[Hands On] "Vivo X21" สมาร์ทโฟนสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอรุ่นแรกของโลก หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราแล้ว สำหรับ "Vivo X21" สมาร์ทโฟนสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอรุ่นแรกของโลก สำหรับ Vivo X21 รุ่นใหม่มาพร้อมกับการดีไซน์จอไร้ขอบพร้อมรอยบาก และดูหรูหราไม่แพ้ Vivo V9 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

ซึ่งทางทีมงาน Sanook! Hitech ก็ไม่พลาดที่จะทำการพรีวิวให้แฟนๆ ได้อ่านกันก่อนเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนตัดสินใจซื้อหาไว้ใช้งานและใครที่อยากลองเล่นตัวจริงก็สามารถไปเล่นกันได้ที่ งาน Thailand Mobile Expo 2018 Hi End

ส่วนใครที่อยากอ่านรีวิวแบบเจาะลึกทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน อดใจรอกันได้ในบทความฉบับหน้ากับการ Review Vivo X21 แกะกล่องอย่างเป็นทางการ

สเปกเบื้องต้นของ Vivo X21

• หน้าจอแสดงผลขนาด 6.28 นิ้ว FullView Display(Super AMOLED) สัดส่วนในการแสดงผลแบบ 19:9 ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล
• ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon SDM 660 AIE พร้อมระบบ AI ช่วยการประมวลผล Octa Core 2.2GHz
• หน่วยความจำแรม 6 GB
• หน่วยความจำภายในรอม 128GB
• หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.28 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,280 พิกเซล
• กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล(24 ล้านด้วยการถ่ายภาพ) โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 พร้อม flash ด้านหน้า
  
• กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล, f/1.8, 1/2.5", 1.4µm, Dual Pixel PDAF) + 5 ล้านพิกเซล(f/2.4) Boost พิกเซลเพิ่มความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชในตัว LED flash
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย Funtouch OS 4.0
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ บนหน้าจอ
• ระบบสแกนใบหน้า 
• ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. + Sound Card AK4376A
• ช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB 2.0
• ขนาดตัวเครื่อง : 154.5 x 74.8 x 7.4 มม.
• นํ้าหนัก : 156.2 กรัม
• แบตเตอรี่ความจุ 3,200 mAh
• สี Black, Aurora White, Ruby Red >> จำหน่ายในประเทศไทยแค่สี Black และ Ruby Red

รูปลักษณ์และการดีไซน์ของตัวเครื่องภายนอกของ Vivo X21

Vivo X21 มีอีกชื่อหนึ่งคือ Vivo X21i สำหรับวางขายในตลาดต่างประเทศ แต่ในบ้านเราตัด i ทิ้งไป เหลือเพียงแค่ Vivo X21 รูปร่างภายนอกนั้นถูกออกแบบมาเหมือนครอบครัว Vivo รุ่นก่อนๆ เรียบง่ายแต่ดูดี! ในส่วนของหน้าจอแสดงผลขนาด 6.28 นิ้ว (Super AMOLED) ความละเอียดระดับ Full HD+ สัดส่วนในการแสดงผลแบบ 19:9 ตามแบบพี่ๆ และยี่ห้อเพื่อนบ้านที่ปรับมาให้หน้าจอกว้างแบบ 19:9  กันแล้ว เรื่องสีสันนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะคมชัดด้วยการรองรับมาตรฐาน P3 Wide Color Gamut 

ตัวเครื่องด้านหน้าของ Vivo X21

ส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, f/2.0 พร้อมกับ Dual Pixel Sensor สแกนใบหน้าเพื่อเปิดเครื่องด้วยแสงอินฟาเรด, ส่วนของลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา และระบบ Proximity Sensor

กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

ต่อมาเป็นส่วนของด้านล่างหน้าจอของตัวเครืองด้านหน้าเป็นส่วนของปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านล่างหน้าจอของตัวเครืองด้าน

ด้านหลังของตัวเครื่อง Vivo X21 เป็นตำแหน่งของกล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, f/1.8, 1/2.5", 1.4µm, Dual Pixel PDAF) + 5 ล้านพิกเซล(f/2.0) พร้อมไฟแฟลชในตัว(LED flash)

ด้านหลังของตัวเครื่อง Vivo X21

กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

Vivo X21

ด้านขวาของตัวเครื่อง Vivo X21 จะเป็นตำแหน่งของ ปุ่มเปิด-ปิด เครื่องหรือล็อกหน้าจอ ถัดมาเป็นตำแหน่งของปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านขวาของตัวเครื่อง Vivo X21

ตัวเครื่องด้านซ้ายราบเรียบ ไม่มีปุ่มสำคัญอะไร แต่การไม่มีอะไรก็ทำให้เครื่องสามารถตั้งได้โดยไม่โดนปุ่ม ไว้ดูหนังได้เพลินๆ 

ตัวเครื่องด้านซ้าย

 ขอบตัวเครื่องด้านบนของ Vivo X21 เป็นตำแหน่งของและช่องเสียบหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตรรูไมโครโฟนจับเสียง

Vivo X21

ตัวเครื่องด้านล่างของ Vivo X21 เป็นตำแหน่งของถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดที่สามารถใส่ได้ทั้งซิมการ์ดและการ์ดหน่วยความจำภายนอก ถัดมาเป็นช่องของเชื่อมต่อกับสาย microUSB  สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และโอนถ่ายข้อมูล, ไมโครโฟน และลำโพงภายนอก

Vivo X21

Vivo X21

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่เปิดหัวมาแล้วว่า Vivo X21 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นแรกของโลก และเครื่องแรกในประเทศไทย จุดไฮไลท์ที่ทุกคนรอคือต่อจากนี้ จริงๆ ตำแหน่งของ สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอใน Vivo X21 รุ่นล่าสุดก็ไม่ต่างอะไรจากรุ่นที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง เพียงแค่ยกมันมาไว้บนหน้าจอก็เท่านั้น

Vivo X21

เท่าที่ทดลองเล่นได้สักระยะความเร็วในการปลดล็อคหน้าจอถือว่าทำได้ดีทีเดียว นอกจากเทคโนโลยีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแล้ว Vivo X21 ยังมอบเทคโนโลยีล่าสุด ระบบปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า(Face Access) ซึ่งจะทำการสแกนลักษณะใบหน้าของผู้ใช้งานเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย

Vivo X21

Vivo X21
จุดเด่นของมือถือ Vivo X21 ที่ได้สัมผัสแรก

ระบบปฏิบัติการของเครื่องเลือกใช้เป็น Android 8.1 Oreo รุ่นล่าสุดครอบด้วย FunTouch OS 5.0 ใหม่ล่าสุด ด้วยการจัดหน้าตาที่เรียบง่ายและเลือกใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ง่าย จึงไม่แปลกใจที่มือถือรุ่นนี้จะมีลูกเล่นครบเครื่องแบบนี้ และเมื่อได้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 660 AIE ที่นอกจากเร็วแล้ว ยังได้ในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ทำให้การประมวลผลเลียนแบบการใช้สมองของคน พร้อมกับ RAM 6GB และความจำในตัว 128GB ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องนั้นลงตัวอย่างมากและเล่นเกมลื่นไหล 

อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอจะสามารถใช้งานได้ง่ายแค่กดเพื่อปลดล็อคได้ง่ายดาย ผ่านการทำงานโดยระบบ Ultra Sonic แต่ถ้าไม่สะดวก Vivo X21 ยังมีระบบสแกนใบหน้าที่ปลดล็อคได้เร็วเพิ่มอีกทางเลือกหนึ่ง แถมในเรื่องระบบเสียงก็ไม่ธรรมดา เพราะใช้ชิปเสียง AK4376A มาให้ รับประกันว่าเสียงดีแน่นอน

กล้องของ Vivo X21 ให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลสำหรับด้านหน้า สามารถเพิ่มความละเอียดด้วยการเซนเซอร์ Dual Pixel จึงทำให้ความละเอียดของภาพ เพิ่มเป็น 24 ล้านพิกเซล และมีค่ารูรับแสง F2.0 และ 12 (F1.8) + 5 (F2.5) ล้านพิกเซลสำหรับด้านหลัง จุดเด่นคือการนำเทคโนโลยี Dual Pixel มาทำงานทำให้ภาพนั้นรวมกันได้ถึง 24 ล้านพิกเซล และยังได้ในเรื่องของการถ่ายภาพแบบซูมแล้วไม่แตกได้พร้อมลูกเล่น AI HDR, AI Beauty, Portrait Mode Boken, AR Sricker และ Panorama แถมยังถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ผลงานเป็นอย่างไรดูได้จากภาพข้างล่างนี้

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Vivo X21

Vivo X21

สรุปสั้นๆ หลังได้ลอง Vivo X21

Vivo X21

ถือว่าเป็นมือถืออีกรุ่นที่น่าสนใจทั้งสเปคเคร่ื่องกลางๆ และมีกล้องที่ดี แม้ว่าความละเอียดของกล้องอาจจะน้อยกว่า V9 แต่แลกกับนวัตกรรมของเครื่องทีมีมากมายโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยกับการสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอที่ทำงานไว

ส่วนราคาอยู่ที่ 19,990 บาท และเครื่องพร้อมขายในเดือน 1 มิถุนายน นี้ วางจำหน่ายพร้อมกัน 2 สี คือสีดำ และสีแดง และมีการเปิดจองในงาน Thailand Mobile Expo 2018 Hi End พร้อมของแถมคือตุ๊กตา FIFA ในช่วงวันที่ 24 - 27 มิถุนายน นี้

ส่วนบทความรีวิวเต็มๆ นั้นจะเป็นอย่างไรคงต้องรอดูกันต่อไปช่วงต้นเดือนหน้าครับ