สรุปไฮไลท์ทั้งหมดที่ Apple เผยในงาน "WWDC 2018"
จบกันไปแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับงาน WWDC 2018 ซึ่งจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา และสามารถบอกเรื่องราวทั้งหมดว่า Apple จะมีอะไรให้คุณได้บ้าง แม้ว่าจะเป็นงานสำหรับนักพัฒนาก็ตาม และมีอะไรอัปเดตบ้าง มาดูกันดีกว่า
ก่อนอื่น Tim Cook ได้เผยว่า Apps Store ได้มีการขยาย Apps ไปมากจนเรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดของการทำ Store เพื่อให้บริการทาง Apps และสร้างรายได้มากกว่า 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และเน้นให้ผู้ใช้งานเป็นศูนย์การสำหรับการพัฒนา
iOS 12
ตลอดที่มีการอัปเดตที่ผ่านมานั้นมีการสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ใช้งานที่ผ่านมา และสำหรับ iOS12 ก็จะเป็นระบบปฏิบัติการที่อัปเดตได้ฟรีเหมือนเคย มีการปรับเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย และ iOS11 ผู้ใช้งานกว่า 81% อัปเดตไปแล้ว
สำหรับ iOS 12 จะมีการปรับปรุงให้สามารถทำงานได้เร็วมากขึ้น และสามารถอัปเดตได้ตั้งแต่อุปกรณ์ตั้งแต่ปี 2013 ถือว่ามากที่สุดเลยก็ว่าได้ (iPhone 5S ยังได้ไปต่อ) เช่น iPhone 6 Plus จะสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น 40%, เรียก Keyboard เร็วขึ้นเท่าตัวและเปิด กล้องได้เร็ว เท่ากับเน้นความเร็วในการใช้งานมากขึ้นนั่นไม่ได้หมายความว่ารุ่นใหม่จะได้ความเร็วว่าเดิม
นอกจากนี้ยังเพิ่มเรื่อง AR ทำให้ใช้งานได้หลากหลายมาก และตอบสนอง Animation ได้หลากหลายมากขึ้น รวมไปถึง Adobe ที่จะมี Creative Cloud ที่สร้าง AR Content ได้ง่ายๆ ผ่าน iOS
AR ยังเพิ่มเรื่องของการวัดขนาดวัตถุได้ เราสามารถดูได้ว่าขนาดของเท่าไหร่ สามารถดูภาพได้เท่าไหร่ก็ได้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดรวมกันเป็น AR Kit 2
และยังมีเรื่องอื่นๆตั้งแต่
- Photos มีการเพิ่มเรื่องของการค้นหาข้อมูลได้มากขึ้น
- Siri เพิ่ม Shortcut ที่สามารถพูดว่า I Lost My Key สามารถเรียก Apps หรือสิ่งที่เราต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถทำงานแยกอิสระได้
- News มีการอัปเดตให้ Top Stories สามารถพบเนื้อหาได้ง่าย
- Stock หรือ โปรแกรมดูหุ้นบน iPad และ แถมยังมีโปรแกรมอัดเสียงครั้งแรกบน iPad
- Book จะมี Store เพิ่มในเรื่องของหนังสือที่อ่านออกเสียง เพิ่มในเรื่องของการดูผ่าน Apple Car Play
- Do Not Disturb มีระบบเปิดปิดอัตโนมัติแล้ว เมื่อเราตื่นและต้องการ พร้อมกับ ตั้งให้ Apps ปลุกเราได้เช่นกัน
- เพิ่มการเรียนงานเกี่ยวกับการใช้งาน Apps และบอกระยะเวลาของการใช้งานทั้งหลาย และรวมถคงรูปแบบของการใช้ Apps และมีการแจ้งเตือนว่า Apps ไหนได้ แถมยังมีการแจ้งเตือนว่า ถ้าใช้งาน Apps นั้นไปแล้วก็จะมีการแจ้งเตือน ทั้งหมดที่มีเพื่อไม่ให้คุณใช้งาน Apps มากเกินไป เท่ากับจะสามารถแจ้งเตือนว่า ลูก หรือ คุณเองใช้ Apps มือถือมากเกินไปหรือเปล่า
- Message เพิ่มฟีเจอร์การแล๊บลิ้นให้ Animoji และมีการเพิ่ม รูปแบบ Animoji ทั้ง 4 แบบ ได้แก่ T-Rex, เสือ, หมีโคล่า, ผี
- Memoji คือการสร้างเราเป็น Animoji ได้ โดยการสร้างผ่านการแต่งหน้า, แต่งผม ปรับโทนสี และอื่นๆ ให้เหมือนกับเรามากที่สุด รวมถึงดวงตา และรูปแบบของตาเราได้ ปรับได้มากถึงขนาดหูสี การใส่แว่นและอื่นๆ อีกมากมาย
- Effect มีหลากหลายรูปแบบที่ใส่เข้าไป และสามารถใส่ Animoji เข้าไปในภาพของคุณได้ ในโหมดกล้อง และสามารถส่งให้เพื่อนคอคุณได้ทันทีใน Message
- Facetime จะเพิ่ม Group Facetime สร้างกลุ่มให้สามารถพูดแบบเห็นหน้าได้ โดยสามารถลากลงภาพลงแบบเต็มที่ได้เช่นกัน ภาพสามารถขยายภาพได้เต็มหลายแบบและคุยกันได้พร้อมกัน 32 คนเลยทีเดียว ถ้าคนไหนพูดภาพก็จะขยายออกมา และใช้ Animoji ในฟีเจอร์นี้ได้ และรองรับทั้ง iPhone, Mac, iPad และ Apple Watchได้
- นอกจากนี้ใน iOS 12 มันถูกพัฒนาให้ Apple Car Play รองรับ Google Map ได้แล้ว
- Screen Time ควบคุมการใช้งานแอป ทำให้เรารู้ว่าเราใช้เวลากับมือถือนานแค่ไหน เล่นแอปพลิเคชั่นอะไรไปนานเท่าไร ถือเป็นการช่วยจัดการชีวิตได้ดีมากๆ เรียกว่าดีสำหรับผู้ปกครองที่ไว้ควบคุมลูกหลานได้
รายชื่อของ iOS12 ที่สามารถอัปเดตได้ดูที่นี่
WatchOS 5
ในระบบปฏิบัติการสำหรับ Apple Watch ที่มีการนิยมสูง โดยการเปลี่ยนแปลงของ WatchOS 5 นั้นตั้งแต่
- Fitness โปรแกรมสุขภาพบน Apple Watch มีการเพิ่มการแสดงผลแบบเปรียบเทียบมากขึ้น ว่าคุณทำได้มากน้อยแค่ไหน และเทียบเป็นแบบสัปดาห์ แถมมีการมอบรางวัลให้ด้วย แถมมีการออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงของคนพิการด้วย แต่ที่น่าสนใจคือโยคะ
- แถมมีการบอกการออกกำลังกายแบทันที เมื่อเครื่องจับได้ว่าจะมีการเคลื่อนที่หรือการออกกำลังกายทันทีและหยุดเมื่อเหมาะสม
- การเชื่อมต่อ เพิ่มฟีเจอร์ Walkie Talkie แค่แตะเพื่อส่งข้อความเสียงออกไป แต่ใช้ WiFi เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
- Siri Watch Face แสดงผลหน้า Siri และรวมไปถึง Siri Shortcuts ด้วยเช่นกัน, News Apps ด้วยเช่นกัน
- Podscast เพิ่มแล้วใน WatchOS และสามารถทำงานได้คล้ายกับ iOS เพิ่มความสะดวกแม้ว่าคุณจะไม่อยากถือ iPhone
- ในส่วนของ Apps มีการเพิ่มเรื่องของการแสดงผลได้มากขึ้นและแสดงผลอัลบั้มได้จาก Music
- แถมมีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกตามสีของสาย
tvOS
สำหรับ tvOS มีการเปิดตัว tvOS 4K ไปปีที่แล้วและได้รับความนิยมพอสมควร พร้อมกับ Content ที่เพิ่มขึ้นและคุณภาพสูงกับเสียงที่ดีขึ้น และครั้งนี้มีฟีเจอร์ใหม่ไม่ว่าจะเป็น
- รองรับ Dolby ATMOS เข้าไปภายในโปรแกรม ให้เสียง ที่ออกมานั้น ออกได้เหมือนกับรอบทิศ หรือ 1 Channel ด้วยเช่นกัน และรองรับกับหนังมากมาย
- Apple TV Apps มีการเพิ่มเรืองของ Content ทั้งข่าวและวิดีโอมากกว่า 100 ช่องเลยทีเดียว
- เพิ่มช่องใหม่เข้าไปเช่น Chane+, Salt, Charter Spectrum เข้าไปด้วย ชมได้ทั้ง AppleTV, iPhone, iPad
- Zero Sign-In เพิ่มความะสะดวกในการเข้าถึง Content เพียงแค่เข้าครั้งเดียวสามารถใช้ไปจนถึง Apple TV ที่บ้านได้ และสามารถชมทั้งทีวี, เพลง, ดูรูปภาพ และยังเข้าถึง Apps ได้ครั้งเดียว
macOS Mojave (10.14)
อีกระบบปฏิบัติการที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากเป็นคอมพิวเตอร์และเป็นเริ่มต้นของการพัฒนาทั้ง iOS, WatchOS ก็ยังคงต้องมีการพัฒนาต่อในเวอร์ชั่นใหม่ต่อจาก High Sierra แต่ว่าเวอร์ชั่นใหม่เรียกได้ว่า macOS Mojave (อ่านว่า โมฮาเว่ ตามภาษาสเปน) ตามชื่อทะเลทรายในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลายอย่าง
- ฟีเจอร์แรกเพิ่ม Dark Mode ทำให้การทำงานนั้นเมื่อใช้เวลากลางคืนง่าขึ้น ปรับทั้งการแสดงผลและภาพต่าง ๆ ของเครื่องให้เป็นแบบกลางคืน ทำให้แสดงผลนั้น จุดที่สนใจเช่นการดูข้อมูลทำให้มันดูดีมากขึ้น แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถปรับเป็นแบบปกติได้ และยังดูน่าตื่นเต้นสำหรับนักพัฒนาเพราะทหมันดู Code ได้ง่ายขึ้น
- โหมดของหน้าจอสามารถปรับตามเวลาได้ โดยกลางวันจะแสดงผลปกติ และกลางคืนจะเป็น Dark Mode อัตโนมัติ
- การจัดเรื่อง Desktop Stack ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่รกบน Desktop ผสานเข้าอย่างง่ายได้ และสามารถแสดงผลได้ง่าย หรือ เปิดเมลแล้วดูดแสดงผลเก็บ File ภาพได้ง่ายแค่ลากเข้าไปใน Stack ได้ และสามารถ Drop ไปยังเอกสารของคุณได้
- Finder สามารถ Preview รูปหรือดูเอกสารได้ และดูรายละเอียดได้ โดยไม่ต้องกดเข้าไปในโปรแกรม แถมแก้ไขภาพได้ง่ายเพียงแค่เลือกดูภาพ เช่นการปรับองศาของภาพ, สร้าง PDF เมื่อมีการวมภาพได้, ใส่ลายน้ำ PDF ได้
- Quick Look สามารถเปิดภาพได้รวดเร็วและแก้ไขหรือเพิ่ม Object เช่นลายเซนของเราได้รวดเร็ว
- Screenshots แบบใหม่ ที่ทันสมัยขึ้นกว่าเดิม โดยเราสามารถเลือกพื้นที่ Screen Shots และสามารถปรับขยายเฉพาะส่วนได้ หรือจะ Screen Shot ให้บันทึกเป็นวิดีโอได้
- Continuity / Continuity Camera ท่าสามารถเพิ่ม Object จากมือถือ เข้าไปในภาพของการ Present หรือ Document ได้ง่าย โดยการสามารถเลือกให้สแกนเอกสารได้ง่าย และทำงานผ่านมือถือแบบไร้รอยต่อ
- Apps เพิ่มการนำเสนอข่าว หรือ News บน macOS ครั้งแรก
- Voice Memo เพิ่มใน macOS และยัง โหลดจาก iCloud ได้
- Home สามารถใช้ HomeKit ใน macOS เวอร์ชั่นใหม่นี้ได้
- Privacy เพิ่มความปลอดภัยด้วยการป้องกันไม่ให้เข้าถึงผ่านการสแกนลายนิ้วมืออย่างเดียวแต่สามารถป้องกันการเข้าถึงได้ถึงกล้อง, ไมโครโฟนและครบเครื่อง รวมไปถึงดักไม่ให้เว็บแสดงกล่องข้อความหรือ บอกว่ามีการติดตามข้อมูลของคุณหรือไม่ เรียกได้ว่าป้องกันสุดชีวิตเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว
- Mac Apps Store ปรับปรุง UI ใหม่ให้ดูน่าใช้กว่าเดิม และปรับปรุงให้คล้ายกับ iOS มากขึ้น และมี Top Chart ให้ดูด้วย มีการเพิ่ม Apps เข้าไปมากมายรวมถึง Microsoft Office 365 หรือเป็นเกมใหม่ๆ มากมาย
- Technologies ภายใน macOS Mojave มีทั้ง External GPUs สามารถการ์ดจอภายนอกได้ ทำให้การแสดงผลภาพ หรือการเล่นเกมทำได้ดีขึ้น อีกเทคโนโลยี จะมีการเพิ่มทำให้การทำงานของเครื่องได้รวดเร็วมากขึ้น และ เรียกได้ว่ายกเทคโนโลยีนี้มาจาก iOS มาสวมลงใน คอมพิวเตอร์
และยังคำถามว่าจะรวมระหว่าง macOS กับ iOS หรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะการทำงานและรูปแบบการใช้งานแตกต่างกัน ยังไง macOS อาจจะต้องใช้ Mouse หรือ Touch Pad อยู่ต่อไป แต่อาจจะมีบางอย่างที่เหมือนกันอยู่บ้างแหล่ะครับ