“แจ็ค หม่า” เผยนำ “Alibaba Cloud” ซัปพอร์ตป่าเคนย่า ปกป้องสัตว์ป่าจากภัยธรรมชาติและมนุษย์นักล่า!
ในเวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก แจ็ค หม่า มหาเศรษฐี…ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของ “อาลีบาบา” และเป็นผู้ประสบความสำเร็จในกลุ่มธุรกิจอินเทอร์เน็ต
แจ็ค หม่า เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศจีนเลยก็ว่าได้ และในวันที่ 19 กันยายน 2018 แจ็ค หม่า ได้ขึ้นพูดบนเวทีภายในงาน The Computing Conference 2018 ที่จัดขึ้น ณ Cloud Town เมือง Hangzhou สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นบ้านเกิดของแจ็ค หม่าด้วย
และ หนุ่ย พงศ์สุข แห่งแบไต๋ไฮเทค ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานยิ่งใหญ่แห่งปีอย่างงาน The Computing Conference 2018 นี้ด้วย จึงถือโอกาสบอกเล่าเรื่องราวที่ แจ็ค หม่าได้ขึ้นพูดบนเวทีผ่านทางเว็บแบไต๋ดังนี้…
“แจ็ค หม่า” ได้ก้าวขึ้นสู่เวทีด้วยเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าธุรกิจคือการนำเอา “Alibaba Cloud” ไปซัปพอร์ตป่าเคนย่าเพื่อปกป้องสัตว์ป่าจากภัยธรรมชาติและภัยจากมนุษย์นักล่า!! ซึ่งการดำเนินงานที่ Alibaba Cloud ได้เริ่มลงทำไปแล้วคือ การติดอุปกรณ์ IOT และ เรดาห์เพื่อมอนิเตอร์ติดตามพฤติกรรมสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ ในเคนย่าเพื่อศึกษาและป้องกัน โดยได้รับการตอบรับจากทางเคนย่าเป็นอย่างดี โดยทางการเคนย่ายังได้มาประกาศเกียรติคุณและขอบคุณในน้ำใจของแจ็ค หม่า โดยกล่าวติดตลกว่า “ช้างที่แจ็ค หม่า อนุเคราะห์ไว้นั้น ยังตั้งท้องไม่สำเร็จเลย”
นั่นทำให้มองเห็นภาพ “การอยากพักของแจ็ค หม่า” ด้วยเหตุที่ว่า “แจ็ค หม่า มองข้ามช็อตธุรกิจไปแล้ว และอยากผันตัวไปอุทิศตนเพื่อการศึกษาและการช่วยเหลือประเทศ ที่ยังคงมีความต้องการทางดิจิทัลเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าจีนได้สร้าง “บุคคลสำคัญของโลก” ขึ้นมาได้อีก 1 คนเลยทีเดียว
พี่หนุ่ย เล่าต่อว่า “ในขณะที่บ้านเรายังดราม่ากันอยู่ในเรื่องโจทย์เลขเก็บมะม่วงนั้น ทางประเทศจีนก็เปิดความร่วมมือกับภาคการศึกษาทั้งจีนและอเมริกา ถึงการนำ Cloud Computing มา Disrupt ในด้านการศึกษาให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น!! พี่หนุ่ยบอกว่า การเห็น แจ็ค หม่า ด้วยตาเปล่านั้น ดูคล้ายคุณทักษิณจริง ๆ นั่นแหละครับ แต่ความสดใหม่ของแจ็ค หม่าทำให้ทุกคนตั้งใจฟังเขาพูดมาก ๆ ซึ่งผิดคาดคือ แจ็ค หม่าเลือกที่จะพูดเป็นภาษาจีน แม้มีหลายคนที่ฟังไม่เข้าใจ…แต่คำพูดนั้นก็ถือว่าทรงพลัง
แจ็ค หม่า ได้กล่าวว่า “ IT เปลี่ยนชะตากรรมพวกเรา มนุษย์สร้างไอที ไอทีสร้างหุ่นยนต์ และมนุษย์ต้องคุมหุ่นยนต์ให้ได้อีกที หมายถวามว่าในอนาคตจำนวนของแอปพลิเคชันจะเพิ่มขึ้น และกระบวนการความคิดของเราจะเปลี่ยนไป เพราะ IT จะเข้ามาควบคุมสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ทุกสิ่งขึ้นกับความรู้หรือข้อมูล ซึ่งในอีก 20 ปีข้างหน้านี้ ถ้าพวกคุณยังพึ่งพิงทรัพยากรโดยปราศจากการจัดการด้วย IT มันจะเป็นเรื่องยากลำบากมาก ซึ่่ง แจ็ค หม่า ได้เน้นย้ำข้อนี้กับคนทั้งโลก ทุกอย่างในโลกยุคหน้าต่อจากนี้ไป ทุกชีวิตจะหันมาต้องพึ่งพาข้อมูล Big Data ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานในอนาคต
Big Data ต้องผนวกไปด้วย Cloud Computing เพื่อมากำหนดบทบาทของการตลาด และเราต้องร่วมมือกันเพื่อการทำธุรกิจการค้าให้ก้าวหน้าต่อไปจากนี้ หน้าที่ของเราคือการสร้างความสมดุลในโลกแห่งการจ้างงาน เพราะอีกไม่นานหุ่นยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่แทนมนุษย์ เราจึงต้องให้ความสมดุลกับตลาดแรงงานด้วย แต่ไม่จำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่กลุ่มแรงงานมากเกินไป สิ่งสำคัญที่ต้องมุ่งเน้นคือการสร้างความคิดสร้างสรรค์ ประสบการณ์ บริการ และนวัตกรรม เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เครื่องจักรไม่สามารถทดแทนได้ ด้านตลาดแรงงานต้องไม่ถูกครอบงำด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ต้องแข็งแรงด้วยธุรกิจ SMEs จำนวนมาก ที่ก้าวข้าม Digital Transformation ได้ ไม่เช่นนั้นเราอาจพบกับหายนะแห่งเศรษฐกิจ เพราะการค้าแบบยุคเก่ามันจบแล้วจริง ๆ เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเข้ามาพยายามเปลี่ยนแปลงมัน ฉะนั้นถ้าหากอยากอยู่รอดก็ต้องมุ่งเน้นให้ถูกจุด และหวังว่าทุกคนจะช่วยกันพัฒนาโลกอนาคตไปด้วยกัน
และกำหนดการลงจากตำแหน่งประธานแห่ง Alibaba Group คือ วันที่ 10 กันยายน 2019 และรับช่วงต่อโดย CEO คนใหม่ชื่อ Daniel Zhang
บอกเล่าเรื่องราวโดย หนุ่ย พงศ์สุข แห่งแบไต๋ไฮเทค บันทึกไว้เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2018 ใน งาน The Computing Conference 2018 ภายใต้คอนเซปต์ “Empower Digital China” ที่จัดขึ้น ณ Cloud Town เมือง Hangzhou สาธารณรัฐประชาชนจีน