รีวิว Fitbit Ionic สมาร์ทวอทช์ออกกำลังกาย รุ่นแรกของ Fitbit
เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ออกกำลังกายสุดล้ำ รุ่นแรกอย่างเป็นทางการไปแล้วครับ สำหรับ Fitbit Ionic และแน่นอนมันย่อมเรียกเสียงฮือฮาได้มากจริงๆ เพราะ Fitbit Ionic ถือเป็นถือเป็นนาฬิกาสมาร์ทวอทช์เครื่องแรกของฟิตบิท “ไอออนิค” และเราก็ไม่พลาดที่จะขอเครื่องมีรีวิวทดสอบความสามารถกัน
มาดูกันว่าหลังจากที่ได้ลองเล่น Fitbit Ionic ตัวจริงแล้วความรู้สึกที่ได้จะคุ้มค่า คุ้มราคาในการที่จะซื้อมาไว้ใช้งานมากแค่ไหน?
Fitbit Ionic พัฒนาขึ้นมาจากความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพและฟิตเนสของฟิตบิท ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการออกกำลังแบบจัดเต็มในเครื่อง เซ็นเซอร์ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ (relative SpO2 Sensor) ที่สามารถต่อยอดเพื่อการติดตามข้อมูลสุขภาพเชิงลึก เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (sleep apnea) ในอนาคตได้
ครบทุกอย่างที่ต้องการ ลงตัวในเครื่องเดียว
ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬามือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ อุปกรณ์ที่ล้ำหน้าที่สุดของฟิตบิทเครื่องนี้ ก็จะให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละคนและนำไปปฏิบัติได้จริง ช่วยผลักดันให้แต่ละคนบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ และก็ไม่พลาดการเชื่อมโยงกับแอปฯ และระบบเตือนต่าง ๆ ไม่ว่าจะใช้สมาร์ทโฟนรุ่นไหนอยู่ก็ตาม
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 5 วัน: แบตเตอรี่ของฟิตบิท ไอออนิคชาร์จสามารถใช้งานได้ติดต่อกันหลายวันจากการชาร์จหนึ่งครั้ง (ใช้งาน GPS หรือเล่นเพลงได้ 10 ชั่วโมง) ดังนั้น ฟิตบิท ไอออนิค
จึงสามารถรองรับการใช้งานสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน แถมยังคอยติดตามการนอนหลับได้ตลอดทั้งคืน - Fitbit Coach เทรนเนอร์ส่วนตัวไปได้ทุกที่ทุกเวลา: โปรแกรมการออกกำลังกายให้ทำตามได้แบบเป็นขั้นตอนที่มีมาให้ในเครื่อง เช่น โปรแกรมบริหารร่างกาย 7 นาที โปรแกรมบริหารหน้าท้องและกล้ามเนื้ออก10 นาที รวมทั้งโปรแกรมการออกกำลังกายที่ปรับให้เหมาะสมกับข้อมูลฟิตเนสของผู้ใช้
- เป็นอุปกรณ์คู่ใจนักวิ่ง: ฟิตบิท ไอออนิคมาพร้อมกับ Run Detect ฟังก์ชั่นใหม่ที่พร้อมจะติดตามการวิ่งของคุณคู่กับจีพีเอสโดยอัตโนมัติ เพียงแค่ก้าวเท้าออกจากประตู แล้วเริ่มวิ่ง แทรคเกอร์ก็จะแสดงความเร็วและระยะทางที่วิ่งแบบเรียลไทม์ พร้อมฟังก์ชั่น auto-pause ที่จะหยุดชั่วคราวเมื่อหยุดพักดื่มน้ำหรือพักหายใจ และทำงานต่อเมื่อเริ่มวิ่ง
- ระบบจีพีเอสที่ล้ำหน้าที่สุด: ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมเสาอากาศในตัว เพื่อการเชื่อมต่อ
จีพีเอสและดาวเทียม GLONASS เพื่อให้ได้สัญญาณที่ดียิ่งขึ้น ล้ำสมัยที่สุด ผู้ใช้จึงไม่ต้องพกโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดการออกกำลังกาย แต่ยังสามารถติดตามความเร็วในการวิ่งและระยะทางการออกกำลังกายได้บนข้อมือ รวมทั้งบันทึกการไต่ระดับความชัน เวลาการวิ่งในแต่ละช่วง แผนที่เส้นทางที่คุณเดิน วิ่งหรือขี่จักรยาน - เทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ดียิ่งขึ้น: ฟิตบิท ไอออนิคมาพร้อมกับ PurePulse® ระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกายที่แม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยาน การวิ่ง การฝึก interval การวัดอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ที่ดีขึ้น แสดงโซนของอัตราการเต้นหัวใจแบบเรียลไทม์เพื่อให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนการออกกำลัง และติดตามอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- เซ็นเซอร์ใหม่ที่ดียิ่งขึ้น: เซ็นเซอร์ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ (relative SpO2 Sensor) ที่สามารถประเมินระดับออกซิเจนในเลือดได้ พร้อมเปิดศักยภาพการติดตามข้อมูลบ่งชี้เกี่ยวกับสุขภาพในอนาคตได้อีกมาก เช่น การตรวจสอบภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (sleep apnea)
- เติมแรงใจได้ด้วยเสียงเพลง: วางโทรศัพท์ไว้ที่บ้านได้เลย แล้วมาหาสิ่งช่วยกระตุ้นให้คุณลุกขึ้นมาออกกำลัง ด้วยฟังก์ชั่น music ที่สามารถจุและเล่นเพลงของคุณได้มากกว่า 300 เพลงในเครื่อง (ความจุ 5 GB)
- ชำระเงินด้วย Fitbit Pay: ในอนาคต คุณเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ทิ้งไว้ที่บ้านก็ได้ เพราะการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สามารถทำได้ง่าย และใช้ได้ทุกที่ที่รับชำระเงินแบบไร้สัมผัส
- ระบบเตือนอัจฉริยะคู่ใจที่ต้องมี: ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนบน ฟิตบิท ไอออนิคที่สามารถแจ้งเตือนสายเรียกเข้า รับข้อความ แจ้งเตือนวันนัดหมาย รวมทั้งการแจ้งเตือนจากแอปฯ ในมือถือ เช่น Facebook, Gmail, Instagram, Slack, Snapchat และอื่น ๆ อีกมากมาย
เรียกได้ว่าฟังก์ชั่นของเครื่องเยอะพอสมควง ระดับเทียบเท่ากับ Smart Watch ชั้นนำเช่น Apple Watch, Samsung Gear Sport และ กลุ่ม Android Wear ที่แม้จะมาจำนวนไม่มากในประเทศไทย
ภายในกล่องของ Fitbit Ionic มีอุปกรณ์อะไรบ้าง มาดูกัน
- ตัวเครื่อง Fitbit Ionic
- สายหลักและสายสำรองขนาด S และ L ไว้สำหรับเปลี่ยนตามขนาดข้อมือผู้ใช้งาน
- สายชาร์จไฟ ที่เสียบกับตัวเครื่องและ USB ที่คอมพิวเตอร์หรือ Adaptor ชาร์จไฟมือถือ
- คู่มือการใช้งาน
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องและการออกแบบดีไซน์ของ Fitbit Ionic
เริ่มต้นด้วยเรื่องของการดีไซน์ Fitbit Ionic ถูกออกแบบมาให้ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพราะฉะนั้นสาวๆ คนไหนข้อมือเล็กๆ ไม่ต้องกังวลเลย ใส่ไซส์ s ได้สบาย
ตัวปุ่มกดจะมีมาให้ 3 ปุ่มเป็นการทำงาน 3 ทิศทางปุ่มแรกอยู่ที่ด้านซ้ายของตัวเรือน(ปุ่มโฮม) ส่วนด้านขวาของตัวเรือนมีอีกสองปุ่ม โดยปุ่มแรกจะสั่งงานด้านการกด Back (ย้อนกลับ) ปุ่มล่าง (Enter) สำหรับเข้าฟังก์ชั่นเพื่อดำเนินการต่อ
จอแสดงผลอ่านง่าย หน้าจอทัชสกรีนสีเป็นกระจกโค้งมน พร้อมกราฟิกคมชัด และความสว่างที่ปรับเพิ่มได้ถึง 1,000 nits จึงช่วยให้คุณอ่านค่าสถิติต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะอยู่ในที่แสงจ้าหรือในห้องที่มีแสงน้อย
Fitbit Ionic มาพร้อมจอสัมผัสกับหน้าจอสี ความละเอียดสูง แต่ยังต้องใช้ปุ่มการทำงานด้วย 3 ปุ่มหลักๆ บนตัวเครื่อง เพิ่มพิกเซลและขยายความสว่างได้สูงสุด 1000 nits. ส่วนกระจกหน้าจอของ Fitbit Ionic เลือกใช้ของดีมีคุณภาพอย่าง Gorilla Glass 3 วัสดุตัวเรือนทั้งหมดทำจากวัสดุอลูมิเนียม
ตัวสายรัดทำจากวัสดุแข็งแรงทนทาน "ฟิตบิทไอออนิค" ได้รับการพัฒนาให้มีความทนทานมากขึ้น จากการเลือกใช้วัสดุเป็นซิลิโคนเนื้อดีแข็งแรง แน่นเหนียว มีความยืดหยุ่นสูง และสายรัดข้อมือใหม่ที่ผ่านการทดสอบสมรรถภาพมาแล้วอย่างสมบุกสมบันโดยในชุดจะมีสายขนาด S หรือ L ให้ได้เลือกใช้งานให้เหมาะกับขนาดของข้อมือ
การปรับเปลี่ยนสายก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ไม่ยาก เท่าที่เคยรีวิวมา ตัวนี้เปลี่ยนง่ายสุดแล้วแค่กดที่ข้อของสายแล้วดึงออกแบบเบาๆ แต่ตอนใส่สายอย่าลืมเช็คดีๆ นะว่ามันล็อกแล้วจริงๆ ไม่งั้นจะหลุดหายได้ง่ายๆ
ต่อกันที่ด้านหลังของตัวเรือนจะเป็นตำแหน่งของตัวเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจหรือ Heart Rate Sensor และตัวชาร์จที่ในรุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบเป็นแม่เหล็ก
ในส่วนของตัวชาร์จใน Fitbit Ionic เป็นสายชาร์จแบบแม่เหล็ก เท่าที่ได้ลองดึงเข้า-ออก รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดที่ถือว่าค่อนข้างแน่นดี
ระบบล็อกของสาย สมาร์ทวอทช์เมื่อทำการสวมใส่สำหรับในรุ่นใหม่จะมีระบบล็ิอกสองชั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องการหลุดหาย มั่นใจได้เลยว่าล็อกแน่นอยู่ที่ข้อมือแน่นอน
เริ่มต้นก่อนการใช้งาน
เนื่องจาก Fitbit Ionic เป็นนาฬิกาที่จะต้องมีการตั้งค่าผ่านมือถือ ซึ่งมีวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้
- โหลดโปรแกรม Fitbit สามารถใช้งานได้ทั้งเวอร์ชั่น Windows, iOS, Android
- เมื่อโหลดเรียบร้อยให้เปิดเครื่องและเชื่อมต่อ Bluetooth แนะนำว่าก่อนทำขั้นตอนนี้ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อน
- เมื่อมือถือกับ Fitbit ได้เจอกันแล้ว ให้เชื่อมต่อกับ WiFi หากเป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้การโอนข้อมูลบางอย่างทำได้เร็วขึ้นเช่นการปรับหน้าฟังเพลง
- เครื่องสามารถอัปเดท Firmware สำหรับปรับปรุงความสามารถหรือแก้ปัญหาทีส่งมาเพื่อแก้ไขได้
รวมฟังก์ชั่นและคุณสมบัติพิเศษ
ความสามารถของ Fitbit ionic มีหลากหลายเรื่องที่น่าสนใจและควรทดลองด้วยกัน ซึ่งจากผู้เขียนได้ทดลองสักระยะหนึ่งเป็นะระยะเวลา 2 อาทิตย์พบว่าจะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้
- Personal Coach ครูฝึกสอนในการอกกกำลังกายให้ข้อมูลครบถ้วนโดยการบอกที่หน้าจอ และมีการบอกแจ้งเตือนเรื่องของการใช้ Heart Rate เกินหรือไม่ และคู่มือทำให้ออกกำลังกายได้ผลมากขึ้น
- ติดตั้งระบบ GPS เหมาะสมกับการบันทึกข้อมูลพิกัด เพื่อใช้ประกอบในดูข้อมูลออกกำลังกายได้
- สามารถจัดเก็บเพลงและเล่นเพลงได้
- หน้าจอทีการปรับปรุงให้แสดงผลได้คมชัด โดยให้ความสว่างที่ 1000 nits และหน้าจอใช้กระจก Gorilla Glass 3
- นอกจากนี้ตัวเครื่องยังสามารถลงน้ำและใส่ว่ายน้ำได้
เลือกใช้ Clock Faces , Apps จาก Fitbit Store ฟรีให้ได้ใช้งาน
ในการตกแต่งนาฬิกานอกเหนือจากหน้าปัดที่ให้ในเครื่องแล้ว คุณยังสามารถโหลดเพิ่มได้ด้วยมือถือ แต่จะต้องใช้โปรแกรม Fitbit และเนื่องบจากเป็นหน้าจอสีทำให้หน้าปัดที่เลือกมากมายหลายแบบ แต่ควรดูว่าแบบไหนเหมาะกับคุณ และเสียเงินหรีือไม่เช่นกัน
Clock Faces ในนี้มีหน้าปัดใหม่ๆ ให้เราได้เลือกโหลดมาใช้งานได้ตามใจชอบ โดยทำงานผ่าน Apple Fitbit บนสมาร์ทโฟน
Apps เป็นส่วนของ Fitbit Store ที่มีให้เราเลือกมากมาย สำหรับฟังก์ชั่นนี้สามารถเล่นได้แค่บน สมาร์ทวอทช์ Ionic เท่านั้น นอกจาก Apps พื้นฐานที่ทาง Fitbit โหลดลงมาไว้บนเครื่องตั้งแต่เปิดกล่องแล้ว ยังมีแอปพลิเคชั่นมากมายให้เราได้ดาวน์โหลดเพิ่ม อย่างเช่นแอปพลิเคชั่น Starbucks
Media(เพลง) ส่วนนี้ขอข้ามไปก่อนในบทความนี้ เพราะเครื่องที่ออฟฟิตมีปัญหา เลยยังไม่ได้รีวิวการลงเพลง
Accessories ไว้ช้อปปิ้งของสุดว้าวเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นสินค้าของ Fitbit ตัวหลักๆ อย่าง Fitbit Alta HR, Fitbit Charge 2, Fitbit Flex 2 และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงส่วนของ Accessories อย่าง สายเปลี่ยนของ Ionic, Charging Cable เรียกว่ามีหมดทุกอย่าง โดยไม่ต้องเดินหาซื้อที่ไหน แต่อาจจะต้องรอหน่อยเพราะ สั่งจากต่างประเทศ
Fitbit Ionic รุ่นใหม่มีโค้ชส่วนตัวพร้อมโปรแกรมออกกำลังกายให้เราด้วย
โดยจะมีโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้งานพื้นฐานมากกมาน ไม่ว่าจะเป็น โดยมีโหมดการออกกกำลังกายค่อยข้างครบเช่น การวิ่ง, ปั่นจักรยาน และอื่นๆ ซึ่งคุณสามารถสั่งเปิดได้เจาก Apps หรือกดสั่งเปิดง่ายๆ ที่ตัวนาฬิากได้ทันที
จากที่ลองสั้นๆ ด้วยการวิ่งพบว่าการบอกข้อมูลในการวิ่งแม่นยำกว่ารุ่นเล็ก และเหมาะกับการออกกำลังกายหลายรูปแบบ แต่ถ้าต้องออกกำลังแบบโหดๆ เช่นไตรกีฬา แนะนำว่ายังไม่เหมาะสำหรับรุ่นนี้สักเท่าไหร่
Fitbit Ionic มันสามารถฟังเพลงได้แล้วนะ
การเอาเพลงลงในเครื่องก็ไม่ยาก สามารถทำโดยการลงผ่านโปรแกรม Fitbit Connect บนคอมพิวเตอร์ สามารถโหลดเพลงมาเก็บไว้ในเครื่องได้สูงถึง 300+ เพลง( พื้นที่เก็บเพลงภายในนาฬิกา 2.5GB) ขั้นตอนการฟังก็ง่ายๆ เพราะสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธเพื่อฟังเพลงได้เลย และเรายัง เราสามารถเลือกควบคุมเครื่องเล่นเพลงได้จากตัว Fitbit ได้เลย
โหมดว่ายน้ำใหม่
ฟิตบิท ไอออนิค สามารถกันน้ำลึกได้ 50 เมตร พร้อมระบบการนับรอบว่ายน้ำที่ดีที่สุด คุณจึงสามารถใส่ไอออนิคว่ายน้ำ และดูจำนวนรอบแบบเรียลไทม์ รวมทั้งระยะเวลาในการออกกำลัง และปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไปในการว่ายน้ำ
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่
จากที่ได้ทดลองใช้งานอย่างต่อเนื่องพบว่าแบตเตอรี่เคลมไว้ได้ที่ 5 ชั่วโมง แต่เมื่อทดลองใช้งานจริงกลับทำได้ประมาณ 4:36 ชั่วโมงแบตเตอรี่ก็เตือนว่าอ่อน แต่ก็ถือว่า ใช้ได้นานอยู่ แต่ว่าการชาร์จกลับเข้าไปนานไปหน่อยก็เท่านั้นเอง
สรุปผลหลังทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ทดสอบและลองเล่น Fitbit Ionic มาสักระยะ
ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ออกกำลังกายรุ่นแรกที่ถือว่าทำได้ออกมาดี ด้วยเรื่องของการออกแบบและอัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นใช้งานมากมายที่เป็นข้อดีของ Fitbit เรียกได้ว่าอะไรดีพี่แกจับมาอัดใส่ไว้ใน Fitbit Ionic เกือบทั้งหมดแล้ว
ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ที่มักเป็นปัญหาหลักๆ ของ Gadget จำพวกสมาร์ทวอทช์หลายๆ รุ่น เท่าที่ทีมงานทดลองชาตร์ครั้งแรกและทดลองใช้งานในหมวดต่างเท่าที่คนปกติจะสามารถเล่นได้ ตัวแบตเตอรี่ก็สามารถอยู่ได้นานตามที่ทาง Fitbit ได้โฆษณาตัวเองเอาไว้
สรุปจุดเด่นของ Fitbit Ionic
- สามารถใช้งานได้ทั้งบนแอปพลิเคชั่น Fitbit ที่มีให้ดาวโหลดทั้ง IOS และ Android
- น้ำหนัก 47 กรัม จึงทำให้รู้สึกเบาและสบายข้อมือขณะสวมใส่
- ด้วยรูปลักษณ์แนวสปอร์ตๆ ที่กึ่งๆ แฟชั่นไปในตัวทำให้มันเป็นมากกว่าสมาร์ทวอทช์ออกกำลังกาย
- โหมดว่ายน้ำที่มาพร้อมการกันน้ำได้ลึก 50 เมตร
สรุปจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมหากต้องการซื้อหามาใช้งาน
- ไม่รองรับภาษาไทย
- สายนาฬิกาหาซื้อยาก (สายพิเศษ หรือสีใหม่ๆ ต้องสั่งจากเว็บต่างประเทศ แล้วรอส่งเข้ามา)
นอกจากนี้ Fitbit ยังประกาศความร่วมมือกับ adidas เพื่อออก Fitbit Ionic รุ่นพิเศษ ไอออนิคมีหลายแบบและสีให้เลือก พร้อมอุปกรณ์เสริมที่เลือกใส่สลับกันได้ ทั้งแบบ Classic, Sport และหนัง Horween จึงสามารถเปลี่ยนลุคได้ทันใจ จากสไตล์ออฟฟิศ แล้วไปออกกำลัง หรือออกไปท่องราตรี รวมทั้งพัฒนาโปรแกรมออกกำลังกายร่วมกับ adidas อีกด้วย
สำหรับในเมืองไทย ฟิตบิท ไอออนิค วางจำหน่ายแล้วผ่านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ อาทิ คอปเปอร์ไวร์ด พาวเวอร์บาย คิง พาวเวอร์ และ บีทูเอส ทุกสาขาทั่วประเทศในราคา 11,690 บาท โดยมีสามคู่สีที่ผสานกันอย่างมีดีไซน์ เพิ่มความสดใสให้กับวันธรรมดา ๆ ที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์คุณ ได้แก่ แทรคเกอร์สีซิลเวอร์เกรย์ที่มากับสายสีบลูเกรย์ แทรคเกอร์สีสโมกเกรย์คู่กับสายสีชาร์โคล และแทรคเกอร์สีเบิร์นออเรนจ์คู่กับสายสีสเลตบลู