รีวิว "ASUS Zenfone Max Pro" (M1) สมาร์ทโฟน แบตฯอึด สเปคแรง ราคาย่อมเยา
กลับมาแล้วกับการรีวิว Smart Phone และ Gadget จากทีมงาน Sanook! Hitech ครั้งนี้ เราได้กลับมารีวิวมือถือจาก ASUS อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นมือถืออีกรุ่นที่อย่าง Zenfone Max Pro (M1) ที่มีราคาไม่แพง แต่ได้สเปคดีพอกัน และมีคู่แข่งมากมาย เอาล่ะมาดูคำตอบว่าตัวนี้จะเป็นมือถือที่น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน
สเปคของ ASUS Zenfone Max Pro (M1)
- ขนาดตัวเครื่อง 159 x 76 x 8.5 มิลลิเมตร
- สีตัวเครื่อง Midnight Blue, Meteor Silver
- น้ำหนัก 180 กรัม
- CPU Qualcomm Snapdragon 636 Octa Core 1.8GHz พร้อมกับ GPU Adreno 509
- RAM 3, 4, 6GB
- ความจุในตัว 32GB (เฉพาะรุ่น RAM 3GB) 64GB (เฉพาะรุ่น RAM 4 – 6GB)
- เพิ่มความจำได้ด้วย Micro SD รองรับ 400GB
- ความถี่ 2G 850 / 900 / 1800 / 1900
- ความถี่ 3G 850 / 900 / 1900 / 2100 HSDPA
- ความถี่ 4G LTE Cat 4 150/50Mbps
- WiFi 802.11 b/g/n Single Band, Bluetooth V4.2
- หน้าจอ 5.99 นิ้ว IPS-LCD ความละเอียด 2160x1080
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล F2.0 พร้อมกับ LED Flash (16 ล้านพิกเซล เฉพาะ รุ่น RAM 6GB)
- กล้องหลัง เลนส์คู่ 13 (F2.2) + 5 ล้านพิกเซล (F2.4) + LED Flash และมี ระบบโฟกัสแบบ PDAF (สำหรับรุ่น RAM 6GB จะเพิ่มกล้องหลังตัวแรกเป็นความละเอียด 16 ล้านพิกเซล)
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องและการออกแบบดีไซน์ของ ASUS Zenfone Max Pro (M1)
ด้านหน้าเป็นเหมือนกับมือถือทั่วไป เพราะขนาดหน้าจอมีขนาด 5.99 นิ้วพร้อมกับความละเอียด Full HD+ (2160x1080) ถือว่าละเอียดแล้ว และยังให้จุดสัมผัสมากถึง 10 จุด
ด้านบน มาพร้อมกับกล้องหน้า ที่มีความละเอียด 8 – 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับ ไฟบอกสถานการณ์แจ้งเตือน และลำโพงสนทนา
ส่วนล่างจะมีปุ่ม Recent, Home และ Back เมื่อเข้าหน้าจอหลัก
ด้านข้างออกแบบให้โค้งมนและจับได้ถนัดมือมากขึ้น และเป็นโลหะทั้งหมด ฝั่งซ้ายมีช่องเสียบ MicroSD และ Nano SIM 2 ช่อง
ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม เปิดปิดเครื่องที่ผิวสัมผัสที่ดีและปุ่มใหญ่เอาเรื่องทำให้กดได้ถนัดมากขึ้น
ด้านบนจะมีแค่ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและผิวสัมผัสแบบเรียบ
ด้านล่างมีทั้งช่องเสียบหูฟัง, มีช่องเสียบ Micro USB, ไมโครโฟน และ ลำโพงตัวเครื่อง ผิวของเครื่องจะเหมือนกับด้านบน
ด้านหลัง ออกแบบเรียบง่าย มาพร้มกับกล้องหลังคู่ ที่อยู่ด้านซ้ายบน โดยกล้องนั้นมีขนาด 13 ล้านพิกเซล แต่รุ่นท็อปจะมีขนาด 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับกล้องตัวที่ 2 ขนาด 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash และมีระบบสแกนลายนิ้วมือ และผิวสัมผัสที่เรียบง่ายแต่แอบลื่นอยู่
ด้านระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังจากการใช้งาน ทำงานเร็วและง่ายดายแตะแล้วหน้าจอติดทันทีไม่ต้องรอ
ตัวเครื่องให้เลือก 2 สีคือ สีเงิน Metero Silver และสีน้ำเงิน Midnight Blue
เปิดเครื่องใช้งาน ASUS Zenfone Max Pro (M1) พร้อมการทดสอบฟังก์ชันต่างๆ
เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมา มือถือรุ่นนี้จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo แตกต่างจาก Zenfone 5 ตรงที่การตกแต่งหน้าตาของระบบปฏิบัติการที่เรียบง่าย แต่ความจริงนั้นมันคือ Android Stock ไม่มีการปรับแต่ง แต่มันไม่ใช่ Android One นะครับและมี Notification ที่ถือว่าครบเครื่อง
ลูกเล่นต่างๆ ของเครื่องนั้น มีความครบเครื่องไม่แพ้กับมือถือรุ่นอื่นประกอบไปด้วย
- ระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ และ สแกนใบหน้า
- มีลูกเล่นครบเครื่องจาก Application Google
- มีเครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, FM Radio และ มีระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ให้ใน Setting เท่านั้น
- ระบบเสียงของเครื่อง มีการนำแม่เหล็ก NXP 9874 Gen 2 ทั้งหมด 5 ชิ้น ทำให้เครื่องเสียงดังขึ้น แต่มีลำโพงแค่ตัวเดียว
ส่วนประสิทธิภาพของ ASUS Zenfone Max Pro (M1) ที่ได้ทดลองลนั้น ใช้ขุมพลังจาก Qualcomm Snapdragon 636 พร้อมกับ การ์ดจอ Adreno 509 และมี RAM 3GB พร้อมกับ ความจำในตัว 32GB เรียกได้ว่าครบเครื่องเหมือนเคย คะแนนทดสอบถือว่าเยอะ และการตอบสนองเล่นเกมทำได้ดี แต่ว่าถ้าได้ความจำ 64GB และ RAM 4 – 6GB จะทำให้คนเล่นเกมดีมากขึ้น และสามารถเพิ่มความจำได้ ผมว่าสเปครุ่นนี้เพียงพอต่อการเล่นเกม
แบตเตอรี่ของเครื่องที่มีขนาด 5000 mAh ถือว่าขนาดใหญ่มาก และเมื่อทดสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อยู่ได้นานถึง 14 ชั่วโมง แต่ถ้าเล่นเกมทั้งวันอยู่ได้เกินวันได้อย่างสบาย และมีเทคโนโลยีความปลอดภัย 12 แบบ แถมยังมีระบบ Flash Charge ทำให้ช่วยให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้ได้เต็มเร็วขึ้น
ตัวเครื่องรองรับซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง และ MicroSD แยกออกจากกัน รองรับ LTE Cat 4 แต่ว่า WiFi 802.11 b/g/n แบบ Single Band ถือว่าน้อยไปหน่อย และสุดท้าย Bluetooth V4.2
ประสิทธิภาพกล้องของ ASUS Zenfone Max Pro (M1) เป็นอย่างไร
เริ่มจากกล้องหลังของ ASUS Zenfone Max Pro M1 จะมีความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล และ 16 + 5 ล้านพิกเซล สำหรับรุ่น RAM 6GB มีจุดเด่นในเรื่องของการตอบสนองโฟกัสที่เร็ว และมี Scene Mode ให้เลือก 12 แบบ และถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายและ Beauty Mode ให้ แต่หน้าตา UI แอบทำให้หลายคนงงและใช้ยากเหมือนกัน แต่ยังดีที่รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (สำหรับรุ่น RAM 6GB จะได้กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล) มีโหมดละลายหลังและ Beauty Mode ให้เหมือนกัน แต่ว่าความสวยงามก็ถือว่าพอเป็นพิธี
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก ASUS Zenfone Max Pro (M1)
กล้องหลัง เลนส์คู่ 13 (F2.2) + 5 ล้านพิกเซล (F2.4)
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
สรุปผลหลังทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ทดสอบและลองเล่น ASUS Zenfone Max Pro (M1) มาสักระยะ
เป็นมือถือที่เรียกได้ว่า เป็นมือถือที่ราคาไม่แพงแต่ได้ประสิทธิภาพดี เน้นเรื่องอายุการใช้งานที่ยาวนานและการทำงานที่ลื่นไหลสมกับเป็น Pure Android
นอกจากรุ่น RAM 3GB / ความจำ 32GB ในราคา 5,990 บาทแล้วก็ยังมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกันได้แก่
- RAM 4GB / ความจำ 64GB ราคา 6,990 บาท
- RAM 6GB / ความจำ 64GB ราคา 7,990 บาท
และเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงแล้วนั่นคือ Xiaomi Redmi Note 5 นั่นเอง แต่ถ้าเมื่อเทียบกันทั้งหมดแล้วจุดที่ ASUS ได้เปรียบชัดเจนคือน้ำหนักเครื่องที่เบา และ แบตเตอรี่อึดได้ใจนั่นเอง แต่ที่เหลืออาจจะเสียเปรียบเรื่องความเร็ว 4G และ WiFi แบบ Single Band เท่านั้น แต่ถ้าไม่คิดมาก นี่ก็เป็นมือถือที่น่าคบหา และได้สเปคดีมากอีกรุ่นหนึ่ง
สรุปจุดเด่นของ ASUS Zenfone Max Pro (M1)
- สเปคเครื่องจัดว่าดีในกลุ่มไม่ถึงหมื่น
- วัสดุดีจับได้ถนัดมือ
- แบตเตอรี่อึดและจ่ายไฟให้มือถือเครื่องอื่นได้
- กล้องหลังครบเครื่องและถ่ายภาพสวย
- ระบบเสียงดังก้องกังวาน
สรุปจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมหากต้องการซื้อ ASUS Zenfone Max Pro (M1)
- วัสดุด้านหลังเหมือนพลาสติกไปหน่อย
- ลูกเล่นของกล้องดูไม่ทันสมัย
- WiFi รองรับแค่ 4GHz และ LTE Cat 4
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ