รีวิว “Pocophone F1” มือถืองบหมื่นเดียวที่ทำเรือธงสะเทือนได้ จริงหรือ ?
กลับมาพบกับรีวิวจากทีมงาน Sanook! Hitech อีกครั้ง คราวนี้เรามีโจทย์มาบอกเล่าเกี่ยวกับมือถือราคาถูกแต่สเปคจัดจ้านอย่าง Pocophone F1 ที่มีจุดเด่นมากมาย และมันดีจริงหรือไม่ มาดูกันในรีวิวดีกว่า
สเปคของ Pocophone F1
- ขนาดตัวเครื่อง 155.5 x 75.3 x 8.8 มิลลิเมตร
- สีตัวเครื่อง Graphite Black, Steel Blue
- น้ำหนัก 180 กรัม
- CPU Qualcomm Snapdragon 845 Octa Core 2.8 + 1.8GHz + GPU Adreno 630
- RAM 6 GB
- ความจุในตัว 64 – 128GB
- ความถี่ 2G 850 / 900 / 1800 / 1900
- ความถี่ 3G 850 / 900 / 1900 / 2100 HSDPA
- ความถี่ 4G LTE Cat16 1Gbps / 150 Mbps
- WiFi 802.11 b/g/n/ac, Bluetooth V5.0
- หน้าจอ 6.18 นิ้ว ความละเอียด 2246x1080 พิกเซล รองรับ HDR10 + DCI-P3
- กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล F2.0 + LED Flash
- กล้องหลัง 12 (F1.8) Dual Pixel, OIS, PDAF + 5 ล้านพิกเซลพร้อมกับ ฟีเจอร์ละลายหลังได้ + LED Flash
- แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับระบบ Quick Charge 3.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo + MIUI 9.6 (Poco Edition)
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องและการออกแบบดีไซน์ของ Pocophone F1
ด้านหน้าของ Pocophone F1 เป็นมือถือที่ใช้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.18 นิ้วอัตราส่วน 18.7:9 พร้อมติ่งข้างบน ใช้แบบ AMOLED ความละเอียด 2246x1080 ให้สีสันที่สดใสแต่ไม่ถึงกับจอของ Mi 8 รองรับมัลติทัช 10 จุด และไม่มีปุ่มกดใดๆ
ส่วนบนนั้นเริ่มจาก Pocophone F1 จะมีกล้องความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมกับ อินฟราเรดด้านหน้า, ไฟแจ้งเตือน และเซนเซอร์เช่น proximity แต่ลำโพงสนทนา และเป็นลำโพงตัวเครื่องด้วย
ส่วนล่างทั้งคู่มีปุ่มสำหรับสั่งงานทั้ง เรียกดูโปรแกรม (Recent) หน้าหลัก (Home) และ ย้อนกลับ (Back)
ด้านข้างใช้อะลูมิเนียมเหมือนกัน แต่ว่าไม่ได้มีการขัดเงาทำให้ตัวเครื่องดูเรียบง่ายกว่าฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียงพร้อมกับปุ่ม Power ทำให้กดและใช้งานได้ง่ายมาก
ฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM 2 ช่อง สามารถเปลี่ยนมาเพิ่ม Micro SD ได้
ด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนรอบ พร้อมกับเส้นเสาอากาศเครื่อง และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่างมีช่องเสียบต่างๆ เช่น USB-C พร้อมกับลำโพงและไมโครโฟนตัวเครื่องที่จัดวางตำแหน่งเหมาะสมและเจาะรูให้ลงตัว
ด้านหลังของ Pocophone F1 มีกล้องหลังคู่อยู่กลางเครื่องขนาด 12 + 5 ล้านพิกเซล แยก LED Flash คู่ออกจากกัน นอกจากนี้ยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ และยังมีโลโก้ Pocophone อยู่ด้านล่างที่เป็นสีเงินสวยเลย ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สีคือ Graphite Black และ Steel Blue มองว่าสีน้อยไปหน่อย
กลางเครื่องมีระบบสแกนลายนิ้วมือที่ใช้งานง่ายทั้งคู่แต่ แตะได้ง่ายและใช้งานได้เหมาะสม แต่จะไม่ได้ออกแบบให้เป็นแบบเงา
เปิดเครื่องใช้งาน Pocophone F1 พร้อมการทดสอบฟังก์ชันต่างๆ
เมื่อเปิดเครื่องมาจะพบกับ ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ที่มีฟีเจอร์ทั้ง Picture In Picture ที่เหมาะกับการใช้งานหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน ครอบด้วย MIUI 9.6 Poco Edition แตกต่างที่จะมี Apps Drawer มาให้ แถมอัปเกรดไปที่ Android Pie ได้แน่นอน
ลูกเล่นหลักของ Pocophone F1 มีดังนี้
- ระบบสแกนใบหน้าแบบ อินฟราเรด ทำให้สามารถใช้ปลดล็อคได้ทั้งที่มืดและที่สว่าง แต่ระบบนี้ใน Software เวอร์ชั่นรีวิวยังไม่ได้ติดตั้งระบบสแกนใบหน้ามาให้
- มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
- Apps Clone สามารถแยก Apps ได้ 2 Apps ตามความเหมาะสม
- Mi Drop สำหรับใช้ส่ง File ระหว่างมือถือ Xiaomi
- Feedback และ Files
- และมีเครื่องมืออื่นๆ ครบเครื่องรวมถึงการถ่ายวิดีโอบนหน้าจอ, เครื่องคิดเลข, อัดเสียง, สแกน Barcode เป็นต้น
ในเรื่องของการฟังเพลงมีฟีเจอร์ปรับระดับของ EQ ของเสียงทำให้ไพเราะมากขึ้น แต่ไม่ได้มีการปรับจูนแต่งเสียงมาให้ แต่รุ่นนี้ดีหน่อยคือมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และลำโพงคู่อยู่ด้านหูฟังสนทนา และ ลำโพงด้านล่าง
ด้านประสิทธิภาพของ Pocophone F1 เลือกใช้ CPU จาก Qualcomm Snapdragon 845 รุ่นใหม่ล่าสุดมีจุดเด่นคือระบบระบายความร้อน Liquid Cool ทำให้เครื่องเย็นได้รวดเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะสเปคเครื่องจำหน่ายในประเทศไทยมีแค่ 6GB การเล่นเกมถือว่าเหมาะสมเลยทีเดียว
ส่วนการรองรับ 4G LTE สามารถใช้งานได้พร้อมกับ 2 SIM และยังรองรับ WiFi 802.11 B/g/n/ac ครบ พร้อมกับ Bluetooth V5.0 น่าเสียดายเรื่องเดียว มันไม่รองรับ VoLTE ในตอนนี้เท่านั้น
ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh ทดสอบแบตเตอรี่อยู่ได้นานพอสมควรเลย เมื่อเล่นเกมและใช้งานต่างๆ พบว่าวันนึงไม่หมด แต่เล่นเกมก็สามารถเกือบได้ 12 ชั่วโมง เอาซะเมื้อยตาเลย และรองรับ Quick Charge 3.0 มาให้ด้วย
ประสิทธิภาพกล้องของ Pocophone F1 เป็นอย่างไร
กล้องหลังของ Pocophone F1 ใช้ขนาด 12 ล้านพิกเซล เลนส์คู่ มาพร้อมกับ Dual Pixel, พร้อมกับ LED Flash ความพิเศษอยู่ที่ AI ปรับ Scene Mode ได้มากถึง 7 กว่าแบบ และช่วยทำให้การถ่ายภาพออกมาสวยงามมากขึ้น แต่กล้องตัวที่ 2 เป็นแค่เซนเซอร์ละลายหลังเท่านั้น
ส่วนการถ่ายวิดีโอรองรับที่ 4K และมีระบบกันสั่นมาให้ด้วย แต่ไม่สามาถถ่ายวิดีโอ 60 FPS
และกล้องหน้าของ Pocophone F1 มีขนาด 20 ล้านพิกเซล F2.0 โดดเด่นที่สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมี Beauty Mode ปรับเองหรือจะให้ AI ปรับใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างจากการทดลองถ่ายภาพด้วย Pocophone F1
กล้องหลัง ความละเอียด 12 + 5 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
(หมายเหตุ : รับชมต่อได้ใน Gallery ด้านล่างนี้)
สรุปผลหลังทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ทดสอบและลองเล่น Pocophone F1 มาสักระยะ
ก่อนหน้านี้ผมเองได้ลอง Xiaomi Mi 8 ซึ่งมีสเปคเหมือนกันและตัวเครื่องหรูหรา ตัดช่องเสียบหูฟังออกไป แต่สำหรับ Pocophone F1 แม้ว่าจะไม่ได้ตัวเครื่องที่สวยหรู แต่ได้ความครบเครื่องกว่า และได้ฟีเจอร์ไม่ได้ต่างกันมากแถมมีราคาที่ถูกกว่าเริ่มตันระดับหมื่นต้นๆ ซึ่งมีราคาดังนี้
- Pocophone F1 RAM 6GB / ความจำในตัว 64GB อยู่ที่ 10,990 บาท ขายเฉพาะ Lazada
- Pocophone F1 RAM 6GB / ความจำในตัว 128GB อยู่ที่ 12,990 บาท
เมื่อเห็นราคาแบบนี้การเปรียบเทียบพูดเลยว่ายาก ก็เหลือแค่ว่าสเปคเครื่องที่ดีและเล่นเกมลื่นกับ ชื่อชั้นของ Brand จะเลือกไปทางไหน ส่วนคุณภาพจากการประกอบของอินเดีย ผมว่ามันเป็นประเด็นเล็กๆ สุดท้าย Pocophone F1 เป็นมือถือรุ่นที่ทำให้คุณเปลี่ยนความคิดในการเลือกมือถือไปได้ทันที เพราะครบทุกอย่างในราคาไม่แพงเกินไป นี่สิเป็นมือถือที่เหมาะกับคนที่มีงบไม่มาก
สรุปจุดเด่นของ Pocophone F1
- หน้าจอสวยและมีขนาดใหญ่
- ลูกเล่นครเครื่อง
- แบตเตอรี่ใหญ่และใช้งานได้นาน
- สเปคดีพร้อมกับใช้งานได้หลากหลาย
- สามารถอัปเดตต่อไปได้
- ราคาถูกกว่าคู่แข่ง
สรุปจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมหากต้องการซื้อ Pocophone F1
- ไม่กันน้ำ
- วัสดุตัวเครื่องมันให้ความรู้สึกเป็นพลาสติก
- สีสันที่เข้าขายในประเทศไทยน้อย
- ไม่รองรับ VoLTE
>> 10 มือถือเล่นเกม "PUBG MOBILE" สเปกแรง ราคาไม่เกิน 10,000 บาท เดือนมีนาคม 2019
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ