Samsung Galaxy S9 รวมทุกสิ่งที่ควรรู้ก่อนเปิดตัว กับภาพ Press Render พร้อมสเปก ก่อนเปิดตัว

Samsung Galaxy S9 รวมทุกสิ่งที่ควรรู้ก่อนเปิดตัว กับภาพ Press Render พร้อมสเปกของ Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 25 กุมภาพันธ์นี้

เหลือเวลาอีกเพียง 5 วันเท่านั้น กับการเปิดตัว Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ว่าที่มือถือเรือธงในซีรี่ส์ Galaxy S รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ และล่าสุด ได้มีการเผยภาพเรนเดอร์ทางการของทั้ง 2 รุ่น แบบครบทุกสี พร้อมกับสเปกออกมาให้ชมกัน

 

สำหรับดีไซน์ของทั้ง Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ยังคงเป็นดีไซน์แบบจอไร้กรอบ (Infinity Display) แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S8 โดยมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อยที่ด้านหลังตัวเครื่อง ด้วยการขยับตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้มาอยู่ด้านล่างของกล้องถ่ายรูป ส่วน Samsung Galaxy S9+ จะมาพร้อมกับกล้องคู่ (Dual-Camera) ส่วนสเปกของทั้ง Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มีรายละเอียดดังนี้

สเปก Samsung Galaxy S9

• หน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล (อัตราส่วน 18:5:9)
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 845 (สำหรับสหรัฐฯ และจีน) หรือชิปเซ็ต Exynos 9810 (สำหรับตลาดประเทศอื่น รวมถึงประเทศไทย)
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB แบบ UFS 2.1 รองรับ microSD Card
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/1.7
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F1.5 - F/2.4
• รองรับการถ่ายภาพแบบ Slow Motion ที่ 960 fps
• รองรับระบบสแกนม่านตา (Iris Scanner) และระบบจดจำใบหน้า
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
• รองรับการกันน้ำกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
• ลำโพงเสียง AKG
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C
• รองรับ Wi-Fi, 3G, 4G LTE และ Bluetooth 5.0
• แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว และการชาร์จแบบไร้สาย
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (Oreo) และอินเทอร์เฟส Samsung Experience 9.0 UI

 

สเปก Samsung Galaxy S9+

• หน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล (อัตราส่วน 18:5:9)
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 845 (สำหรับสหรัฐฯ และจีน) หรือชิปเซ็ต Exynos 9810 (สำหรับตลาดประเทศอื่น รวมถึงประเทศไทย)
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB แบบ UFS 2.1 รองรับ microSD Card
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/1.7
• กล้องคู่ด้านหลัง (Dual-Camera) ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล กล้องหลักรูรับแสง F1.5 - F/2.4 ส่วนกล้องรองรูรับแสง F/2.4
• รองรับการถ่ายภาพแบบ Slow Motion ที่ 960 fps
• รองรับระบบสแกนม่านตา (Iris Scanner) และระบบจดจำใบหน้า
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
• รองรับการกันน้ำกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
• ลำโพงเสียง AKG
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C
• รองรับ Wi-Fi, 3G, 4G LTE และ Bluetooth 5.0
• แบตเตอรี่ขนาด 3500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว และการชาร์จแบบไร้สาย
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (Oreo) และอินเทอร์เฟส Samsung Experience 9.0 UI

โดยทั้ง Samsung Galaxy S9 กับ Samsung Galaxy S9+ จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Coral Blue และ Lilac Purple ด้านราคาเปิดตัว คาดว่า จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมประมาณ 100 ยูโร หรือราว ๆ 3,900 บาท ส่วนราคาเปิดตัวในไทย คาดว่า จะเริ่มต้นที่ราว ๆ 27,900 บาท - gsmarena.com

3 คลิปทีเซอร์ล่าสุด! บอกใบ้สเปกกล้อง ทั้งฟีเจอร์ Slow-Motion และรูรับแสง F/1.5 พร้อมของเล่นใหม่ 3D emoji

เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว กับการเปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่ของ Samsung ช่วงต้นปี 2018 อย่าง Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ และเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนงานเปิดตัว ล่าสุด ทาง Samsung Mobile ประเทศเกาหลีใต้ ได้ปล่อยคลิปทีเซอร์ออกมาทั้งหมด 3 คลิปด้วยกัน ซึ่งทั้ง 3 คลิปนี้ บอกใบ้สเปกบางส่วนบน Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ อีกด้วย

สำหรับคลิปแรกนั้น เป็นคลิปเกี่ยวกับความเร็ว ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วของเครื่องบิน, คนเล่นสเกตบอร์ด, เสือชีตาร์กำลังวิ่ง และอื่นๆ จุดพีคอยู่ที่ท้ายคลิป กับการจับภาพของคนที่กำลังลอยตัวในอากาศ ซึ่งถ้าหากเป็นมือถือทั่วไปอาจจะจับภาพแบบนี้ไม่ทัน ซึ่งคลิปนี้ เดาได้ว่าคือการโปรโมตฟีเจอร์ Slow-Motion บน Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ นั่นเอง แต่ฟีเจอร์นี้จะมีคุณสมบัติอะไรบ้างนั้น ต้องติดตามกันต่อในงานเปิดตัว

ถัดมา เป็นคลิปเกี่ยวกับการถ่ายภาพในที่มืด แม้จะไม่บอกรายละเอียดมากนัก แต่จากข่าวลือก่อนหน้านั้นที่เผยว่า Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะมาพร้อมกับรูรับแสงกว้างสุดถึง F/1.5 อีกทั้งยังสามารถปรับขนาดของรูรับแสงได้ตามสภาวะของแสง ซึ่งคลิปนี้เป็นการตอกย้ำข่าวลือดังกล่าวให้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้นไปอีก

คลิปสุดท้าย เน้นการโฟกัสที่ใบหน้า ก่อนที่ช่วงท้ายคลิปจะมีการเปลี่ยนใบหน้าให้กลายเป็นตัวการ์ตูน ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นการเปิดตัวฟีเจอร์ 3D emoji ที่เพิ่งมีข่าวลือสด ๆ ร้อน ๆ ไปเมื่อวานนี้ ว่ากันว่า ฟีเจอร์ 3D emoji นั้น ล้ำหน้ากว่า Animoji บน iPhone X เสียอีก

สำหรับ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะมาพร้อมกับดีไซน์ในรูปแบบไหน รวมถึงสเปกและของเล่นใหม่อะไรบ้าง มาชมสรุปงานไปพร้อม ๆ กันกับงานเปิดตัว Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ วันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ เว็บไซต์ techmoblog รายงานสด - gsmarena.com

 

สรุปสเปก ฟีเจอร์เด่น และราคา Samsung Galaxy S9 และ S9+ ก่อนเปิดตัวทางการ 25 กุมภาพันธ์นี้

เป็นสมาร์ทโฟนที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ว่าที่มือถือเรือธงรุ่นถัดไป ที่ล่าสุด (25 ม.ค.) ทาง Samsung ได้ออกมาประกาศแล้วว่า Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะเปิดตัวในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้

โดยที่ผ่านมา ข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ นั้น มีอัปเดตกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของดีไซน์ และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ได้รับการอัปเกรดให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า โดยในวันนี้ ทีมงาน techmoblog จะมาสรุปความเป็นไปได้ของ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ซึ่งรวบรวมจากข้อมูลข่าวลือ ข่าวหลุดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา มีฟีเจอร์อะไรใหม่บ้างนั้น มาชมรายละเอียดกันเลยดีกว่า

 1) ดีไซน์ และการออกแบบ

สำหรับ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ นั้น จะยังคงถอดแบบการดีไซน์แบบ Metal-Glass มาจากรุ่น Samsung Galaxy S8 ที่ตัวเครื่องจะถูกผลิตจากวัสดุประเภทโลหะผสานกับกระจก ทำให้ตัวเครื่องดูมีความเงางามเรียบหรู พร้อมบริเวณมุมเครื่องที่มีความโค้งมนโอบรับกับมือผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว และคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ที่กันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร เป็นเวลานาน 30 นาที รวมไปถึงปุ่มเรียกใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ก็มีรายงานว่า จะยังคงมีให้ใช้งานเหมือนกับรุ่นก่อน

ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ จะยังคงอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง แต่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งมาไว้ที่ด้านล่างของกล้องด้านหลังแทน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้นนั่นเอง

 2. หน้าจอแสดงผล

Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ยังคงมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Infinity Display จอไร้กรอบ ไร้ปุ่มโฮม แต่คาดว่าจะมีการลดพื้นที่ขอบบนและขอบล่างให้เหลือน้อยลงกว่ารุ่นก่อน เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการแสดงผลให้ใหญ่เต็มตามากยิ่งขึ้น ซึ่ง Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะยังคงมาพร้อมหน้าจอขนาดเท่าเดิมที่ 5.8 นิ้ว และ 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล พร้อมสัดส่วนหน้าจอกว้างแบบ 18.5:9

 3. กล้องถ่ายรูป

จากข้อมูลอัปเดตล่าสุด ระบุว่า ทั้ง Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะชูจุดเด่นในเรื่องกล้องถ่ายรูปเป็นหลัก ซึ่ง Samsung Galaxy S9 จะเป็นกล้องเดี่ยว ส่วน Samsung Galaxy S9+ จะเป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) แต่ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับรูรับแสงกว้าง F/1.5 ซึ่งอัปเกรดจาก F/1.7 บน Samsung Galaxy S8 ทำให้รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น

และจากภาพหลุดกล่องแพ็กเกจ Samsung Galaxy S9 จะเห็นว่า มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล ซึ่งความน่าสนใจคือ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Super Slow-mo ที่มีข้อมูลจากวงในเผยว่า มีอัตราเฟรมเรทสูงสุดถึง 1000fps อีกทั้ง รูรับแสงยังสามารถปรับได้ถึง F/2.4 ตามสภาพแวดล้อมที่ใช้งานอยู่ในตอนนั้น ซึ่งการถ่ายวิดีโอที่มีอัตราเฟรมเรทสูงนั้น จำเป็นต้องมีรูรับแสงที่กว้างมากพอ จึงทำให้ข่าวลือที่ระบุว่า ทั้ง Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะมาพร้อมกับรูรับแสงกว้าง F/1.5 มีความเป็นไปได้มากขึ้น

 4) การประมวลผล

Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะมีการอัปเกรดชิปเซ็ตประมวลผลให้แรงกว่าเดิม ซึ่งคาดว่า จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 845 สำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ และจีน กับ Exynos 9810 ชิปเซ็ตที่ทาง Samsung พัฒนาเองสำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายทั่วโลก

โดย Samsung Galaxy S9 จะมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB และ ROM ขนาด 64 GB หรือ 128 GB ส่วน Samsung Galaxy S9+ จะมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB และ ROM ขนาด 64 GB, 128 GB หรือ 256 GB ซึ่งมีข่าวลือว่า Samsung Galaxy S9+ จะมีรุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับ ROM ถึง 512 GB แต่วางจำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น

สำหรับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 845 นั้น มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและการกินไฟที่น้อยลง เพื่อช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบ Image Processing ด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมชิปเซ็ตโมเด็มตัวล่าสุดของค่ายอย่าง X20 LTE ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อระดับ Gigabit

ด้านชิปเซ็ต Exynos 9810 เป็นชิปเซ็ตแบบ Octa-Core ประกอบด้วย ซีพียูประสิทธิภาพสูงจำนวน 4 คอร์ และแบบประหยัดพลังงานอีก 4 คอร์ ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 2.9 GHz สามารถประมวลผลแบบ Single-Core ได้เร็วกว่าเดิมถึง 2 gท่า และแบบ Multi-Core ก็มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเปรียบเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นก่อนหน้า ส่วนหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกเป็น Mali-G72 (18-Core)

นอกจากนี้ ชิปเซ็ต Exynos 9810 ยังรองรับการทำงานร่วมกับระบบ Deep Learning ไม่แน่ว่า Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ อาจจะมีของเล่นใหม่อย่างระบบ AI เพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน

5) กำหนดการเปิดตัว และราคาวางจำหน่ายในไทย

ล่าสุด (25 ม.ค.) ทาง Samsung ได้ส่งหมายเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเปิดตัว Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจัดขึ้นก่อนหน้างาน MWC 2018 เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น โดยจากหมายเชิญข้างต้น มีอักษรเลข 9 ซึ่งหมายถึง Samsung Galaxy S9 พร้อมคำโปรยเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูป ซึ่งคาดว่า ในปีนี้ Galaxy S-Series จะเน้นจุดเด่นด้านกล้องมากเป็นพิเศษ

จากสถิติการวางจำหน่ายมือถือในซีรี่ส์ Galaxy S ทุกปีที่ผ่านมาในไทย จะเห็นว่า มีแนวโน้มที่จะวางจำหน่ายหลังจากเปิดตัวไม่นานนัก ซึ่งถ้าหากอ้างอิงจากข้อมูลข้างต้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ Samsung Galaxy S9 จะวางจำหน่ายในไทยช่วงกลางเดือนมีนาคมเช่นกัน

ที่ผ่านมา ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมีแนวโน้มที่จะตั้งราคา มือถือเรือธง ของค่ายในระดับราคาที่สูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น iPhone X ที่มีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 41,000 บาท แต่จากการให้สัมภาษณ์ของบริหาร Samsung ในประเทศจีนเมื่อไม่นานมานี้ เผยว่า Samsung Galaxy S9 จะเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับมือถือเรือธงของแบรนด์อื่น จึงคาดกันว่า ราคาของ Samsung Galaxy S9 ไม่น่าจะแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าเท่าใดนัก เบื้องต้นนั้น คาดว่าน่าจะอยู่ที่ $749 สำหรับ Samsung Galaxy S9 และ $849 สำหรับ Samsung Galaxy S9+ ซึ่งราคาในไทยคาดว่า จะเริ่มต้นที่ราว ๆ 27,900 บาท

สำหรับข้อมูลข้างต้น ย้ำให้ทราบกันอีกครั้งว่า เป็นการรวบรวมข้อมูลจากข่าวลือ ข่าวหลุด และการวิเคราะห์ต่าง ๆ จากสื่อต่างประเทศ ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน จนกว่าจะได้รับการเฉลยอย่างเป็นทางการจาก Samsung แต่ก็เป็นที่น่าจับตามองว่า ทั้ง Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ จะมาพร้อมกับของเล่นใหม่อะไรบ้าง รวมถึงการอัปเกรดฟีเจอร์ให้ล้ำหน้ากว่ารุ่นเดิมมากน้อยแค่ไหน โดยทีมงาน techmoblog จะอัปเดตข้อมูลให้ทราบกันต่อไป