บทวิเคราะห์ชี้ "Apple" เริ่มเดินหมากใหม่ให้ไอโฟนตกรุ่นช้าลง ไม่เปิดตัวพร่ำเพรื่ออีกต่อไป
หลังจากงาน WWDC 2018 ผ่านพ้นมาโดยที่ Apple เลือกที่จะไม่เปิดตัวฮาร์ดแวร์ใดๆ เลย ซึ่งค่อนข้างจะเป็นที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อย โดยเฉพาะหลายคนที่เฝ้ารอและคาดหวังว่าจะได้เห็น iPhone SE 2, MacBook หรือว่า Apple Watch รุ่นใหม่ แม้ว่างานดังกล่าวจะโฟกัสไปที่บรรดานักพัฒนา
แต่จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา Apple มักจะใช้อีเวนต์นี้เปิดตัวฮาร์ดแวร์พ่วงด้วยเสมอ (ปีที่แล้วพวกเขาก็เปิดตัว HomePod, iMac Pro ที่งานนี้ และที่สำคัญคือย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 สตีฟ จ็อบส์ ก็เคยเปิดตัว iPhone 4 ในงาน WWDC) แต่เมื่อ Apple เลือกที่จะไม่เปิดตัวสินค้าในครั้งนี้ ก็ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าพวกเขากำลังพยายามที่จะเดินไปในแนวทางใหม่คือ การสร้างวงจรของสินค้าให้ยาวนานขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
Apple อยู่ได้ด้วยฮาร์ดแวร์แต่กำลังหันมาโฟกัสกับซอฟต์แวร์มากขึ้น
สำหรับ iOS 12 ที่เปิดตัวออกมานั้น เห็นได้ชัดว่าทาง Apple ให้ความสำคัญและเคลมว่าสามารถใช้งานได้แม้กับไอโฟนรุ่นเก่าอย่าง iPhone 5S ก็ยังไปต่อได้ ซึ่ง Apple เน้นว่า iOS ใหม่จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานอีก 70% ถ้าเปรียบกับการเลือกตั้งแล้ว Apple ก็ได้ฐานคะแนนเสียงจากผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่าที่มีแนวโน้มจะใช้งานยาว ๆ 18-24 เดือนเป็นอย่างน้อย
มีการวิเคราะห์ว่าการเดินมาในแนวทางนี้ของ Apple นั้นก็มีจุดเริ่มมาจากเหตุการณ์ที่ถูกพบว่า Apple ลดประสิทธิภาพการทำงานของไอโฟนตามสภาพแบตเตอรีจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าอย่างมาก
ซึ่งทาง Apple ก็ออกมายอมรับและรีบเพิ่มตัวเลือกที่ผู้ใช้สามารถเลือกปิดการลดประสิทธิภาพไอโฟนได้ใน iOS 11.4 ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่ากล่องดวงใจของ Apple นั้นคือ การรักษาความเชื่อมั่นและศรัทธาจากฐานแฟนบอยที่จงรักภักดีกับแบรนด์มานาน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กระทบกับลูกค้ากลุ่มนี้ พวกเขาจะรีบเข้ามาจัดการอย่างเร็วที่สุด แถมยังพยายามพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการเคลมว่าผู้ใช้ iOS สามารถเลือกอัปเกรดได้ในแบบเอาที่สบายใจ ไม่เหมือนทางฝั่ง Android ที่ไม่นานก็ลอยแพ
Apple ต้องการที่จะสร้างวงจรสินค้าขึ้นมาให้แตกต่างจากตลาด
แนวโน้มในอนาคต เป็นไปได้สูงที่ Apple จะเริ่มเดินสวนกระแสตลาด โดยเฉพาะการยืดอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าให้นานออกไปจากเดิม และมีการทิ้งช่วงการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่นานขึ้น หันไปเน้นกับโมเดลสร้างรายได้จากซอฟต์แวร์ หรือสร้างแพล็ตฟอร์มโฆษณาให้มากขึ้น เนื่องจากโครงสร้างเดิมของ Apple เป็นบริษัทที่อยู่ได้ด้วยรายได้จากฮาร์ดแวร์
สำหรับตลาดสมาร์ทโฟน ณ ปัจจุบันนั้น มีความผันผวนและสุ่มเสี่ยงต่อความไม่แน่นอนมากขึ้น บวกกับภาวะอิ่มตัวของฟีเจอร์และราคาสมาร์ทโฟนที่หาความแตกต่างระหว่างสมาร์ทโฟนระดับกลางสเปกดีราคาถูกกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่พิเศษกว่าเพียงฟีเจอร์บางอย่างที่ผู้บริโภคมองว่า ‘ไม่จำเป็น’ และไม่จูงใจพวกเขามากพอในการจะจ่ายเพิ่ม
เช่นเดียวกับ iPhone SE 2 ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือมากมายว่าจะมีการหันมาใช้หน้าจอแสดงผลเต็มจอ พร้อมทั้งตัดปุ่มโฮมออกไป ทำให้ iPhone SE 2 มีความน่าสนใจขึ้นมาทันที ซึ่งนอกจากจะมีจุดได้เปรียบเรื่องขนาดเครื่องถือสะดวกมือเดียวแล้ว ยังได้สัดส่วนหน้าจอที่สูสีไม่แพ้ไอโฟนรุ่นใหม่ ๆ เลย และนั่นอาจหมายถึงการเข้ามาทับไลน์สินค้า และแย่งลูกค้ากันเองของ iPhone SE 2 และ iPhone 8/8+ นั่นเอง