WeChat อ้าแขนรับแบรนด์ สู่ ecosystem แบบปิดของตัวเอง
แอปพลิเคชันแชตสัญชาติเอเชีย WeChat เปิดกว้างระบบนิเวศน์แบบปิดหรือที่ต่างชาติเรียกว่า closed ecosystem ให้แบรนด์เข้ามาดึงลูกค้าไปได้เต็มตัว ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าต้นสังกัด WeChat อย่าง Tencent ตั้งเป้าทำให้ WeChat เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มดิจิทัล ทั้งระบบการตลาดสื่อสังคมออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ และระบบชำระเงิน
บริการใหม่บน WeChat นี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “brand zone” ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่แบรนด์สามารถขายสินค้าให้ผู้ใช้ได้แม้ลูกค้าจะไม่ใช่ผู้ติดตามหรือ follower โดยล่าสุดแบรนด์กลุ่มสินค้าหรูหราขานรับและประยุกต์ใช้งานฟังก์ชันนี้ในรูปแบบต่างกันไป
เหตุที่ทำให้แบรนด์หรูหราขานรับคุณสมบัติใหม่นี้ของ WeChat คือเพราะตำแหน่งการเป็นแอปโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของจีน โดยก่อนหน้านี้ WeChat จะจำกัดให้ผู้ใช้เห็นโพสต์ได้เมื่อมีการแชร์จากเพื่อนของผู้ให้เท่านั้น หรือเฉพาะผู้ที่ติดตามบัญชีอย่างเป็นทางการของแบรนด์ นี่เองคือระบบนิเวศน์แบบปิด ที่แม้จะจำกัด ศักยภาพในการเผยแพร่เนื้อหา แต่ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้ Tencent กุมหัวใจของผู้ใช้ เพราะสามารถแชร์เนื้อหาที่ละเอียดอ่อนระหว่างกลุ่มเล็กได้โดยไม่ต้องกลัวรัฐบาล
เมื่อ WeChat เปิดตัวเวอร์ชัน 6.6.1 ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา WeChat ได้เปิดตัวคุณลักษณะใหม่ที่มีชื่อว่า brand zone ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถแสดงบัญชี WeChat ที่เป็นทางการ, หน้าร้าน และเนื้อหาที่แบรนด์สร้างขึ้นเอง แก่ผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครสมาชิกบอกรับเนื้อหาของแบรนด์ โดยเปิดให้ผู้ใช้สามารถค้นหาแบรนด์ที่ต้องการได้โดยตรง
คุณสมบัติใหม่นี้แสดงถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของ Tencent ที่จะทำให้ WeChat เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ไม่ได้เหมาะกับ social media marketing อย่างเดียว แต่จะคลุมถึง e-commerce และ payment ด้วย
เบื้องต้น ข้อมูลจาก CuriosityChina บริษัทเอเจนซี่ digital marketing ในประเทศจีน ให้ข้อมูลว่าบริการใหม่ brand zone นี้จะสามารถรองรับกิจกรรมทั้งหมดของแบรนด์บน WeChat ในที่เดียว โดยปัจจุบัน แบรนด์นานาชาติหลัก 10 แบรนด์ได้เริ่มใช้บริการใหม่นี้แล้ว ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นแบรนด์หรูและแบรนด์ระดับพรีเมียม โดยแบรนด์ที่ประเดิม brand zone แล้วได้แก่ Cartier, Gucci, Tiffany, Louis Vuitton, Longchamp, Michael Kors, Swarovski, Montblanc และ Lancôme