พาสัมผัส Panasonic Lumix G9 และ Lumix GH5s เรือธงทั้งด้านการถ่ายภาพ และวิดีโอรุ่นใหม่ล่าสุด

พูดถึงกล้อง Mirror Less ที่เป็นกล้องถ่ายภาพคุณภาพดี ไม่มีกระจกสะท้อนทำให้ขนาดกล้องเล็กลงและมีประสิทธิภาพดีขึ้น Panasonic ก็เป็นผู้เล่นที่น่าสนใจ และรุ่นใหม่ล่าสุดได้มีการเปิดตัว Lumix G9 และ Lumix GH5s ที่มีการปรับโฉมจาก GH5 ซึ่งทีม Sanook! Hitech ได้ไปลองถ่ายภาพในลักษณะหลายแบบ จะเป็นอย่างไร น่าใช้หรือไม่ มาดูกันดีกว่า

ขอเริ่มจาก Panasonic Lumix GH5s

แรกเห็นของกล้องรุ่นนี้ ทำให้นึกถึงกล้อง Lumix GH5 ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจริงๆ แล้ว GH5s มีการเพิ่มคุณสมบัติในเรื่องการถ่ายวิดีโอให้ดีขึ้นกว่า GH5 แต่อาจจะต้องแลกกับบางสิ่งที่หายไป

แต่รูปร่างหน้าตานั้น เหมือนกับ GH5 แต่การตกแต่งเช่น วงแหวนสีแดงทีปุ่มเปลี่ยนโหมดการถ่ายภาพ พร้อมกับปุ่ม REC สำหรับถ่ายวิดีโอ เป็นแบบสีแดงทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนฟีเจอร์ข้างในมีการเพิ่มเติมมาได้แก่

• การถ่ายวิดีโอ 4K แบบ 60p/50p ไม่มีการลดความละเอียดลง โดยสามารถถ่ายได้ถึงแบบ 4:2:2 10bit ในระยะเวลาไม่จำกัด แถมรองรับวิดีโอ 4K HDR แบบ Flame less สูงสุดที่ 240 FPS เท่ากับวิดีโอ Slow Motion ทำได้ดีขึ้น
• การถ่ายวิดีโอ 4K รองรับค่าสีสูงสุด 14 bit
• มีเทคโนโลยี Dual ISO
• รองรับการถ่าย V LOG ด้วยการเพิ่มการ์ดทั้งหมด 2 ช่อง
• รองรับ HDMI Type A เหมือนกับช่องเสียบทีวี
• รองรับ Bluetooth และ WiFi 5GHz
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น
• รองรับช่องเสียบ XLR mic adaptor

เมื่อเทียบกับความสามารถของกล้องถือว่าเน้นเรื่องการถ่ายวิดีโอ พร้อมกับความละเอียดภาพ 20.3 ล้านพิกเซล จากเซนเซอร์ CMOS ถือว่าเป็นกล้องเน้นการถ่ายภาพวิดีโอ แต่ว่าเสียดายแค่มีการตัดระบบ Dual IS 2 หรือตัวช่วยกันสั่นสำหรับตัวกล้อง แต่คงเหลือแต่เลนส์เท่านั้น ไม่ได้เป็นอุปสรรค์ในการถ่ายภาพแต่อย่างใด

ส่วนราคายังไม่ได้เปิดเผยออกมาในตอนนี้ แต่ Panasonic Thailand บอกว่าใครอยากได้เจอกันในเดือน มีนาคม นี้ แต่ให้คาดเดาราคา มันก็ใกล้กับ GH5 นี่แหล่ะ

มาถึงรุ่นพระเอกอย่าง Panasonic Lumix G9

เป็นกล้อง Mirror Less เรือธงสำหรับการถ่ายภาพตัวจริงด้วยการปรับปรุงหลายจุด แถมนำมาเป็นตัวแทนของ Lumix GX8 และหน้าตาดูหล่อเอาการ พร้อมกับการออกแบบตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ Grip เพื่อทำให้จับได้ถนัดมือมากขึ้น และฝั่งซ้ายมีปุ่มกดและมีตัวเลื่อนว่าจะมีหลากหลายแบบ

ส่วนด้านบนมีจอภาพ Dot Matrix ที่บอกข้อมูลการตั้งค่ากล้องต่างๆ ครบครัน และสถานะต่างๆ ครบ ปุ่มกดนั้นคล้ายกับ GH5s แต่มีการยุบเมนูกับรูปแบบการถ่ายเป็นปุ่มเดียว แต่แทรงกัน 2 ฟังก์ชั่น

ด้านหลังมีหน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว พร้อมปุ่มกดที่ดูดีใช้ได้ แต่ว่า ถ้าเอาให้แตกต่างกว่าเพื่อน นั่นคือ View Finder ที่มีการขยายทำให้ใหญ่ขึ้น และปรับได้ 3 ระดับด้วยกัน และแบตเตอรี่เปลี่ยนด้านใต้ พร้อมกับช่องเสียบครบครัน และรองรับ SD Card ได้ 2 ช่อง

คุณสมบัติที่น่าสนใจและต้องลอง

เมื่อเป็นกล้องเรือธงจะมีลูกเล่นเรือธงที่น่าสนใจเลยทีเดียว และมีลูกเล่นที่ไม่ควรพลาดดังนี้

• ใช้เซนเซอร์แบบ Digital Live MOS 20.3 ล้านพิกเซล ไม่มี Low Pass Filter
• ใช้หน่วยประมวลผล Venus 10 ทำให้รองรับการถ่ายภาพ RAW File ความละเอียด 80 ล้านพิกเซล รองรับจุดโฟกัสถึง 249 จุด
• ระบบป้องกันภาพแบบ Dual IS 2 มาพร้อมกับกันสั่น 2 จุดคือ ตัวกล้องและเลนส์ที่รองรับ
• ถ่ายวิดีโอ Slow motion สูงสุด FHD แบบ 180 FPS
• ถ่ายภาพนิ่งได้ 6K ได้ 30 วินาที , ถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ APS ได้ที่ 60 FPS และรองรับ Depth from Defocus
• ช่องมองภาพ Live View ขนาด 21 มิลลิเมตร ทำให้ภาพที่ปรากฏใหญ่โตขึ้น
• แถมตัวเครื่องทำจากวัสดุ อะลูมิเนียม สามารถกันน้ำและกั่นฝุ่นละอองได้ แต่ห้ามไปแช่น้ำนะ
• รองรับ SD Card 2 ช่อง และรองรับ WiFi 5GHz และ Bluetooth ด้วย
• ตัวเครื่องสามารถชาร์จไฟระหว่างถ่ายภาพได้

เมื่อได้ลองใช้งาน ซึ่งในงานนี้ผมได้ใช้งานรุ่นนี้มากที่สุด พบว่าการจับของตัวเครื่องนั้นง่าย แม้ว่าน้ำหนักของเครื่องที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อน เพราะมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนและด้านอื่นๆ ไปด้วย แต่ก็เป็นกล้องอีกรุ่นที่จับได้ถนัดมือ และตัวกล้องสมดุล แต่ปุ่มชัตเตอร์ ทำงานค่อนข้างไวเกินไปหน่อย แต่ถ้าใช้ไปก็ชินไปเอง

ในเรื่องแบตเตอรี่อึดขึ้นใช้ได้ทั้งวันอย่างสบาย แต่ไม่พอก็สามารถชาร์จไฟได้ระหว่างวัน ไม่ต้องถอดแบตฯ

แต่ว่าในเรื่องคุณภาพของการถ่ายภาพ เป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะเมื่อมีการหน่วยประมวลผลใหม่ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น และแม่นยำแบบชัดเจน

แถมมีความลงตัวเมื่อใช้เลนส์ Leica 200 mm F2.8 รุ่นใหม่ล่าสุดที่ให้ภาพคมชัด ซึ่งราคาเลนส์ชุดนี้ยังไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด แต่คาดว่าขายในเดือนมีนาคมนี้

และมองถึงข้อเสียอยู่ที่เรื่องของการมีหน้าจอด้านบนกับปุ่มถ่ายวิดีโอใกล้กันจนบางครั้งคล่ำไม่เจอ, ฟีเจอร์บางอย่างยังถูกแอบซ่อน, ไม่มี SCN เพื่อปรับให้ถ่ายแบบเร่งด่วน ต้องปรับเข้าเมนูเท่านั้น

แต่ที่เหลือขอแปะไว้รอดูในรีวิวอีกครั้งดีกว่า

 

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Panasonic Lumix G9)

สรุปตัดความหลังลอง

Pansonic Lumix G9 เป็นกล้องเรือธงที่ทำให้หลายคนที่มองกล้อง Mirror Less ในกลุ่ม Micro Four Third แม้ว่าตัวเครื่องเล็กกว่า เซนเซอร์เล็กอาจจะไม่เหมาะกับบางคน แต่ว่าคุณภาพเดี๋ยวนี้สู้ได้หลายเจ้าแบบไม่ต้องกังวล ในราคา 89,990 บาท ที่มาพร้อมกับเลนส์ Leica 12 – 60 mm F2.8 – 4 พร้อมจำหน่ายแล้ว

แต่ถ้าใครอยากได้กล้องเปล่าอาจจะต้องรอในเดือนเมษายนในราคา 69,990 บาท แต่ถ้าใครคิดว่าแบตเตอรี่ไม่พอ ก็มีให้เลือกซื้อเพิ่มใน Battery Grip อีก 12,900 บาท

แล้วจะเลือกตัวไหนดีระหว่าง G9  และ GH5s ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน ถ้าเน้นการถ่ายวิดีโอจริงจัง GH5s จะลงตัวกว่า ถ้าต้องการถ่ายภาพนิ่งและต้องการความง่ายกว่า Lumix G9 ดีกว่า

สุดท้ายแล้วนี่ก็คือ 2 รุ่นใหม่ที่ต้องจับตาในการเลือกกล้องตัวต่อไปก็ไม่เลวเหมือนกัน