[Hands On] Vivo V9 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่ทุกคนรอคอย ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI อันฉลาดล้ำ
Vivo เปิดตัวสมาร์ทโฟน V9 อย่างเป็นทางการในไทย สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่ทุกคนรอคอย ล้ำกว่าด้วยหน้าจอแสดงผล FullView™ Display มองได้เต็มตาจุใจกว่าเดิมด้วยสัดส่วนหน้าจอแสดงผลถึง 90% ฉลาดล้ำด้วยเทคโนโลยี AI
เปิดประสบการณ์การมองเห็นใหม่ในดีไซน์เพรียวบางทันสมัย สมาร์ทโฟน V9 ตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการถ่ายภาพที่เพอร์เฟ็กต์ทุกช็อต และประสิทธิภาพการทำงานเหนือระดับ เพลิดเพลินกับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สเปคของ Vivo V9
- V9 มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว หน้าจอเป็นแบบ IPS Capacitive Touch Screen/ incell อัตราการแสดงผล 19:9
- มีขนาด 154.81×75.03×7.89 มิลลิเมตร
- หนัก 150 กรัม
- ฉลาดล้ำด้วยเทคโนโลยี AI
- รันบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 4.0 (Based on Android 8.1)
- ประมวลผลเร็วและแรงด้วยโพรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 626 octa-core
- หน่วยความจำ 4GB RAM และความจุ 64 ROM
- กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล (f2.0)
- กล้องหลังเลนส์คู่ 16 ล้านพิกเซล (f2.0) และ 5 ล้านพิกเซล
- ช่องใส่นาโนซิม 2 ช่อง และช่องใส่การ์ด microSD 1 ช่อง (Dual SIM Dual Standby)
- การเชื่อมต่อ USB (USB2.0), Wi-Fi, Bluetooth (Bluetooth 4.2), GPS, OTG, FM
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Ambient light sensor, Proximity Sensor, E-compass, (Virtual) Gyroscope
- แบตเตอรี่ 3150mAh
แกะกล่อง Vivo V9 อย่างเป็นทางการ
เริ่มดูกันที่กล่องกันก่อนเลย ภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานเบื้องต้นมาให้ครบไม่ว่าจะเป็น
- ตัวเครื่องสมาร์ทโฟน Vivo V9
- หูฟัง
- เอกสารประกอบการใช้งาน
- สาย USB (USB2.0)
- พาวเวอร์อแดปเตอร์
- อุปกรณ์ถอด SIM
- เคสโทรศัพท์ และ ฟิล์มกันรอย
มาต่อกันที่ รูปลักษณ์ภายนอกและการดีไซน์ ที่สะดุดตาด้วยหน้าจอไร้ขอบได้ตามคอนเซ็ปต์ หน้าจอแสดงผล FullView™ Display สนุกไร้ขีดจำกัด V9 มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว แต่ออกแบบให้มีความกะทัดรัดจับถนัดมือเหมือนโทรศัพท์ขนาด 5.5 นิ้วที่คุ้นเคยกันดี มีสัดส่วนหน้าจอแสดงผล 19:9 มองเห็นชัดขึ้นกว่าเดิมด้วยหน้าจอที่ขยายขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับรุ่น V7+ และขอบหน้าจอยังบางลง 19% มีความบางเพียง 1.75 มิลลิเมตร
ทางขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเพาเวอร์สำหรับพักหน้าจอหรือเปิดปิดตัวเครื่องและปุ่มเปิด-ปิด เสียง
ทางซ้ายตัวเครื่องเป็นตำแหน่งช่องสำหรับใส่นาโนซิม 2 ช่อง และช่องใส่การ์ด microSD 1 ช่อง
ขอบด้านบนของตัวเครื่องไม่มีอะไร
ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ตการเชื่อมต่อทั้งหมดอยู่ครบ ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร อยู่ทางซ้าย ตรงกลางเป็นช่องเสียบสาย USB (USB2.0) ขยับมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน และลำโพงเสียง
ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยตำแหน่งของรอยบาก(ที่เหมือนกับ iPhone X) และตำแหน่งของกล้องตัวหน้าที่มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล กล้องหน้าสุดคมชัดเหมาะสำหรับคนรักการถ่ายเซลฟี่
ล่างหน้าจอของไม่มีอะไรพิเศษเป็นปุ่มการสั่งงานเบื้องต้นในระหว่างที่เครื่องล็อกนั้นคือ การรับสาย ถ่ายรูปแบบลัด แบบ on-Screen ใช้งานง่าย
ด้านหลังประกอบด้วยฝาหลังของตัวเครื่องออกแบบผสมผสานความงามแบบสามมิติที่ลงตัว และมีความประณีตในทุกเหลี่ยมมุมเพื่อให้สัมผัสกระชับมือ ใช้งานถนัดและสะดวกสบาย นอกจากนี้ตัวเครื่องมี 2 สีคือ ดำเงา เป็นกระจกอย่างที่เห็น และ สีทองผิวด้าน
กล้องหลังเลนส์คู่ซึ่งตัวแรกมีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่สองมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชด้านหลัง นอกจากเรื่องของกล้องที่ดีแล้ว ในรุ่นใหม่นั้น Vivo พัฒนาเทคโนโลยี AI โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) และวิจัยเชิงลึกเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดีที่สุด บันทึกภาพได้สวยงามไร้ที่ติ
และยังสามารถถ่ายภาพเทคนิคโบเก้ (bokeh) ได้เหมือนกับใช้กล้อง DSLR โดยนำอัลกอริทึม AI Bokeh ซึ่งใช้ข้อมูลจากการเรียนรู้ของตัวเครื่อง จึงสามารถจับภาพวัตถุที่จะถ่ายได้อย่างแม่นยำ และมีการปรับโฟกัสที่เหมาะสมทำให้ได้ภาพที่สวยงาม
เสริมในส่วนของระบบปฏิบัติการ ที่ Vivo V9 ได้ เป็น Android 8.1 ใหม่ล่าสุดมือถือหลายรุ่นในราคาเดียวกันตอนนี้ยังได้ Android 7.0 อยู่ ถือว่า Vivo ปรับตัวได้เร็ว ข้อดีของการได้ Android 8.1 นอกจากดูทันสมัยแล้ว ยังมีดีในเรื่องของ เทคโนโลยีที่ใช้งานได้มาก และประหยัดไฟ ซึ่งส่วนนี้ไว้ตอนรีวิวจริง จะเล่าให้ฟังอีกครั้งในลำดับถัดไป
ต่อกันด้วยตัวอย่างจากกล้อง Vivo V9 จากการถ่ายจริง
ด้วยคุณสมบัติมากมายทั้ง AI ที่เรียนรู้การปรับปรุงพื้นหลังให้ดูดีมากขึ้น และควาทเร็วชัตเตอร์ สูงทำให้ถ่ายภาพได้เร็ว ทุกสภาพแสง แต่ว่า ยังพบว่าระบบโฟกัสมีหน่วงนิดหน่อย
และกล้องหน้าสมกับเป็นมือถือจีน ยังให้คุณภาพไม่ผิดหวังเช่นเคย และยังใส่ Effect AR เข้าไปในถาพได้ด้วย
สรุปความรู้สึกสั้นๆ หลังทดลองใช้งานจากทีมงาน Sanook! Hitech
หลังจากที่ได้ทดลองเล่น ในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้รับรู้ได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Vivo ถูกพัฒนามาเพื่อรองรับการใช้งานในหลายๆ ด้านได้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าจอแสดงผล FullView™ Display มองได้เต็มตาจุใจกว่าเดิม และการนำเทคโนโลยี AI ล่าสุดใส่เข้าไปทำให้ Vivo V9 มีความสามารถไม่น้อยหน้าใคร และอีกเรื่องที่ดูจะโดดเด่นคงไม่พ้นเรื่องของราคาที่เปิดมาในหลักหมื่นต้นๆ แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายๆ ค่ายถือว่าสามารถเคาะราคาได้น่าสนใจไม่น้อยครับ
Vivo V9 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มีให้เลือก 2 สี คือ Pearl Black (สีดำ) และ Gold (สีทอง) ราคา 10,999 บาท พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการคือวันที่ 30 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ส่วนรีวิวจริงนั้น รอติดตามได้ที่ Sanook! Hitech เร็วๆ นี้ ส่วนตอนนี้สามารถอ่าน [Hands On] Vivo V9 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่ทุกคนรอคอย ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI อันฉลาดล้ำ เรียกน้ำย่อยได้ที่นี่