เปิดตัว "iPhone Xr" ราคาประหยัดเหมือนได้ใช้ iPhone X หลากสี ในราคาสบายกระเป๋า
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ iPhone Xr สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นตัวต่อของ iPhone X (เพราะหลังการเปิดตัว iPhone Xr ทาง Apple ได้หยุดจำหน่าย iPhone X)
>> เปิดตัว "Apple Watch Series 4" ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่จอใหญ่ขึ้น
>> เปิดตัว "iPhone Xs" และ "iPhone Xs Max" สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมจอภาพที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดบน iPhone
>> ไม่ต้องรอเงินเดือนออก Apple ปรับลดราคา iPhone รุ่นเก่าทั้งหมดหลายพันบาท!
โดย iPhone Xr มาพร้อมกับชิพ A12 Bionic Chip เหมือนใน iPhone Xs และ iPhone Xs Max ดีไซน์แบบกระจกและอะลูมิเนียมที่เป็นหน้าจอทั้งหมด พร้อมด้วยจอภาพ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว ซึ่งเป็น LCD ที่ล้ำสมัยที่สุดในสมาร์ทโฟน ตัวเครื่องแบบใหม่อันงดงามนี้ทำมาจากกระจกและอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ทำให้สามารถทนน้ำและฝุ่นได้ที่ระดับ IP67
ฟีเจอร์คร่าว ๆ ของ iPhone Xr ราคาประหยัด
- หน้าจอแสดงผขนาด 6.1 นิ้ว แบบ LCD ไม่มีขอบที่อยู่ในจอโค้งแบบใหม่ ความละเอียดระดับ 1792 x 828, 326 ppi, ความละเอียด 1.4 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล A12 Bionic แบบ 7 นาโนเมตรใหม่ พร้อม Neural Engine รุ่นที่ 2
- หน่วยความจำภายใน (ROM) 64GB, 128GB และ 256GB
- กล้องด้านหลังเลนส์เดี่ยวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล(wide-angle) รูรับแสง f/1.8
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
- ระบบปฏิบัติการ iOS 12 ระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก
- รองรับการยืนยันตัวตนด้วย Face ID ได้เร็วยิ่งขึ้น
- คุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
- รองรับการใช้งาน 2 Sim แบบ Nano-SIM และ eSIM แบบดิจิตอลเหมือนในApple Watch Series 4
- สีมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Black(ดำ), White(ขาว), Red(แดง), Yellow(เหลือง), Blue (ฟ้า / น้ำเงิน) และ Coral(ปะการัง)
- ราคา $749
- วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม(สีขาว ดำ ฟ้า เหลือง ส้มคอรัล และ (PRODUCT RED)
โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่ไม่ธรรมดา
ดีไซน์แบบหน้าจอทั้งหมดอันน่าทึ่งทำให้จอภาพของ iPhone Xr ขยายออกไปได้จนถึงขอบ กระจกหน้าที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนได้รับการประกอบเข้ากับขอบในสีเดียวกันที่ผ่านการชุบผิวอย่างงดงาม และทำมาจากอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 เกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ส่วนด้านหลังที่เป็นกระจกก็ทำให้สามารถชาร์จแบบไร้สายได้
iPhone Xr มีให้เลือกใน 6 ใหม่สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีฟ้า สีเหลือง สีส้มคอรัล และรุ่น (PRODUCT)REDโดยมีการใช้กระบวนการลงสี 7 ชั้นเพื่อให้กระจกด้านหลังมีเฉดสีที่งดงามสะดุดตา ในขณะที่ขอบอะลูมิเนียมและกรอบของกล้องก็อยู่ในสีเดียวกัน เพื่อความสวยงามลงตัวในทุกรายละเอียด ยิ่งกว่านั้น ดีไซน์ใหม่นี้ยังสามารถทนน้ำและน้ำที่กระเด็นใส่ที่ระดับ IP67 รวมถึงทนน้ำที่หกใส่ในชีวิตประจำวันอย่างกาแฟ ชา และน้ำอัดลมได้ด้วย
LCD ที่ล้ำสมัยที่สุดในสมาร์ทโฟน
จอภาพ Liquid Retina แบบหน้าจอทั้งหมดขนาด 6.1 นิ้ว อันสวยงามแสดงสีสันได้แม่นยำที่สุดในอุตสาหกรรม พร้อมรองรับขอบเขตสีกว้างและการแสดงผลแบบ True Tone® เพื่อการรับชมที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใช้กระจกที่ผ่านการเจียรอย่างแม่นยำ การมาสก์พิกเซลที่ล้ำหน้า และกระบวนการลบรอยหยักระดับพิกเซลย่อย ทั้งหมดนี้ทำให้จอภาพโค้งรับกับตัวอุปกรณ์ ส่วนแบ็คไลท์ที่ออกแบบใหม่ช่วยให้จอภาพขยายออกไปได้จนสุดมุม
iPhone XR รองรับการใช้นิ้วสั่งการบน iPhone ที่รวดเร็วและลื่นไหล อย่างการแตะเพื่อปลุก ปัดขึ้นเพื่อไปที่หน้าจอโฮม ปัดลงเพื่อเปิดดูการแจ้งเตือนและศูนย์ควบคุม รวมถึงคุณสมบัติใหม่ที่จะตอบสนองต่อการสัมผัสด้วยการสั่นเมื่อมีการกดลงบนหน้าจอโฮม ช่วยให้เปิดกล้องหรือไฟฉายได้ทันที
แรงด้วยขุมพลัง A12 Bionic และ Neural Engine เจเนอเรชั่นถัดไปเหมือนใน iPhone Xs และ iPhone Xs Max
ชิพ A12 Bionic ที่ออกแบบโดย Apple เป็นชิพที่ทั้งฉลาดและทรงพลังที่สุดในสมาร์ทโฟน และยังเป็นชิพแบบ 7 นาโนเมตรตัวแรกในสมาร์ทโฟนอีกด้วย เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพอยู่ในระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมในดีไซน์ที่ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น A12 Bionic ใช้สถาปัตยกรรมฟิวชั่นแบบ 6 คอร์
ซึ่งมาพร้อมคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ที่เร็วขึ้น 15%, คอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น 50%, GPU แบบ 4 คอร์ที่เร็วขึ้น 50%, โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพ (ISP) ที่ออกแบบโดย Apple, ตัวเข้ารหัสวิดีโอ และอีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยปลดล็อคประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งในการเล่นเกม ถ่ายรูป ตัดต่อวิดีโอ และแอพที่เน้นกราฟิกโดยที่แบตเตอรี่ยังคงใช้งานได้ยาวนานเช่นเดิม และถึงแม้จะทรงพลังขนาดนี้
แต่ iPhone XR ก็ยังใช้งานได้นานกว่า iPhone 8 Plus ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง Neural Engine เจเนอเรชั่นถัดไปสร้างมาเพื่อการเรียนรู้ของระบบอันล้ำสมัยในทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่การถ่ายรูปจนถึงเทคโนโลยีความจริงเสริม โดยดีไซน์ใหม่แบบ 8 คอร์นั้นทำให้สามารถดำเนินการได้ถึง 5 ล้านล้านรายการต่อวินาที เมื่อเทียบกับ A11 Bionic ที่ทำได้ 6 แสนล้านรายการ และนี่เองคือสิ่งที่ทำให้เกิดความสามารถใหม่ๆ อย่างการตรวจจับระนาบที่เร็วขึ้นสำหรับ ARKit และคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ใช้การเรียนรู้ของระบบแบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดให้เรียกใช้งาน Neural Engine ผ่าน Core ML® ได้ นักพัฒนาจึงสามารถสร้างแอพที่ใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของระบบอันทรงประสิทธิภาพนี้ได้เต็มที่ ส่วน Core ML ที่ทำงานบน Neural Engine ของ A12 Bionic นั้นก็มีความเร็วเหนือกว่า A11 Bionic ถึง 9 เท่า โดยใช้พลังงานน้อยมากเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นเอง
ยังคงมาพร้อมกับFace ID ระบบยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน
Face ID บน iPhone Xr ทำงานได้เร็วขึ้น เพราะมีการปรับแต่งการทำงานด้วยซอฟต์แวร์และ Secure Enclave ที่เร็วขึ้น อีกทั้งยังมีกล้อง TrueDepth ที่ใช้เทคโนโลยีการรับรู้มิติในแนวลึกอันแม่นยำ ซึ่งเหนือชั้นกว่าการสแกนใบหน้าสองมิติทั้งในด้านความสามารถและความปลอดภัย ช่วยให้สามารถปลดล็อค iPhone, ใช้ Apple Pay, เข้าใช้งานแอพได้อย่างปลอดภัย และอีกมากมายได้ง่ายๆ เพียงแค่เหลือบมอง
ถ่ายยังไงก็สวยด้วยกล้องมุมกว้างเลนส์เดี่ยวที่ล้ำหน้า
iPhone XR มาพร้อมเลนส์มุมกว้าง รูรับแสง f/1.8 ความละเอียด 12 เมกะพิกเซล และเซ็นเซอร์แบบใหม่หมด ช่วยให้ออโต้โฟกัสได้เร็วขึ้น ทั้งยังมีพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้มากขึ้นทำให้ภาพมีความสมจริงยิ่งขึ้น และถ่ายรูปและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นด้วย ยิ่งกว่านั้นยังมีการปรับปรุง ISP และมี Neural Engine พร้อมอัลกอริทึม ซอฟต์แวร์ที่ดีกว่าเดิมช่วยเสริมให้ภาพถ่ายบุคคลมีโบเก้ที่สวยเนียน ส่วน HDR อัจฉริยะเผยให้เห็นรายละเอียดในส่วนไฮไลท์และเงามืดได้ครบถ้วนยิ่งขึ้นในทุกๆ รูป
การควบคุมระยะชัดลึกใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับระยะชัดลึก ทั้งในขณะดูตัวอย่างภาพแบบเรียลไทม์3 และหลังจากที่ถ่ายไปแล้ว เพื่อสร้างสรรค์ภาพถ่ายบุคคลอันโดดเด่นพร้อมโบเก้ที่สวยงาม ส่วนการถ่ายเซลฟี่ก็สวยยิ่งกว่าที่เคยด้วยโหมดภาพถ่ายบุคคลในกล้อง TrueDepth ด้านหน้า และคุณสมบัติการจัดแสงภาพถ่ายบุคคลที่มาพร้อมเอฟเฟ็กต์การจัดแสงระดับสตูติโอแบบเก๋ๆ
เทคโนโลยีไร้สาย
iPhone XR ใช้ LTE Advanced ที่ดาวน์โหลดได้รวดเร็วขึ้นเท่าและสามารถใช้งานซิมคู่ได้ โดยใช้ Nano-SIM และ eSIM แบบดิจิตอล
มาพร้อม iOS 12 ระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก
โดย iOS 12 จะเปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้ iOS มองเห็นโลกโดยใช้เทคโนโลยีความจริงเสริม อีกทั้งยังพาย้อนกลับไปดูและแชร์รูปที่ตัวเองอาจลืมไปแล้ว รวมถึงติดต่อสื่อสารด้วยวิธีที่สนุกและถ่ายทอดอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้นผ่าน Animoji และ Memoji ใหม่ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ "เวลาหน้าจอ" ที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจและควบคุมเวลาที่ใช้ในการโต้ตอบกับอุปกรณ์ iOS, Siri Shortcuts® ที่ทำให้แอพต่างๆ สามารถทำงานร่วมกับ Siri ได้ และคุณสมบัติใหม่ๆ ด้านความเป็นส่วนตัวที่จะช่วยปกป้องผู้ใช้จากการถูกติดตามบนเว็บ
การวางจำหน่าย
โดย iPhone XR จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม(สีขาว ดำ ฟ้า เหลือง ส้มคอรัล และ (PRODUCT RED) ในกว่า 50 ประเทศและเขตการปกครอง ได้แก่
- อันดอร์รา
- ออสเตรเลีย
- ออสเตรีย
- บาห์เรน
- เบลเยียม
- บัลแกเรีย
- แคนาดา
- จีน
- โครเอเชีย
- ไซปรัส
- สาธารณรัฐเช็ก
- เดนมาร์ก
- เอสโตเนีย
- ฟินแลนด์
- ฝรั่งเศส
- เยอรมนี
- กรีซ
- กรีนแลนด์
- เกิร์นซีย์
- ฮ่องกง
- ฮังการี
- ไอซ์แลนด์
- อินเดีย
- ไอร์แลนด
- เกาะแมน
- อิตาลี
- ญี่ปุ่น
- เจอร์ซีย์
- คูเวต
- ลัตเวีย
- ลิกเตนสไตน์
- ลิทัวเนีย
- ลักเซมเบิร์ก
- มอลตา
- เม็กซิโก
- โมนาโก
- เนเธอร์แลนด์
- นิวซีแลนด์
- นอร์เวย์
- โอมาน
- โปแลนด์
- โปรตุเกส
- เปอร์โตริโก
- กาตาร์
- โรมาเนีย
- รัสเซีย
- ซาอุดีอาระเบีย
- สิงคโปร์
- สโลวะเกีย
- สโลวีเนีย
- แอฟริกาใต้
- สเปน
- สวีเดน
- สวิตเซอร์แลนด์
- ไต้หวัน
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา
และเป็นไปตามคาดประเทศไทยยังไม่อยู่ในกลุ่มประเทศแรกที่เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของ iPhone Xr รุ่นใหม่เหมือนเช่นทุกปี แต่คาดว่าเราคงรอไม่นานมากนักโอเปอเรเตอร์หลักอย่าง AIS, dtac และ Truemove H คงนำเข้ามาแน่นอน ซึ่งความเป็นไปได้ทั้งสองรุ่นน่าจะเข้าไทยในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเหมือนเช่น iPhone X รุ่นก่อน
นอกจากนี้นั้นรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่าย iPhone Xr รุ่น (PRODUCT)RED จะนำไปสมทบทุนโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ HIV และโรคเอดส์ของกองทุนโลกโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบ การให้คำปรึกษา การบำบัดรักษา และการป้องกัน โดยมุ่งเน้นไปที่การยับยั้งการแพร่เชื้อไวรัสจากแม่สู่ทารกในครรภ์อีกด้วย
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ