รีวิว Fitbit Versa สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์สวย กันน้ำลึกได้ 50 เมตร

รีวิว Fitbit Versa สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์สวย กันน้ำลึกได้ 50 เมตร

รีวิว Fitbit Versa สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์สวย กันน้ำลึกได้ 50 เมตร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยแล้วสำหรับ Fitbit Versa (เวอร์ซ่า) นาฬิกาเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย Fitbit Versa ถือเป็นสมาร์วอทช์ที่เบาที่สุดของทางฟิตบิท ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัย อัดแน่นด้วยฟีเจอร์เพื่อสุขภาพและฟิตเนส และแน่นอนว่าทางทีมงาน Sanook! Hitech ไม่พลาดที่จะนำเครื่องมารีวิวให้ได้อ่านกันอีกเช่นเคย

Fitbit Versa

มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Fitbit 2.0 เล่นได้ทั้งบน App Store, Google Play และ Windows Store นั้นถือเป็นอีกจุดเด่นของ เพราะไม่ว่าเราจะใช้สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการตัวไหนก็สามารถทำงานร่วมกันได้ ทำให้สามารถสั่นและแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและแสดงแจ้งเตือนจากทุกแอปในสมาร์ทโฟนได้

p5160327Fitbit Versa

Fitbit Versa

เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Fitbit OS 2.0 ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพและฟิตเนสประจำวันและประจำสัปดาห์ได้ในทุกที่ หน้าจอที่ได้รับการออกแบบใหม่ แสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พร้อมทิปส์และเทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รักษากรอบการออกกำลังและทำได้สำเร็จตามเป้า

ฟีเจอร์ Fitbit Coach

เป็นโปรแกรมช่วยแนะนำการออกกำลังที่ปรับให้เหมาะกับคุณ การติดตามอัตราการเต้นของหัวใจด้วยเทคโนโลยี Pure Pulse ที่ปรับปรุงใหม่ โหมดเพื่อการออกกำลังกายกว่า 15 แบบ ที่รวม ถึงโหมดการติดตามการว่ายน้ำแบบอัตโนมัติ การติดตามภาวะการนอนอัตโนมัติ และสามารถกันน้ำลึกได้ 50 เมตร

ฟีเจอร์ใหม่ของ Fitbit Versa

ฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมเข้ามาเรียกได้ว่าเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวขายในท้องตลาดบ้านเรา คือ

• การตอบกลับเร็ว (Quick replies): ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์จะสามารถส่งข้อความตอบได้ทุกที่ด้วยสมาร์ทวอทช์ Fitbit Versa และ Fitbit Ionic ด้วยการสร้างและส่งข้อความไม่เกิน 60 ตัวอักษรที่เตรียมไว้ล่วงหน้า สำหรับส่งข้อความบนมือถือ หรือผ่านแอปฯ การสนทนา (Messenger) ต่างๆ เช่น WhatsApp และ Facebook Messenger

• การติดตามสุขภาพสำหรับคุณผู้หญิง (Female health tracking): สำหรับผู้ใช้งานที่เป็นผู้ใหญ่ ที่ระบุเพศหญิงไว้บน Fitbit app จะสามารถติดตามรอบเดือนและอาการต่างๆ ของตนได้ ช่วยให้ดูแลรอบเดือนได้ง่ายยิ่งขึ้น

• ภาพรวมข้อมูลสุขภาพและฟิตเนสได้ครบในที่เดียว ผู้ใช้ Versa และ Ionic ยังสามารถดูข้อมูลการติดตามสุขภาพของคุณผู้หญิงได้จากอุปกรณ์นี้ด้วย 

นอกจากนี้ Fitbit Versa ยังอัดแน่นไปด้วยสมาร์ทฟีเจอร์มากมาย อาทิ การแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ปฏิทิน การเตือนสายเรียกเข้าและข้อความจากโทรศัพท์มือถือ แอปฯ มีให้เลือกใช้ฟรีมากมายจากคลังแอปฯ ของฟิตบิท ทั้งจากแบรนด์ยอดนิยมกว่า 650 แบรนด์ แอปฯ โดยนักพัฒนาและ Fitbit Labs  รวมถึงหน้าปัดนาฬิกาที่เลือกดาวน์โหลดและปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ

p5160321Fitbit Versa
คุณสมบัติเบื้องต้นของ Fitbit Versa (เวอร์ซ่า) 

  • ตัวเครื่องทำจากวัสดุอลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักเบา
  • หน้าจอระบบสัมผัสและใช้กระจกคุณภาพสูง Corning Gorilla Glass 3
  • เซ็นเซอร์วัดชีพจรแบบออปติคอล ที่ออกแบบโดยทีมงาน Fitbit
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Fitbit OS 2.0
  • ทำงานได้ทั้งบน App Store, Google Play และ Windows Store
  • กันน้ำลึกได้ 50 เมตร

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ Fitbit Versa(เวอร์ซ่า) มีอะไรบ้าง มาดูกัน

p5230028อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ Fitbit Versa

  • Fitbit Versa ติดตั้งมาในสายขนาด S
  • สายสำรอง เฉพาะด้านรูสาย (ขนาด L) และสายแบบคลาสสิกสีดำ
  • แท่นชาร์จ (USB)
  • สมุดคู่เริ่มต้นใช้งาน

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องและการออกแบบดีไซน์ Fitbit Versa(เวอร์ซ่า) 

สำหรับเครื่อง Fitbit Versa รุ่นใหม่ล่าสุดมีสีให้เลือกใช้งานทั้งหมด 5 สีด้วยกัน คือ รุ่นพิเศษ สีดำกราไฟท์ (สายผ้าทอ สีดำถ่าน), สีโรสโกลด์ (สายผ้าทอ สีม่วงลาเวนเดอร์) และแบ่งเป็นรุ่นธรรมดาอีก 3 สีได้แก่ สีดำ, สีพีช และสีเทา

สำหรับรุ่นที่ทางทีมงานได้มาทดลองเล่นในวันนี้ เป็นรุ่นพิเศษซึ่งตัวเรือนสีดำกราไฟท์ ส่วนอีกสีเป็นตัวเรือนสีทองโรสโกลด์

p5160335หน้าจอใช้กระจกคุณภาพสูง Corning Gorilla Glass 3

หน้าจอรองรับระบบสัมผัสและใช้กระจกคุณภาพสูง Corning Gorilla Glass 3 ทำให้หน้าจอทนทาน ทำให้มีริ้วรอยยากขึ้น และยังแสดงภาพได้ชัดเจนแม้แดดจัด ทำให้เราสามารถใช้งานกลางแดดได้สบายมาก

ส่วนของหน้าจอถูกออกแบบตัวเรือนในรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัดขอบให้โค้งมน ทำให้จับแล้วรู้สึกเป็นของที่มีราคา และหน้าปัดนาฬิกามีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบเข็มและดิจิตอล แบบที่แสดงข้อมูลเยอะๆ ก็มีให้เลือก เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ

p5230043หน้าจอรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัดขอบโค้งมน

การดีไซน์ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้ของค่ายไหน วัสดุที่นำมาผลิตดูพรีเมี่ยม ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งมีน้ำหนักเบาทำให้สวมใส่ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกฝืนข้อมือ

p5230061

นอกจากนี้เรายังเลือกเปลี่ยนสายได้สะดวกด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือใดๆ การปรับเปลี่ยนสายก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ไม่ยาก เท่าที่เคยรีวิวมา ตัวนี้เปลี่ยนง่ายสุดแล้วแค่กดที่ข้อของสายแล้วดึงออกแบบเบาๆ แต่ตอนใส่สายอย่าลืมเช็คดีๆ นะว่ามันล็อกแล้วจริงๆ ไม่งั้นจะหลุดหายได้ง่ายๆ

p5230063

สายแบบถักสีดำชาร์โคล กรอบอลูมิเนียมสีกราไฟต์

p5230064
มีสายสายสำรองซึ่งเป็นซิลิโคนคลาสสิกสีดำมาให้เปลี่ยน

p5230030

ด้านหลังตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์วัดชีพจรผ่านข้อมือที่คิดค้นและพัฒนาจากทีมงาน Fitbit โดยตรง ซึ่งให้ความแม่นยำและเที่ยงต้นที่สุด เซ็นเซอร์วัดชีพจรแบบออปติคอล เทคโนโลยีที่คิดค้นจาก Fitbit และที่เสียบสายชาร์จ

p5230042เซ็นเซอร์วัดชีพจร และ ที่เสียบสายชาร์จ ด้านหลังตัวเครื่อง

ควบคุมด้วยระบบสัมผัสและ 3 ปุ่มควบคุมที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่องทั้งซ้ายและขวา ในการควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่ใช้งานง่ายไหลลื่น ส่วนปุ่มมีให้เลือกใช้งานแทนการสัมผัสหน้าจอ เพื่อเข้าเมนูลัด หรือ การเริ่ม/หยุด ขณะออกกำลังกาย

p5230058ตัวเครื่อง Fitbit Versa ด้านขวา

p5230059ตัวเครื่อง Fitbit Versa ด้านซ้าย

แบตเตอรี่เมื่อชาร์จเต็มสามารถสแตนบายได้สูงสุดถึง 4-5 วัน ถือว่าอยู่ได้อึดอยู่

p5230038 Fitbit Versa

ต่อกันด้วยส่วนของ แท่นชาร์จ รูปแบบการชาร์จของ Fitbit Versa จะแตกต่างกับ Fitbit Ionic ที่ใช้สายชาร์จระบบแม่เหล็ก แต่ใน Versa เลือกใช้แท่นชาร์จที่โดยบริเวณฐานเป็นตัวหนีบสำหรับการล็อคตัวเรือน โดยรวมงานง่ายกว่ารุ่นก่อนๆ

p5230029

p5230035

ก่อนนำตัวเครื่องเข้าชาร์จแบตต้องบีบที่ชาร์จก่อน หากไม่จำเป็นอย่ายัดตัวเครื่องลงไปเลย เพราะอาจทำให้ตัวเครื่องด้านข้างเป็นรอย เป็นตำหนิได้

p5230036

แหน่งที่ใช้บีบก่อนชาร์จ

p5230034

ทดลองใส่บนข้อมือ(สำหรับข้อมือทีใช้ในงานรีวิวเป็นของผู้หญิง) ตัวเรือนเมื่ออยู่บนข้อมือ

p5230068

ระบบล็อกของสายสมาร์ทวอทช์เมื่อทำการสวมใส่สำหรับในรุ่นใหม่จะมีระบบล็อกสองชั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องการหลุดหาย มั่นใจได้เลยว่าล็อกแน่นอยู่ที่ข้อมือแน่นอน

p5230065 ระบบล็อกของสาย Fitbit Versa

เปิดเครื่องทดลองใช้งาน Fitbit Versa(เวอร์ซ่า) เบื้องต้น

  • โหลดโปรแกรม Fitbit สามารถใช้งานได้ทั้งเวอร์ชั่น Windows, iOS, Android 
  • เมื่อโหลดเรียบร้อยให้เปิดเครื่องและเชื่อมต่อ Bluetooth แนะนำว่าก่อนทำขั้นตอนนี้ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อน
  • เมื่อมือถือกับ Fitbit ได้เจอกันแล้ว ให้เชื่อมต่อกับ WiFi หากเป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้การโอนข้อมูลบางอย่างทำได้เร็วขึ้นเช่นการปรับหน้าฟังเพลง
  • เครื่องสามารถอัปเดท Firmware สำหรับปรับปรุงความสามารถหรือแก้ปัญหาทีส่งมาเพื่อแก้ไขได้

การเชื่อมต่อกับมือถือขึ้นต้นทำไม่ยาก ทำตามขั้นตอนที่แนะนำไปเรื่อยๆ ก็เสร็จ สำหรับคนที่เคยใช้ Fitbit ถือว่าง่าย แต่ถ้าไม่คุ้นเคยอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย

wm_2018_2_w7001

หลังจากทำการเชื่อมต่อเสร็จ เราสามารถเล่นผ่านตัวเครื่อง Fitbit Versa ได้เลย โดยเบื้องต้นฟังก์ชันพื้นฐานยังมีมาให้อย่างครบครัน

p5230044

p5230056

p5230057

p5230054

p5230055

ตัวอย่างการทำงานผ่านแอปพลิเคชั่น ซึ่งเราสามารถดูค่าต่างๆ ผ่าน App จะดูได้ละเอียดกว่า

wm_2018_2_w700

Fitbit Versa รุ่นใหม่ยังคงมี มีโค้ชส่วนตัวพร้อมโปรแกรมออกกำลังกายให้เราเหมือนในรุ่น Fitbit Ionic

โดยจะมีโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้งานพื้นฐานมากกมาน ไม่ว่าจะเป็น โดยมีโหมดการออกกกำลังกายค่อยข้างครบเช่น การวิ่ง, ปั่นจักรยาน และอื่นๆ  ซึ่งคุณสามารถสั่งเปิดได้เจาก Apps หรือกดสั่งเปิดง่ายๆ  ที่ตัวนาฬิกาได้ทันที แถมหน้าจอยังเป็นสีที่สวยงามไม่น้อย

p5230045

p5230051

p5230050

p5230049

p5230048

p5230047

p5230046

เก็บเพลงบนนาฬิกาได้มากถึง 300 เพลง โดยฟังเพลงจากหูฟังบลูทูธ การเอาเพลงลงในเครื่องก็ไม่ยาก สามารถทำโดยการลงผ่านโปรแกรม Fitbit Connect บนคอมพิวเตอร์ สามารถโหลดเพลงมาเก็บไว้ในเครื่องได้สูงถึง 300+ เพลง( พื้นที่เก็บเพลงภายในนาฬิกา 2.5GB) ขั้นตอนการฟังก็ง่ายๆ เพราะสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธเพื่อฟังเพลงได้เลย และเรายัง เราสามารถเลือกควบคุมเครื่องเล่นเพลงได้จากตัว Fitbit ได้เลย

p5230052

นอกจากนี้ ฟิตบิท เวอร์ซ่า ยังมีระบบชำระเงิน Fitbit Pay ที่ได้รับการรับรองจากธนาคารพาณิชย์และบัตรเครดิตชั้นนำกว่า 60 รายใน 15 ประเทศ และเสียงเพลงบนนาฬิกาเพื่อสร้างแรงจูงใจจาก Deezer  หรือเพลย์ลิสต์ส่วนตัวคุณ โดยมาพร้อมกับแบตเตอรีที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 4 วันiii  โดยฟิตบิท เวอร์ซ่า สามารถใช้ร่วมกับระบบแอนดรอยด์ iOS และวินโดวส์  

img_3626_1524818041

ฟิตบิท เวอร์ซ่า มีวางจำหน่ายแล้วที่ B2S ร้านดอทไลฟ์ คิงพาวเวอร์ พาวเวอร์บาย วีมาร์ท และลาซาด้า ในราคา 8,490 บาท สำหรับสีดำ พร้อมกรอบดำอลูมิเนียม และสีเทา พร้อมกรอบเงินอลูมิเนียม หรือสีพีช พร้อมกรอบโรส โกลด์ อลูมิเนียม และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ราคาตั้งแต่ 1,090 บาท ถึง 3,290 บาท

ส่วนฟิตบิท เวอร์ซ่า รุ่นสเปเชียล เอดิชั่น ราคา 9,490 บาท มาพร้อมกับสายแบบถักสีลาเวนเดอร์ กรอบอลูมิเนียมสีโรสโกลด์ หรือสายแบบถักสีดำชาร์โคล กรอบอลูมิเนียมสีกราไฟต์ โดยทั้งสองแบบจะมาพร้อมกับสายแบบคลาสสิกสีดำ เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้มีกิจกรรมที่แอคทีฟร่วมกัน ฟิตบิทเตรียมเปิดตัวฟิตบิท เอซ (Fitbit Ace) สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพสำหรับเด็ก ๆ เป็นครั้งแรก ภายในไตรมาส 2 ของปี 2561 นี้ 

สรุปผลหลังทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ทดสอบและลองเล่น ฟิตบิท เวอร์ซ่า มาสักระยะ

หลังจากได้ลองใส่ Fitbit Versa สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ออกกำลังกายมาสักระยะ รู้สึกได้ว่าเวลาใส่แล้วมันให้ความรู้สึกเหมือน Versa คือ Apple Watch 38 mm พอสมควร แต่ Fitbit Versa กลับมีจุดเด่นในเรื่องของแบตเตอรี่ยาวนานกว่า ชาร์จครั้งหนึ่งอยู่ได้ประมาณ 4 วัน และอย่างที่บอกว่าในรุ่นใหม่ชูจุดเด่นในเรื่องของสุขภาพของคุณผู้หญิง ทำให้มันดูมีประโยชน์มากกว่าเป็นแค่ สมาร์ทวอทช์ออกกำลังกายทั่วๆ ไป สำหรับผู้หญิงการมีอะไรมาช่วยในการจดจำรอบเดือนมันวิเศษมากๆ เลยละ

และที่อีกอย่างคือ Fitbit Versa มันสามารถตรวจจับจากการเคลื่อนไหวในขณะนอนหลับและการเต้นของหัวใจเพื่อดูว่าเรามีช่วงหลับตื้น หลับลึกได้ออกมาอย่างแม่นยำ

p5160330

สรุปจุดเด่นของ Fitbit Versa

  • ด้วยดีไซน์ที่ออกแบบมาเล็กกว่า Fitbit Ionic ทำให้เหมาะกับผู้หญิงและข้อมือเล็ก
  • แบตเตอรี่เมื่อชาร์จเต็มใช้งานได้สูงสุดถึง 4-5 วัน
  • สามารถปลี่ยนสายเองได้
  • ยังคงกันน้ำได้เหมือนเดิม(กันน้ำได้ 50 เมตร)
  • ติดตามสุขภาพคุณผู้หญิง บันทึกระยะเวลาติดตามการตกไข่ (Female Health Tracking)
  • เล่นได้ทั้งบน App Store, Google Play และ Windows Store

สรุปจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมหากต้องการซื้อหามาใช้งาน

  • Versa ไม่มี GPS ต้องใช้งาน GPS คู่กับสมาร์ทโฟนผ่าน Fitbit App เท่านั้น
  • การเอาเพลงลงเครื่องค่อนข้างยุ่งยาก เพราะต้องทำผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น ทำผ่านมือถือไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook