RAM จะทำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เครื่องและช่วยปิดแอปพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็น
- เลือกใช้แอปพลิเคชั่นในเวอร์ชั่นที่ไม่หนัก : แอปพลิเคชั่นยอดนิยมส่วนใหญ่ เช่น Facebook, Twitter, Messenger หรือ Opera จะมีเวอร์ชั่น Lite ซึ่งไม่หนักเครื่อง ให้เปลี่ยนมาใช้เวอร์ชั่นพวกนี้แทน
- อัพเดทโทรศัพท์ตามปกติ : แอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ๆ ที่ออกมา จะมีการพัฒนาศักยภาพในการทำงาน ก็ให้อัพเดทไปตามปกติ โดยมากแล้วการอัพเดทจะทำให้เครื่องทำงานได้ดีและเร็วขึ้น
- อัพเดทบ่อยเกินไปก็ไม่ดี : บางครั้งเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ก็อาจจะมีข้อเสียได้เหมือนกัน ยิ่งในกรณีที่เครื่องมีพื้นที่เก็บข้อมูลน้อย เป็นเครื่องรุ่นเก่า การอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ๆ อาจจะทำให้ต้องใช้พื้นที่เพิ่ม
- คิดให้ดีก่อนที่ติดตั้งแอปพลิเคชั่น : มีแอปพลิเคชั่นของ Android จำนวนมากที่เป็นของปลอม ถูกทำขึ้นมาเพื่อควบคุมเครื่อง และขโมยข้อมูลสำคัญ ดังนั้นการจะลงแอปพลิเคชั่นใด ๆ ต้องตรวจสอบให้ดีก่อน
- ฟอร์แมท SD การ์ด : หากพบปัญหาการใช้งานบ่อย ๆ วิธีที่จะช่วยได้อาจเป็นการฟอร์แมท SD การ์ด วิธีการนี้ช่วยลดขยะที่ไม่จำเป็นออกไป และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เครื่อง
- ตั้งการอัพเดทแอปพลิเคชั่นผ่าน WiFi เท่านั้น : แอปพลิเคชั่นจำนวนมาก จะอัพเดทตัวเอง ซึ่งส่งผลให้เครื่องทำงานช้า แถมยังกินทรัพยากรอินเทอร์เน็ต วิธีแก้ไข คือการตั้งค่าให้แอปพลิเคชั่นอัพเดทผ่าน WiFi เท่านั้น และหากต้องการป้องกันไม่ให้ Google ซิงค์อุปกรณ์ ให้ไปปิดการซิงค์อัตโนมัติ และเปลี่ยนการอัพเดทเป็น WiFi อย่างเดียวที่ Settings > Auto update apps > Auto-update apps over WiFi only
- ใช้ระบบการเซนเซอร์ลายนิ้วมือ : ระบบนี้ช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน ไม่ต้องเสียเวลากด pin ทำให้เราสามารถปลดล็อกเครื่องได้ในเวลาไม่ถึงวินาที ในขณะที่ใส่ pin จะใช้เวลาประมาณ 5-8 วินาที
- รีสตาร์ทเครื่องบ้าง : การรีสตาร์ท จะช่วยขจัดไฟล์ที่ไม่จำเป็นออก เป็นการทำความสะอาด memory ของเครื่อง ช่วยให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้น
- เก็บข้อมูลไว้ใน Cloud : เครื่อง Android สามารถเก็บข้อมูลไว้ใน Cloud ได้ด้วยการติดตั้งแอปพลิเคชั่น เป็นการเก็บข้อมูลไว้ภายนอกเครื่อง ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่ และช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น
- อย่าใส่อะไรไว้บนหน้าจอมากนัก : การมี Widget บนหน้าจอมาก ก็ทำให้เครื่องทำงานหนัก ควรทำให้หน้าจอสะอาด มีไว้เฉพาะสิ่งที่ใช้เป็นประจำ
- ติดตั้งแอปพลิเคชั่นสำหรับ Internal Memory : ยิ่งเครื่องที่มาพร้อมกับ Memory น้อย ๆ เป็นเครื่องรุ่นประหยัด ควรจะติดตั้งแอปพลิเคชั่นเพื่อเก็บข้อมูลภายนอก การเก็บข้อมูลลักษณะนี้ ถือว่ารวดเร็วและปลอดภัยกว่าการเก็บด้วย SD การ์ดภายนอก
- ลอง Launcher สำหรับ Android : Custom launcher เป็นวิธีการที่ดีมากสำหรับการเปลี่ยนอุปกรณ์ Android ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ด้วยตัวเอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดเวลาที่ผู้ใช้เครื่องจะต้องเสียไป กับการหาแอปพลิเคชั่นมาเซ็ทเครื่องโทรศัพท์
- เมื่อเครื่องหยุดการทำงาน : บางครั้งผู้ใช้ Android ก็เจอปัญหาเครื่องนิ่งไป ไม่ยอมทำงานเสียเฉย ๆ และเมื่อเจอปัญหานี้คนส่วนใหญ่จะพยายามกดปุ่ม แตะหน้าจอเพื่อให้เครื่องทำงานต่อ แต่นั่นไม่ใช่วิธีที่ดี บางครั้งปัญหาก็เกิดจากแอปพลิเคชั่นบางแอปพลิเคชั่นเท่านั้น ให้กดปุ่ม Home เพื่อกลับไปยังหน้าจอ แล้วปิดแอปพลิเคชั่นที่ใช้อยู่ หรือหากไม่หาย ก็ให้รีสตาร์ท หรือปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่
- Root เครื่อง Android : การ Root เครื่อง เป็นสิ่งที่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะบางครั้งแทนที่จะทำให้เครื่องเร็วขึ้นกลับทำให้ช้าลงเสียอีก เพราะทำผิดวิธี
- ใช้ Developer option : เราสามารถเปิดใช้งาน Developer Option บน Android โดนไปที่หมวด About สร้างตัวเลข แล้วจะเห็น Developer Option ใน Settings จากนั้นจะสามารถเลือกหยุดการทำงานแอนิเมชั่น เซ็ทสเกลแอนิเมชั่น หรืออื่น ๆ ได้ เพื่อลดการทำงานบนหน้าจอ
- Reset เครื่อง : วิธีนี้มักจะช่วยแก้ปัญหาเครื่องได้ ให้ไปที่ Settings แล้วเลือก Factory reset ซึ่งจะเป็นการล้างข้อมูลพวกรูปภาพ วิดีโอ แอปพลิเคชั่น และแคช ออก แต่ต้องไม่ลืมแบคอัพข้อมูลเอาไว้ก่อน
