ทำความรู้จัก แอป 5 ประเภท ที่ “ควร” ลบออกจากเครื่องแอนดรอยด์ของคุณ!

ทำความรู้จัก แอป 5 ประเภท ที่ “ควร” ลบออกจากเครื่องแอนดรอยด์ของคุณ!

ทำความรู้จัก แอป 5 ประเภท ที่ “ควร” ลบออกจากเครื่องแอนดรอยด์ของคุณ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แอปในสมาร์ทโฟนที่มี บางแอปใช่ว่าจะดีเสมอไป บางแอปที่เคลมตัวเองว่าทำได้ มันก็ไม่ช่วยทำให้ได้สมคำที่โปรยไว้ จนอยากลบแอปเหล่านั้นออกไป แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแอปไหนที่ไม่ต้องการให้อยู่บนเครื่องของเรา วันนี้จะมาจัดกลุ่ม 5 แอปที่ควรลบออกจากเครื่อง (โดยเฉพาะเครื่องที่เป็นแอนดรอยด์)

แอปที่เคลมตัวเองว่า “คืนพื้นที่ให้แรมได้”

1

แน่นอนว่าแอปทุกตัวที่เราใช้งานบนสมาร์ทโฟน ต้องอาศัยพื้นที่ของแรม ไม่ว่าจะเป็นแอปที่เราเปิดอยู่ หรือแอปที่เคยเปิดไว้ แล้วสลับไปใช้แอปอื่น (Background App) ก็ยังกินพื้นที่ในแรมทั้งนั้น เหล่าแอปที่โฆษณาว่าช่วยคืนพื้นที่ให้กับแรมของคุณได้ก็ผุดออกมาอย่างกับดอกเห็ด โดยอาศัยแค่ว่า “กดทีเดียว ล้างได้หมด แล้วได้พื้นที่กลับมา” แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพื่อเมื่อสั่งล้างแรม แอปพวกนี้ก็จะไปปิดแอปที่อยู่เบื้องหลังทิ้งให้แรมกลับมา แล้วเมื่อเราต้องการใช้แอปเหล่านั้นอีกครั้ง ก็ต้องเสียกำลัง cpu เสียไฟในแบตไปเปิดแอปใหม่อีก สรุป ได้ไม่คุ้มเสีย

ระบบของแอนดรอยด์จะคอยบริหารจัดการพื้นที่ของแรมอย่างอัตโนมัติและตลอดเวลา และยังรู้อีกว่าเมื่อไหร่ที่แอปเหล่านั้นจะถูกเรียกใช้งาน เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องลงไว้ในเครื่องเพื่อคืนพื้นที่ให้แรม

แอปตระกูล Clean Master

2

แอปจำพวก Clean Master หรือที่มีคล้ายๆ กัน มักเคลมตัวเองว่าสามารถล้างสิ่งที่เราไม่ต้องการออกไปได้หมด อย่างแอปบางตัว หรือไฟล์ข้อมูล

ถึงแม้แอปจำพวกนี้จะบอกไว้ว่า “ล้างได้อย่างหมดจด” แต่ก็แน่นอน การล้างหมดจดก็ต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดจดไปด้วยเช่นกัน เพราะแอปเหล่านี้ต้องใช้พลังงานในตัวเครื่องจำนวนมาก รวมไปถึงโฆษณาแอบแฝงที่จะโผล่กระเด้งบนหน้าจอเราตอนไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งอินเทอร์เน็ตที่เรามี อาจจะหมดไปกับโฆษณาที่โผล่มาจากแอปเหล่านี้ก็เป็นได้

สิ่งที่สามารถทำแทนกันได้ คือการเข้าไปล้างด้วยตนเองนี่แหละ ด้วยการเข้าไปที่ Setting > Storage แล้วเลือก Cache Data ในส่วนของ Clear Cache Data Prompt แต่ถ้าเป็นแคชที่แอปได้เก็บเอาไว้ ก็ไปที่ Setting เหมือนกัน แต่ให้เลือกที่ Apps > Downloaded แล้วเลือกแอปที่ต้องการจะล้างแคช แล้วกด Clear Cache ได้เลย

แอปจำพวก Antivirus

3

แอปตระกูลนี้ ถือว่าเป็นดาบสองคมของผู้ใช้งานเลยก็ว่าได้ ทั้งมีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ มีประโยชน์ตรงที่ใครที่ใช้งานแบบโลดโผน ลงแอป APK ในเครื่อง หรือเข้าเว็บแปลกๆ ที่ไม่รู้ว่ามีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า จะลงไว้ไม่เสียหาย แต่ถ้าไม่ได้เป็นแบบแรก ใช้งานอย่างดี ลงแอปผ่าน Play Store เท่านั้น ก็ไม่ต้องลงในเครื่องให้เปลืองพื้นที่ เปลืองแรม เปลืองพลังงานเครื่องก็ได้ เพราะ Google ป้องกันระบบผู้ใช้มาอย่างดีพอสมควร ถ้าต้องการฟังก์ชั่นติดตามเครื่องก็ทำผ่าน Android Device manager ก็ได้

แอปที่ช่วยประหยัดแบต

4

อันนี้จะคล้ายๆ กับแอปที่เคลมว่าคืนพื้นที่ให้แรมได้ แต่จะเป็นแอปที่ช่วยบริการจัดการการใช้แบตเตอรี่ของเครื่องได้ ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นที่ต้องลงแอปเหล่านี้เพื่อช่วยบริหารจัดการอีกแรง เพราะว่าในเครื่องแอนดรอยด์ทุกเครื่อง จะมีหน้ามอนิเตอร์แบตเตอรี่ที่ใช้งานอยู่แล้ว จะคอยพยากรณ์ว่าในจำนวนแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ในตอนนี้ จะใช้งานได้นานเท่าไหร่ และยังดูได้อีกว่าแอปไหนบ้างที่ใช้พลังงานจากเครื่องเราออกไปเท่าไหร่

ที่สำคัญคือฟังก์ชั่นที่จำเป็นในการจัดการแบตเตอรี่นั้นจำเป็นต้อง Root เครื่องเพื่อเข้าถึง แอปส่วนใหญ่จึงทำหน้าที่ได้แค่บอกว่าแอปอะไรที่กินแบตมากเท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อเทียบกับพื้นที่ที่เสียไป โฆษณาในเครื่องที่มากขึ้น ก็ไม่คุ้มค่าที่จะลงแอปพวกนี้

แอปที่แถมมากับเครื่องแต่เราไม่เคยแตะต้องมันเลย (Bloatware)

5

ทั้งนี้ รวมถึงแอปที่เราติดตั้งไว้ในเครื่อง แต่เราไม่เคยแตะมันเลยเช่นกัน แอปเหล่านี้ไม่ใช่ไม่ดี แต่แอปที่เข้ากรุ๊ปนี้ล้วนไม่ดีต่อพื้นที่ความจำในตัวเครื่องที่เรามี เพราะเหมือนเป็นการทำให้ที่เก็บข้อมูลในเครื่องนั้น ค่อยๆ หมดลงไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใช่ว่าแอปทุกตัวที่ติดตั้งมากับเครื่องจะลบได้หมด บางแอป บางตัว ก็ลบออกไม่ได้ ซึ่งอันนี้ต้องทำใจกับมันไปละกัน… ทางแก้แบบไม่รูทเครื่องคือ ซื้อรุ่นที่มีแอปแถมน้อยๆ ครับ

สุดท้ายนี้ ขึ้นอยู่กับตัวของผู้ใช้งานเองว่า จะเลือกใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณในแบบไหน ใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือไม่ก่อประโยชน์ ขึ้นอยู่กับตัวคุณ ส่วนแอปที่เข้าข่ายทั้ง 5 ประเภทนี้ ถ้าเลี่ยงได้ ก็ควรเลี่ยง จะดีที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook