รีวิวการ redeem จากบัตรเครดิตแบงค์ดัง ก่อนเข้ายุคธนาคารดิจิตอล
ถึงยุคที่แบงค์ต้องปรับตัวเพื่อรับการเงินแบบดิจิทัลกันแล้ว คำถามคือจะมีกี่แบงค์ในประเทศไทยที่จะรอด ไม่ใช่ว่ามีเงินเยอะ หรือมีฐานลูกค้าเยอะ ประสบการณ์มีให้เห็นแล้ว ลูกค้าทั่วโลกอย่าง โนเกีย ถึงเวลาเปลี่ยนเทคโนโลยี ลูกค้าเก่าก็พร้อมเมิน ครั้งนี้เรามาดูความพร้อมจากตัวอย่างการ Redeem Point หรือการแลกแต้มกัน
www.istockphoto.com
เมื่อสองสามเดือนก่อน แบงค์ไทยสร้างความฮือฮา ลดค่าธรรมเนียมการโอนเกือบทั้งหมดเป็น 0% แบงค์ใหญ่ทุกแบงค์ต่างเล่นกันหมด แต่ก็พยายามอยู่บนเงื่อนไขว่าลูกค้าควรจะโอนผ่านแอพพลิเคชั่นของแบงค์ นี่เป็นการส่งสัญญาณใหญ่ให้รู้ว่า การหารายได้จากแบงค์จะเปลี่ยนไปแล้วนะ และเทคโนโลยีใหม่จะมาแล้ว ที่สำคัญจะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคครั้งใหญ่เลยทีเดียว
เทคโนโลยีที่คุกคามแบงค์มากที่สุดในวันนี้คือ Blockchain เพราะเทคโนโลยีนี้จะตัดตัวกลางอย่างแบงค์ทิ้งไป เป็นการเปลี่ยนระบบตัวกลางคุมศูนย์กลาง หรือ Centralize มาเป็นทุกคนคือศูนย์กลาง ไม่ต้องมีตัวกลาง หรือ Decentralize นั่นเอง
Blockchain กับแบงค์จะยังคงรบรากันต่อไปอีกระยะหนึ่ง อะไรจะอยู่บ้าง อะไรจะตายบ้าง อีกสามปีเรามานับศพกัน
ปัญหาของแบงค์ไม่ได้อยู่ที่การจะรับ Blockchain หรือไม่ ยังไงแบงค์ต้องหาทางเอา Blockchain มาอยู่ในธุรกิจตัวเองอยู่แล้ว รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าใครจะช้าจะเร็วเท่านั้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่จะไปหรือไม่ แต่จะกล้าตัดใจทิ้งระบบเดิมที่ลงทุนด้านไอทีไปอย่างมหาศาล เพื่อสร้างระบบ Centralize รวมศูนย์ ไปได้อย่างไร หรือจะเป็นการลงทุนให้ระบบเก่ากับระบบใหม่มาตัดกันในจุดที่เหมาะสมตรงไหน ใครลงทุนของเดิมไปมากก็เจ็บตัวมาก
นั่นเป็นเรื่องของอนาคต เอาเรื่องปัจจุบันมาคุยกัน มารีวิวกันดีกว่า เงื่อนไขการรีวิวของผม คือ การถือบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ ไว้มาก ถือว่าเป็นคนมีเครดิตดี แบงค์ต่างๆ ก็พร้อมจะปล่อยเครดิตให้ผมได้ใช้จ่ายเงินเยอะๆ แต่ผมไม่เคย redeem point หรือเอาคะแนนสะสมจากการใช้จ่ายผ่านบัตรไปใช้ประโยชน์เลย วันนี้เลยถึงเวลาการเอาแต้มมาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง ทั้งหมด แบบไม่เหลือแต้มในเครดิตเลย
ผมรีวิวครั้งนี้ด้วยการเลือกเวลาเที่ยงคืน เพื่อให้ผมกลายเป็นคนยุคใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพาสาขาหรือเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ไม่พึ่งพาระบบคอลเซ็นเตอร์ที่มีคนอยู่ ผมจะแลกแต้มทั้งหมดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีให้บริการในปัจจุบัน
ก่อนอื่นต้องบอกว่า แต้มบัตรเครดิตนั้นก็มาจากการถือบัญชีเงินฝาก และก็ทำบัตรเครดิตไปพร้อมกัน ปกติธุรกิจบัตรเครดิตทางสถาบันการเงินก็จะตัดเปอร์เซ็นต์จากเจ้าของสินค้าที่เราซื้อ ปกติก็ประมาณ 3-4% หลังจากนั้นสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าของบัตรก็จะตัดส่วนแบ่งที่ได้มาให้กับเราประมาณ 1% ของยอดซื้อ เบื้องต้นก็ตามนี้ คราวนี้มาดูรีวิวกัน
www.istockphoto.com
แบงค์แรกคือ SCB หรือไทยพาณิชย์ อันนี้บอกเลยถือเป็นธนาคารอันดับหนึ่งทางด้านการสร้างระบบดิจิทัลแบงค์กิ้งในปัจจุบัน ใครฝากเงิน ทำบัตรเครดิตกับแบงค์นี้ก็ใช้ SCB easy จัดการได้หมดครบในแอพฯเดียว การแลกแต้มครั้งนี้ทำได้อย่างง่ายดายเพียง 3-4 คลิ๊ก ทุกอย่างจบกระบวนความ ผมก็ได้หม้อทอด มาหนึ่งใบ ของแลกแต้มก็มีมาตามฐานะอันสมควร ไม่ถึงกับเห่ย แต่ไม่ถึงกับเลิศหรู ถือเป็นของใช้ที่ยอมรับได้ การ redeem หรือการทำธุรกรรมทั้งหมดทำได้ 24 ชั่วโมง เมื่อไหร่ก็ได้ เอาไปเต็ม 10
แบงค์ที่สอง คือ TMB หรือทหารไทย ที่กำลังจะหาเรื่องไปรวมกับ KTB หรือกรุงไทยในเร็วๆ นี้ แอพฯของแบงค์นี้จะบอกว่าง่ายก็ง่าย ยากก็ยาก นั่นคือการบริการผ่านแอพฯมือถือ มันไม่สามารถทำได้ทั้งวัน มันทำได้เฉพาะเวลาการทำการปกติ การทำรายการผ่านแอพนอกเวลาทำการมันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน นั่นส่งผลให้การ redeem ของผมตอนกลางดึกไม่สามารถทำได้ ต้องมาทำเอาตอนเช้า พอทำเช้าจริงๆ ของให้เลือกแลกแต้มก็แทบจะไม่มี ดูเหมือนคนที่ดูธุรกิจนี้ของ TMB ไม่ได้ให้ความสนใจกลุ่มลูกค้าของตนเองสักเท่าไหร่ หลายๆ บริการทำผ่านแอพฯมือถือไม่ได้ แต่ก็ไม่มีลิงค์ไปเว็บไซต์ ความขี้เกียจก็เลยเข้ามาในชีวิต ดังนั้นผมก็ตัดสินใจเลือก Cash back และไม่เลือกไมล์ มันทำได้เท่านี้จริงๆ เอาไป 5 คะแนน
แบงค์ที่สาม UOB เป็นแบงค์ที่ผมไม่ได้โหลดแอพฯ ไว้ติดมือถือ จริงๆ ก็ยังไม่รู้เลยว่าแบงค์นี้มีแอพฯ มือถืออยู่หรือไม่ แต่เมื่ออยากเอาแต้มออกมาใช้ให้หมดก็เลยเข้าไปที่เว็บไซต์ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเว็บยูโอบีไม่มีรายการ cash back หรือคืนเงินให้เลือก ซึ่งก็ไม่ตกใจเท่าไหร่ โชคดียังมีของหลากหลายให้ได้เลือก ก็เลือกกันไป แต่ที่สำคัญคือคนที่เคยเข้าไป redeem ในเว็บไซต์นี้จะรู้กันว่า การทำรายการ สินค้าโน่นนี่ จะเหมือนเดิม กี่ปีก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรใหม่ เอาเป็นว่าเว็บสะดวกการเลือกไม่มาก กี่ปีก็เหมือนเดิม เอาไป 5 คะแนน
แบงค์ที่สี่ BAY หรือธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นอีกหนึ่งแบงค์ที่ผมคาดหวังมาก หลังจากที่แบงค์ไปกว้านบรรดาฟินเทคชื่อดังมาเข้าสังกัด แต่ในความเป็นจริงผมก็ยังไม่กล้าโหลดแอพมือถือของธนาคารนี้มาใช้ ดังนั้นจึงต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ของธนาคาร บอกเลยเว็บของธนาคารนี่ Static มากๆๆๆๆๆ จะเปลี่ยนหมวดสินค้าที่เลือกต้องกด back กลับไปอย่างเดียว คนออกแบบเว็บนี่คงต้องไปเรียนมาใหม่ และที่สำคัญผู้บริหารของธนาคารคงไม่เคยเข้ามาใช้งาน ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ข้อผิดพลาดของเว็บตัวเอง นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ของการเข้าสู้ยุคดิจิตอลของแบงค์เลย คือถ้าผู้บริหารไม่มีความรู้เรื่องนี้ ต่อให้มีคนเก่งในมือก็คงเปลี่ยนแปลงยาก สำหรับกับ BAY ผมมีคะแนนไม่มาก ของที่แลกไม่โดน แต่ก็สามารถทำทุกอย่างได้ ผมถือว่าสอบผ่านเหมือน 3 เจ้าข้างบน เอาไป 5 คะแนน
แบงค์ที่ห้า KTC ผมนับเอาว่าเป็นแบงค์แล้วกัน เพราะบัตรเครดิตนี้ใช้กันเยอะมาก ล่าสุดก็ออกแอพฯมือถือมา ต้องบอกเลยว่าแอบปลื้ม ระบบนี้ ซีเคียวริตี้สูง เชื่อมต่อกับอีเมล์ได้ดี ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ทันสมัย หน้าตาชนะเลิศ ถ้าไม่นับเรื่องการมีเงินฝากเหมือนแบงค์ปกติ ที่เมื่อทำแอพฯมาแล้วจะมีความซับซ้อนกว่า ยากกว่า ก็ต้องให้คะแนนไป 10 เต็มเช่นกัน
แบงค์ที่หก K-Bank ก็ธนาคารกสิกรไทยนั่นแหละ แบงค์นี้ช่วงเป็นธนาคารดิจิทัลช่วงแรกนี่แซงเลย เหนือกว่าแบงค์อื่นไปมาก แต่หลังจากที่คนอื่นเขารุกเต็มสูบ เคแบงค์กลับนิ่งสนิทโดนแซงแล้วแซงอีก การ redeem ครั้งนี้ผมไม่ได้ใช้แอพฯมือถือ ตรงดิ่งไปที่เว็บเลย และผลออกมาจึงน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ของให้เลือกแทบไม่มี ของโบราณ มีแต่ข้อมูลไม่จำเป็นต่อการ redeem เห็นแล้วมีทางเลือกเดียวคือต้องทำ cash redeem หรือแลกแต้มเป็นเงินสดกลับ ปรากฎว่าระบบต้องให้ส่ง SMS เอิ่มนี่มันระบบดิจิตอลตรงไหน ไม่แน่ใช้แอพฯอาจจะง่ายกว่านี้ เอาไป 3 คะแนน
แบงค์สุดท้าย BBL หรือธนาคารกรุงเทพ นี่คือสุดยอดความโบราณ คือหาที่ redeem ไม่เจอ เข้าเว็บอยู่เป็น 10 นาทีเลยต้องยกเลิกแบบเพลียใจ สุดท้ายต้องใช้เสิร์ชเอ็นจิ้นค้นหา ผลปรากฎว่า ต้องโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ตามชนชั้นของบัตรที่ถืออยู่ เสร็จแล้วดาวน์โหลดแบบฟอร์มมากรอกแล้วส่งแฟกซ์ ครับไม่ผิด ส่งแฟกซ์ หรือไม่ก็ส่งทางไปรษณีย์ เอาคะแนนไป 0 จากผมเลย
จบครับ การรีวิวครั้งนี้ ผมไม่ต้องการบอกว่าของใครดีไม่ดี เพราะหากจะพัฒนาแค่ข้ามคืนการบริการพวกนี้ก็ทำเสร็จกันได้ แต่มันอยู่ที่การใส่ใจในลูกค้า ผมเชื่อว่าถ้าไม่ปรับตัว การที่ธนาคารดิจิตอลเข้ามารุกเต็มตัวเมือ่ไหร่ แบงค์ที่ไม่เคยมองลูกค้ารายย่อยอยู่ในสายตาก็เตรียมตัวตายไปเถอะครับ