รีวิว WD My Cloud EX2100 8TB (Expert Series) NAS ส่วนตัวสำหรับบ้านของคุณ

รีวิว WD My Cloud EX2100 8TB (Expert Series) NAS ส่วนตัวสำหรับบ้านของคุณ

รีวิว WD My Cloud EX2100 8TB (Expert Series) NAS ส่วนตัวสำหรับบ้านของคุณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

WD My Cloud EX2100 8TB

บางคนยังมีความเชื่อว่าคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องอะไรที่ยากสำหรับพวกเขา ยิ่งเมื่อถึงเวลาที่อยากจะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า NAS (Network Attached Storage) หรืออธิบายเป็นภาษาไทยก็หมายถึง พวกฮาร์ดดิสก์ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายภายในบ้าน ยิ่งมึนเข้าไปใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าจะใช้งานยังไง และมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งๆ ที่ ระบบเครือข่ายภายในบ้านเดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แล้ว แทบทุกบ้านที่ติดตั้งอินเทอร์เน็ต ก็แทบจะมีความพร้อมในเรื่องของระบบเครือข่ายภายในบ้านระดับนึง สิ่งที่ขาดอยู่ก็แค่ อุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย และตอบโจทย์การใช้งานก็เท่านั้นเอง

สำหรับหลายๆ บ้าน เดี๋ยวนี้การจะต่อเอาคอมพิวเตอร์ หรือพวก Mobile devices ต่างๆ เข้ากับจอโทรทัศน์ มันแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติสามัญแล้ว พวกคอมพิวเตอร์แบบกะทัดรัดบางตัว มีขนาดแค่ประมาณ Flash drive ขนาดเขื่องมากๆ แค่นั้นเอง (ดู Intel Compute Stick ในรูปด้านล่างเป็นตัวอย่างได้) คอมพิวเตอร์ขนาดย่อมพวกนี้ มีความสามารถในการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงได้ ติดตั้งและใช้งานร่วมกับโทรทัศน์ได้สะดวก เรียกว่าแปลงโทรทัศน์ให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์จอเขื่องๆ ได้เลยล่ะ

Intel Compute Stick

แต่ข้อจำกัดของคอมพิวเตอร์ขนาดกะทัดรัดพวกนี้ จะอยู่ที่ความจุในการเก็บข้อมูลครับ ส่วนมากจะอยู่ที่ 16-32GB เป็นหลัก ซึ่งความจุแค่นี้ ลำพังแค่ตัวระบบปฏิบัติการ Windows และติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office เต็มพิกัด เนื้อที่ก็แทบไม่เหลือแล้ว ฉะนั้นไม่ว่าจะใช้ทำงานหรือเพื่อความบันเทิง ความจำเป็นในการมีฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลอยู่ภายนอกก็สำคัญ … และหากภายในบ้านมีอุปกรณ์แบบนี้ และพวก Mobile devices หลายๆ ตัวอยู่ จะซื้อฮาร์ดดิสก์มาเตรียมไว้สำหรับอุปกรณ์แต่ละตัว ก็ เอิ่ม แอบจะรวยไปหน่อยนะ

 

WD My Cloud EX2100 8TB … NAS ที่ติดตั้งง่ายฝุดๆ

สมัยนี้เรื่องยากๆ ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องง่ายแล้วครับ ขนาด NAS เอง หากต้องการจะใช้งาน WD My Cloud EX2100 8TB นี่ก็ติดตั้งง่ายอย่างไม่น่าเชื่อมาก (ขนาดผมเองก็ยังทึ่ง) … ผมแกะกล่องออกมาดูว่ามีอะไรให้บ้าง ก็เห็นตัว WD My Cloud EX2100 8TB แล้วก็มีตัวอะแด็ปเตอร์ และสายไฟแบบต่างๆ ซึ่งจากที่ดู รองรับประเทศในแถบเอเชียเกือบหมด มีทั้งแบบหัวแบน หัวแบนแบบเอียงเข้าหากัน หัวกลม และแบบสามขาเหลี่ยมๆ … แต่สำหรับผม ผมเลือกใช้แบบสามขาเหลี่ยมๆ นี่แหละ เพราะเวลาเสียบกับรางไฟแล้ว มันแน่นปึ้กดี และรางไฟสำหรับหัวแบบนี้ก็หาซื้อไม่ยากแล้ว

  อุปกรณ์มากับ WDหัวปลั๊ก

แน่นอน WD My Cloud EX2100 รุ่น 8TB ตัวนี้ จัดเต็ม ใช้ฮาร์ดดิสก์ WD Red ขนาด 4TB มาให้สองลูก เต็มพิกัดของตัว NAS ที่เป็นแบบ 2-bay เลยครับ ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสก์ที่ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์จำพวก NAS โดยเฉพาะ ให้ความอึดถึกสำหรับการใช้งานอ่านและเขียนไฟล์ที่หนักหน่วง ในขณะเดียวกันก็มีประสิทธิภาพ (อันนี้พูดได้เต็มปาก เพราะส่วนตัวเคยทดสอบ และปัจจุบันผมเองก็ยังใช้งาน WD Red 6TB ใน NAS ตัวนึงในบ้าน) ดีไซน์เป็นแบบ Hot Swap สามารถถอดเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอื่นใดมาช่วยในการประกอบฮาร์ดดิสก์เลย และก็ยังคงดูแน่นหนาดีด้วย

WD Red 4TB
และด้วยแนวคิดของ WD ที่ออกแบบมาให้ WD My Cloud EX2100 นี่ติดตั้งง่าย เลยไม่ได้มีปุ่มอะไรเยอะแยะครับ มีแค่ปุ่มเปิดปิดตัวเดียวที่อยู่ด้านหน้า และมีพอร์ต USB 3.0 ที่มีปุ่ม Copy เอาไว้สำหรับก็อปปี้ข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ที่มาเสียบกับพอร์ต USB 3.0 นี่แหละ

ด้านหน้าของ WD My Cloud EX2100

ด้านหลัง จะมีรูเสียบสำหรับสายไฟจากอะแด็ปเตอร์ครับ … มีพอร์ต Gigabit LAN มาให้สองพอร์ต ซึ่งถ้าใครอยากใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็ควรใช้กับตัว Switch/Access Point/Router ที่มีพอร์ต Gigabit LAN อย่างน้อย 2 พอร์ตด้วย เสียบมันทั้งสองช่อง จะได้แบนด์วิธอย่างเต็มที่ และก็ยังมีพอร์ต USB 3.0 เอาไว้สำหรับเชื่อมต่อกับฮาร์ดดิสก์ได้อีก

ด้านหลังของ WD My Cloud EX2100

นอกจากนี้ที่ด้านหลัง เราก็ยังเห็นพอร์ตสำหรับต่อกับ Lock Cable (เหมาะสำหรับกรณีนำไปใช้นอกสถานที่ ล็อกกุญแจไว้ กันโดนอุ้มไป), ช่องปุ่มรีเซ็ต และช่องพัดลมระบายอากาศขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่

ดีไซน์ของ WD My Cloud EX2100 นี่ขนาดกะทัดรัดดีครับ ไม่กินเนื้อที่มาก หาที่วางไว้ตรงมุมใดมุมนึงของโต๊ะทำงานได้ไม่ยาก ยิ่งโต๊ะคอมฯ สมัยนี้ บางตัวมีพวกชั้นวาง ช่องใส่ อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ … หาที่วาง สบายเลย

WD My Cloud EX2100 - Start

Set Admin Password

Setup Cloud Access

การติดตั้งยิ่งง่ายครับ ก็แค่เปิดเว็บเบราวเซอร์อย่าง Internet Explore, Google Chrome, Firefox หรือ Safari (แนะนำว่าอัพเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่สุด) แล้วเปิดเว็บตามที่ระบุไว้ในคู่มือ แล้วสร้างบัญชี admin กำหนดรหัสผ่าน แค่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว

WD My Cloud EX2100 - Dashboard

เมื่อทำการสร้างบัญชี admin เสร็จ ก็จะเห็น Dashboard ของ WD My Cloud EX2100 แบบรูปด้านบนนี่ครับ ที่นี่เราจะเห็นข้อมูลสรุปทั้งหมดเกี่ยวกับ WD My Cloud EX2100 นี่เลยครับ มันจะบอกเราได้ว่าสถานะของตัวเครื่องเป็นยังไง มีอุปกรณ์อะไรเชื่อมต่ออยู่ไหม มีแอปพลิเคชั่นติดตั้งไว้กี่ตัว เนื้อที่ความจุเหลือเท่าไหร่ แล้วโดนเอาไปเก็บอะไรบ้าง

 WD My Cloud EX2100 - Explored

ถ้าไม่คิดจะปรับแต่งอะไรเพิ่ม … ทำแค่นี่ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ ถ้าเป็นระบบปฏิบัติการ Windows ก็แค่เปิด Network ดู ก็จะเห็นเครื่องที่ชื่อ WDMyCloudEX2100 พร้อมใช้งาน (ซึ่งเราปรับตั้งเพื่อเปลี่ยนชื่อทีหลังได้) … ในระดับพื้นฐานนี่ เราจะเห็นว่า WD กำหนดการตั้งค่าใช้งานเป็น RAID1 มาให้ ซึ่งเป็นโหมดที่จะใช้งานฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลลูกนึง และในขณะเดียวกันก็สำรองข้อมูลแบบเหมือนเป๊ะๆ ลงไปที่ฮาร์ดดิสก์อีกลูกนึง ฉะนั้นเราจึงเห็นว่าแม้ WD My Cloud EX2100 นี่จะมีความจุ 8TB (เป็นฮาร์ดดิสก์ 4TB 2 ลูก) แต่เราจะใช้งานได้แค่ 4TB เท่านั้น

WD My Cloud EX2100 - RAID Mode

ในกรณีที่ต้องการใช้งาน WD My Cloud EX2100 ให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่ควรทำอย่างแรกคือ เข้าไปที่หน้าจอ Storage แล้วในหัวข้อ RAID Mode ให้เลือก Change RAID Mode ครับ ซึ่งมีให้เลือก 4 แบบ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในรูปแบบแตกต่างกันไป
JBOD หรือ Just a Bunch of Disks จะรวมเนื้อที่ของฮาร์ดดิสก์สองลูกที่มีเข้าด้วยกัน แต่ยังคงบริหารฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกเป็นคนละลูกกันอยู่ เวลาจะเขียนข้อมูล ก็จะเขียนข้อมูลไปทีละลูก (แต่ไม่จำเป็นต้องไล่เรียงไปทีละลูก) ซึ่งทำให้เราได้ประสิทธิภาพของการอ่านและเขียนข้อมูลแบบธรรมดาๆ แต่ได้เนื้อที่ในการเก็บข้อมูลแบบเต็มๆ และในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งชำรุด ก็จะมีแค่ข้อมูลที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ลูกที่ชำรุดนั่นแหละ ที่อาจจะเสียหายหรือสูญหาย
Spanning คล้ายกับ JBOD คือ รวมเนื้อที่ของฮาร์ดิสก์ทั้งสองลูกเข้าด้วยกัน แต่มีความแตกต่างกันตรงที่มันจะมองฮาร์ดดิสก์ทั้งสองลูกเสมือนเป็นหนึ่งเดียว และเวลาเขียนข้อมูลมันจะเขียนไล่ไปทีละลูก ฮาร์ดิสก์ลูกแรกเต็ม มันก็จะค่อยไปเขียนลูกที่สองต่อ

RAID0 บางคนเรียก Stripping ที่เรียกแบบนี้เพราะมันจะมองฮาร์ดดิสก์สองลูกเป็นเหมือนลูกเดียว แต่ความแตกต่างจาก JBOD และ Spanning ก็คือ เวลามันเขียนข้อมูล มันก็จะมองฮาร์ดดิสก์สองลูกเป็นลูกเดียว ฉะนั้นข้อมูลชุดหนึ่งๆ ก็อาจจะกระจายไปบนฮาร์ดดิสก์ทั้งสอง ซึ่งการทำแบบนี้มีข้อดีคือ ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลมันเร็วขึ้น และได้เนื้อที่ฮาร์ดดิสก์ใช้งานแบบเต็มๆ ฮาร์ดดิสก์สองลูกเลย แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่ หากฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกนึงเกิดชำรุด ข้อมูลเสียหายทั้งหมดทันทีเลย

RAID1 บางคนเรียก Mirroring เพราะเวลาเขียนข้อมูล มันจะเขียนข้อมูลชุดเดียวกันไปลงฮาร์ดดิสก์ทั้งสองลูกพร้อมๆ กัน ทำให้ทั้งสองลูกเสมือนเป็นข้อมูลสำรองของกันและกัน กรณีที่ฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งพัง เราก็ยังไม่เสียข้อมูลใดๆ เพราะอีกลูกนึงยังมีข้อมูลเหมือนกันเปี๊ยบ ที่เหลือเราก็แค่หาฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่มาใส่ แล้วให้ระบบทำการ Build ข้อมูลสำรองกลับไปที่ฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ … แต่ RAID0 มีสองเสียสองประการ อย่างแรกคือ ความเร็วในการเขียนข้อมูลหายไปครึ่งนึง เพราะต้องเสียเวลาเขียนข้อมูลลงฮาร์ดิสก์สองลูก และเนื้อที่ของ NAS จะมีค่าเหลือแค่ฮาร์ดดิสก์ลูกเดียว

 

แบบ JBOD และ Spanning นั้นเหมาะสำหรับกรณีที่เราต้องการเนื้อที่เก็บข้อมูลแบบเต็มๆ และเก็บข้อมูลที่ไม่สำคัญมาก หรือ มั่นใจแล้วว่าเรามีวิธีแบ็กอัพข้อมูลอย่างอื่นมารองรับ … เหมาะสำหรับพวกไฟล์งานธรรดาที่มีการสำรองข้อมูลไปยังฮาร์ดดิสก์ด้วยตัวเอง (ผ่านทางพอร์ต USB 3.0) หรือ สำรองขึ้นบริการ Cloud storage อื่นๆ

แบบ RAID1 นั้นเหมาะสำหรับกรณีที่เราต้องการเนื้อที่เก็บข้อมูลแบบเต็มๆ และต้องการประสิทธิภาพในการอ่านและเขียนข้อมูลเต็มที่ ซึ่งข้อมูลพวกนี้จะหายไป ก็ไม่เดือดร้อนมาก เช่น พวกไฟล์หนัง ไฟล์เพลง ที่เราดาวน์โหลดมาเก็บไว้ … โหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากจะใช้ WD My Cloud EX2100 เป็น Media server ครับ

แบบ RAID0 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ WD My Cloud EX2100 ในการเก็บพวกงานต่างๆ หรือ ข้อมูลสำคัญๆ หรือ พวกไฟล์วิดีโอและภาพถ่ายความทรงจำต่างๆ ที่ต้องการความมั่นใจระดับนึงว่าแม้จะเกิดความผิดพลาดอะไร ฮาร์ดดิสก์จะพังไปซักลูก ข้อมูลก็ยังไม่หาย

อย่างในกรณีของผม ผมอยากจะเอา WD My Cloud EX2100 นี่มาเก็บพวกไฟล์หนังที่ผมสะสม และไฟล์รูปภาพและวิดีโอที่ผมถ่ายตอนไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ผมก็เลยขอใช้ RAID0 เพื่อความมั่นใจครับ

WD My Cloud EX2100 - Set Up Shares

ในด้านการใช้งาน หากเตรียม WD My Cloud EX2100 เอาไว้สำหรับใช้งานกันหลายคน และกะให้ใช้งานได้จากหลายๆ อุปกรณ์ หลายๆ แอปพลิเคชั่น ก็สามารถมาตั้งค่ารายละเอียดได้ในหัวข้อ Shares ครับ จะสามารถเลือกได้ว่าจะให้เข้าถึงได้แบบ Public เลยไหม จะให้เข้าผ่านโปรแกรม FTP รึเปล่า หรือจะกำหนดให้เฉพาะบางคนมีสิทธิ์เข้ามาใช้งาน และใช้ได้แค่ไหน (อ่านอย่างเดียว เขียนได้ด้วย อะไรแบบนี้)

และในฐานะที่เป็น My Cloud จึงไม่ถูกจำกัดอยู่แค่เฉพาะการใช้งานภายในบ้านนะครับ และไม่ต้องเซ็ตค่าอะไรให้วุ่นวายมากด้วย แค่ไปลงทะเบียนใช้ Cloud Access ก่อน จากนั้นก็รอรับอีเมล์เพื่อ Activate บัญชี WD My Cloud และสุดท้ายก็คือ ดาวน์โหลดตัวโปรแกรม WD My Cloud ที่มีให้ใช้ทั้งบน Desktop (รองรับทั้ง Windows และ Mac OSX) และ Mobile เลย (รองรับทั้ง Android และ iOS) แต่สำหรับผม ผมมองว่า การใช้งานบนเครื่องคอมฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรม WD My Cloud นะ … บนระบบปฏิบัติการ Windows ก็ใช้ Windows Explorer ได้เลย ใครใช้ Mac OSX ก็ใช้ Finder ในการเข้าถึง WD My Cloud EX2100 ได้ครับ

แอป WD My Cloud

แอป WD My Cloud ใช้เชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ของ WD

ยกเว้น คุณจะใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ iOS ค่อยดาวน์โหลดแอปไปใช้ … ในส่วนของแอปบน Mobile device เนี่ย ผมว่าเหมาะสำหรับการใช้งานสองอย่างหลักๆ เลย คือ ในฐานะที่สำรองข้อมูลรูปถ่าย แบบว่าถ่ายรูปเสร็จ ก็อัพโหลดขึ้นไปเก็บ และเพราะว่าสามารถเข้าถึงจากนอกบ้านได้ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ถ่ายรูป แล้วอยากจะอัพเก็บไว้ใน WD My Cloud EX2100 ก็จะอัพผ่านแอป WD My Cloud นี่ได้เลย ถ้าไม่อยากวุ่นวายกับการเลือกอัพเอง ก็ตั้งให้มันอัพอัตโนมัติทุกรูปที่ถ่ายเลยก็ได้ … อย่างไรก็ดี แนะนำว่าอย่าลืมตั้งให้อัพเฉพาะตอนต่อ WiFi นะครับ

ดูหนังผ่าน WD My Cloud app

 

ในกรณีที่ต้องการใช้งานมากกว่าการเป็นแค่ NAS เอาไว้เก็บข้อมูลเฉยๆ ตัว WD My Cloud EX2100 ก็สามารถดาวน์โหลด App มาเพิ่มขีดความสามารถได้ ซึ่งทาง WD เขาก็เตรียมรายชื่อมาในระดับนึงแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกทำนองเว็บเซิร์ฟเวอร์ครับ คือ เอาไว้ทำเว็บด้วย Joomla หรือ WordPress ได้ หรือไม่ก็เชื่อมต่อกับบริการ Dropbox เพื่อจะได้สำรองข้อมูลจาก WD My Cloud EX2100 ไปที่ Dropbox ได้ด้วย

WD My Cloud EX2100 - App Store

ทาง WD เขาเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอปเพื่อมาใช้ร่วมกับ WD My Cloud EX2100 เพื่อใช้งานในฐานะดาต้าเซิร์ฟเวอร์ได้ และสามารถดาวน์โหลดเป็นไฟล์ .bin มาติดตั้งได้ เช่น ในกรณีที่เราอยากจะใช้ WD My Cloud EX2100 เป็นมีเดียเซิร์ฟเวอร์ประจำบ้าน โดยมีระบบบริหารจัดการพวกไฟล์มัลติมีเดียที่ดีๆ ก็ไปดาวน์โหลด Plex Server app มาติดตั้งได้

WD My Cloud EX2100 - Plex Media Server
บางคนอาจจะคิดว่า เราก็สามารถเล่นไฟล์วิดีโอจาก WD My Cloud EX2100 ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะบนคอมฯ หรือ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทำไมต้องลง Plex Server app นี่อีก?!? คำตอบคือ เรื่องของการบริหารจัดการครับ เพราะว่าตัว Plex Server นี่จะทำหน้าปกให้ ใส่ข้อมูลชื่อ ผู้กำกับ ติดแท็กเพื่อระบุประเภทหนังก็ได้ อะไรแบบเนี้ย ทำให้การบริหารจัดการมันง่ายขึ้น แต่ในกรณีของการใช้งาน Plex บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ต้องดาวน์โหลดแอปมาติดตั้ง และจะมีค่าบริการ (เป็นแบบ Subscription หรือจ่ายครั้งเดียว ประมาณเกือบๆ สองร้อยบาท)

สเปกของ WD My Cloud EX2100 ก็ตามด้านล่างเลยครับ … ตัวนี้เป็นหนึ่งใน Expert Series แต่จากที่ผมลองใช้งานดู ผมมองว่ามันสื่อถึงความสามารถในระดับ Expert ในแบบที่เราสามารถใช้งานได้หลากหลาย ติดตั้งแอปได้ ปรับแต่งการใช้งานสำหรับผู้ใช้งานหลายๆ คนได้ แต่ในขณะเดียวกัน ออกแบบมาให้ผู้ใช้งานระดับสมัครเล่นใช้งานได้ไม่ยากครับ

 

บทสรุปการรีวิว WD My Cloud EX2100 8TB

สนนราคาของ WD My Cloud EX2100 จะแตกต่างกันไปครับ อยู่ที่ว่าเราอยากจะได้ความจุเท่าไหร่ … คือ ลำพังตัว My Cloud EX2100 เปล่าๆ ไม่มีฮาร์ดดิสก์เลย ก็จะอยู่ที่ 9,500 บาท จากนั้นหากต้องการให้ใส่ฮาร์ดดิสก์มาพร้อมเลย ก็เพิ่มเงินกันตามความจุ โดยที่ได้มาจะเป็นฮาร์ดดิสก์สองลูก ความจุเท่าๆ กัน ฉะนั้น รุ่น 4TB ก็คือ ฮาร์ดดิสก์ 2TB 2 ลูกนั่นเอง … ตารางด้านล่างคือราคาที่รวม VAT แล้ว

 

MY CLOUD EX2100                              ความจุ                           ราคา(บาท)
WDBWAZ0000NBK-SESN                     0TB                                9,500
WDBWAZ0040JBK-SESN                      4TB                               16,500
WDBWAZ0080JBK-SESN                      8TB                              21,900
WDBWAZ0120JBK-SESN                     12TB                              28,900

 

จุดเด่นของ WD My Cloud EX2100 คือ เป็น NAS ที่พร้อมใช้งานเลย ติดตั้งไม่ยาก มีความสามารถในฐานะ NAS ระดับนึง และเนื่องจากผลิตโดย WD ก็น่าจะใช้งานร่วมกับฮาร์ดดิสก์ของ WD เองได้ดีมาก … ราคาของ WD My Cloud EX2100 เทียบกับ NAS อื่นๆ ที่ความจุเท่าๆ กันแล้ว ก็ค่อนข้างถูกกว่าอยู่ในระดับนึง โดยแลกมาด้วยสเปกของฮาร์ดแวร์ที่น้อยกว่า แต่พอเพียงสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ … แต่จุดด้อยก็คือ ความสามารถที่จำกัด ตัวเลือกของ App ไม่มาก และทาง WD ก็ไม่ได้ทำ App Store มาให้ผู้ใช้งานเลือกดาวน์โหลดได้แบบง่ายๆ

ณ จุดนี้ ขอบอกว่า WD My Cloud EX2100 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ อยากมี NAS ที่มีความสามารถระดับ Expert ประมาณนึง ในขณะที่ติดตั้งง่าย ดูแลและบริหารจัดการได้ง่ายๆ ครับ secure email server .

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook