[Hands On] รีวิวสัมผัสแรกที่ได้ลองเล่น “Huawei Mate 20 Pro” กับประสบการณ์ 1 วันเต็ม
หลังจากเปิดตัวเพียงเวลาแค่ 1 วันเท่านั้นทีม Sanook! Hitech ก็ได้รับ Huawei Mate 20 Pro รุ่นใหม่แกะกล่องมาทดลองใช้งาน แต่ก่อนที่จะถึงเวลารีวิวนั้น ทีม Sanook! Hitech ได้ทดลองใช้งานกับประสบการณ์เบื้องต้นในเวลา 1 วันจะเจออะไรบ้าง มาดูกันดีกว่า
รายละเอียดของรุ่น Huawei Mate 20 Pro
- มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาด 6.39 นิ้ว มาพร้อมจอ AMOLED display, ความละเอียด 1440 x 3120 พิกเซล อัตตราส่วน 19.5:9
- ขนาด 157.8 x 72.3 x 8.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 189 กรัม
- มาตรฐานกันน้ำ / กันฝุ่น : IP68
- ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 (Pie)
- หน่วยประมวลผล : Kirin 980 Octa Core
- หน่วยความจำแรม (RAM) 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM)128GB ไม่รองรับ Micro SD
- รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)
- กล้องด้านหลัง Leica 3 ตัว
- กล้องตัวแรก มาพร้อมความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด f/1.8, เลนส์ขนาด 27 mm. เซนเซอร์ขนาด 1/1.7 , PDAF Wide Lens + PDAF, Laser Focus
- กล้องตัวที่ 2 มาพร้อมความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด f/2.2, เลนส์ขนาด 16 mm. เซนเซอร์ขนาด 1/2.4 (ultrawide) + PDAF, Laser Focus
- กล้องตัวที่ 3 มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด f/2.4 Telephoto + PDAF + Laser Focus + OIS, - กล้องด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด f/2.0
- พอร์ตชาร์จ USB-C รองรับ Super Charge 40W
- แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh (Standard Battery) รองรับ Wireless Charge
- สแกนนิ้วในหน้าจอ และมีระบบสแกนใบหน้าแบบ 3D
- สี: Emerald Green, Midnight Blue, Twilight, Pink Gold, Black
- ราคา: ยังไม่ระบุ
ประสบการณ์กับรูปร่างของเครื่อง Huawei Mate 20 Pro
แรกเห็นด้านหน้าของเครื่องให้ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างจาก Huawei P20 Pro สักเท่าไหร่ แต่เมื่อเทียบขนาดจริงๆ แล้ว Huawei Mate 20 Pro จะมีหน้าจอใหญ่กว่าที่ 6.39 นิ้ว AMOLED และเป็นแบบโค้งทำให้ตัวเครื่องดูไม่ใหญ่อย่างที่คิด ความละเอียด QHD+ ที่คมชัดและละเอียด แต่ว่าถ้าอยากประหยัดไฟควรปรับแค่ Full HD แถมยังรองรับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
ส่วนบนอัดแน่นด้วยเซนเซอร์มากมายของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Depth Sensor, กล้องสแกนใบหน้าแบบ 3D, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล อินฟราเรด และ ลำโพงที่เป็นได้ทั้ง Stereo และ ใช้สนทนาก็ได้
ส่วนล่างมีแค่ปุ่มสั่งงาน Android เท่านั้น สามารถสลับได้เหมือนเดิม ก็เหมือนกับมือถือในยุคปัจจุบัน
ด้านข้างเครื่องออกแบบได้นุ่มนวล มาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดเครื่องคลิปด้วยสีแดงที่ฝั่งขวา
ด้านข้างซ้ายกลับไม่ได้ใช่องเสียบอะไรมา
ด้านบนมีอินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Dual SIM ที่แปลกตา, ไมโครโฟน และ ลำโพงตัวเครื่องที่อยู่ในช่อง USB-C
ส่วนด้านหลังของเครื่องมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวที่เรียกเป็นสี่เหลี่ยม พร้อมกับ LED Flash แม้ว่าจะสวยงามด้วยความเงา แต่ก็ฝั่งไปด้วยความล้ำยุคเพราะมี NFC, Wireless Charge ในตัว ภาพรวมถือว่าน่าสนใจ และออกแบบได้รับกับมือจริงๆ แต่ว่า เครื่องค่อนข้างลื่น จนต้องแนะนำว่าใส่เคสดีกว่า
ฟีเจอร์ที่พบเจอใน 1 วันจากที่ได้ทดลอง
ระยะเวลา 1 วันกับมือถือเรือธงอย่าง Huawei Mate 20 Pro ก็มีฟีเจอร์ที่คุณสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากมายเช่น
EMUI 9 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับ Android Pie 9.0 รุ่นใหม่ จุดเด่นในเรื่องของความคล่องตัวและการใช้ AI เข้ามาประมวลผลและทำให้การทำงานลงตัวขึ้น แม้ว่าบางจุดยังคงเหมือนเดิม
Reverse Wireless Charge ปกติมือถือจะรับไฟจากแท่นชาร์จได้ แต่สำหรับ Mate 20 Pro เป็นมือถือที่ใช้ตัวมันเอง ปล่อยไฟออกให้มือถือเครื่องอื่นได้ผ่าน Wireless Charge มีเงื่อนไขว่าต้องเปิดฟีเจอร์ใน Setting และมือถือที่ชาร์จไฟได้ต้องรองรับ Wireless Charge เหมือนกัน
ระบบความปลอดภัยทั้งสแกนลายนิ้วมือ และสแกนใบหน้ายังคงมีให้ ข้อดีคือสแกนลายนิ้วือทำงานเร็วมาก และสแกนใบหน้าทำงานในที่แสงน้อยก็ดีเหมือนกัน
มาลองฟังเพลงสักหน่อย ตัวเครื่องได้ลำโพง Stereo ที่คมชัด และมีระบบ Dolby ATMOS มาให้ เมื่อฟังผ่านหูฟัง ก็คมชัดดี ทั้งแบบสายและ Bluetooth
ทั้งหมดที่ดูลื่นไหลเกิดจาก CPU Kirin 980 รุ่นล่าสุด ทำงานคู่กับ RAM 6GB ความจำ 128GB แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ขอเล่าเรื่องการเล่นเกมนะครับ ขอติดไว้ในรีวิวดีกว่า
มาถึงเรื่องกล้อง 3 เลนส์ที่มีเทคโนโลยี AI ด้วยให้การถ่ายภาพที่ตอบสนองได้ดีทั้งมุมกว้างและ การซูมได้ครบช่วง ส่วนกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล ทำงานได้ดี และมี AR ให้เล่น ส่วนฟีเจอร์เด็ดอย่างการสแกนวัตถุแบบ 3D ขอติดไว้รีวิวเหมือนเคย
(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei Mate 20 Pro)
สรุปหลังจากทดลองใช้ Huawei Mate 20 Pro ในระยะเวลา 1 วัน
จัดว่าเป็นมือถือที่น่าสนใจ เพราะลูกเล่นเยอะจนหลายคนบอกว่าสัมผัสเต็ม ๆ 1 วันอาจจะเล่าเรื่องได้ไม่หมด แต่ยอมรับว่าเป็นมือถือที่เด่นทั้งการทำงานของตัวเครื่องที่ลื่น, กล้องครบช่วงถ่ายภาพได้สวยและลงตัว, เทคโนโลยี Wireless Charge ที่จ่ายไฟเข้าออกได้รวดเร็ว
แต่จุดด้อยยังคงมีอยู่ที่เห็นในบางเรื่อง ทั้งหมดนี้ขอเล่าเท่านี้ก่อน ไว้เมื่อทีม Sanook! Hitech ทดสอบเครื่องครบทุกจุดจนออกมาเป็นรีวิว ค่อยมาสรุปอีกครั้งว่าคุ้มค่าหรือไม่ รวมไปถึงราคาด้วยครับ
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ